posttoday

ค้าปลีกรับลูกรัฐ อ้อนยืดหยุ่นจ้างสูงอายุ

04 สิงหาคม 2560

จากการสำรวจของ สศช. พบว่า ในปี 2547 กลุ่มประชากรผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เริ่มมีสัดส่วนมากกว่า 10% และเพิ่มขึ้นเป็น 11% หรือประมาณ 7 ล้านคนในปัจจุบัน

โดย...จะเรียม สำรวจ

จากการสำรวจของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พบว่า ในปี 2547 กลุ่มประชากรผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เริ่มมีสัดส่วนมากกว่า 10% และเพิ่มขึ้นเป็น 11% หรือประมาณ 7 ล้านคนในปัจจุบัน ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2567 ประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป จะมีสัดส่วนมากกว่า 20%

จำนวนผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ภาครัฐต้องออกมาประกาศมาตรการส่งเสริมให้ภาคธุรกิจให้จ้างงานกลุ่มผู้สูงอายุ ด้วยการให้สิทธิประโยชน์จูงใจผ่านมาตรการด้านภาษีเพื่อสนับสนุนบริษัทเอกชนจ้างคนอายุเกิน 60 ปีเข้าทำงาน โดยสามารถนำรายจ่ายมาหักภาษีได้ 2 เท่า เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา และมีผลย้อนหลังไปจนถึงปี 2559 ซึ่งในส่วนของจำนวนการจ้างงานนั้นจะต้องไม่เกิน 10% ของจำนวนแรงงานทั้งหมด เช่น พนักงานทั้งบริษัทมี 200 คน จะจ้างผู้สูงวัยที่อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปได้ไม่เกิน 20 คน นอกจากนี้ยังกำหนดค่าจ้างที่จ้างผู้สูงอายุรวมกันจะต้องไม่เกิน 10% ของรายจ่ายค่าจ้างในบริษัทนั้นๆ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาในแง่กฎหมาย การจ้างงานผู้สูงอายุภายหลังเกษียณตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 พบว่า นายจ้างจะต้องจ่ายเงินชดเชยภายหลังสัญญาจ้างหมดลงด้วย อันอาจเกิดความไม่เป็นธรรมแก่นายจ้างที่จะต้องเสียค่าชดเชยจ้างแรงงานผู้นั้นถึง 2 ครั้ง ทำให้การจ้างแรงงานหลังเกษียณอาจไม่ดึงดูดใจนายจ้างอีกต่อไป ตรงกันข้ามกับการเลี่ยงกฎหมายของนายจ้างที่อาจใช้การทำสัญญาจ้างราย 11 เดือนขึ้นมาแทน เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าชดเชยที่จะไม่เป็นธรรมแก่ลูกจ้าง จากปัจจัยดังกล่าวภาครัฐจึงต้องออกมาประกาศมาตรการกระตุ้นการจ้างงานผู้สูงอายุ ด้วยการสร้างแรงจูงใจให้นำค่าจ้างมาลดหย่อนภาษีได้

มาตรการดังกล่าวสร้างความสนใจกับผู้ประกอบการค้าปลีกพอสมควร เห็นได้จากการที่หลายบริษัทออกมาประกาศรับผู้สูงอายุเข้าทำงานในตำแหน่งต่างๆ ผ่านโครงการ พี่ใหญ่ ไฟแรง โดยเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป

โอลิเวอร์ ก็อตชัลล์ รองประธานทรัพยากรมนุษย์และกลยุทธ์องค์กร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ห้างค้าปลีกในกลุ่มบริษัท บีเจซี กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมพัฒนาสังคมและส่งเสริมการมีงานทำสำหรับผู้สูงอายุผ่านโครงการ พี่ใหญ่ ไฟแรง เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปที่มีศักยภาพและมีความสามารถเข้ามาร่วมงานในตำแหน่งต่างๆ เช่น พนักงานต้อนรับลูกค้า รับโทรศัพท์ ธุรการ พนักงานประจำศูนย์อาหาร พนักงานฝ่ายอาหารสด และเภสัชกรร้านยาเพียว เป็นต้น

ตำแหน่งงานต่างๆ ที่ห้างบิ๊กซีได้เปิดรับดังกล่าวสามารถรองรับผู้สูงอายุที่ต้องการเข้าร่วมงานได้กว่า 1,000 ตำแหน่ง ในกว่า 130 สาขาทั่วประเทศ โดยห้างบิ๊กซีได้เริ่มเปิดตัวผู้สูงอายุเข้าทำงานตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้รับความสนใจเป็นที่น่าพอใจ

โอลิเวอร์ กล่าวอีกว่า บริษัทรู้สึกยินดีมากๆ กับโครงการรับผู้สูงอายุเข้าร่วมงาน เพราะจะทำให้บริษัทได้เรียนรู้พฤติกรรมของกลุ่มผู้สูงอายุจากประสบการณ์การทำงานของผู้สูงอายุ นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างสังคมใหม่ในการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใหญ่ที่มากด้วยประสบการณ์ใหม่ ที่เรียกว่าพี่ใหญ่กับน้องๆ ซึ่งเป็นพนักงานรุ่นใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ร่วมกัน

ด้านอิเกียก็เข้าร่วมด้วยการเปิดรับกลุ่มผู้สูงอายุเข้าร่วมทำงานไปพร้อมกับกลุ่มผู้มีประสบการณ์ และคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมงานกับสาขาบางใหญ่ที่จะเปิดให้บริการในต้นปี 2561 นี้ ซึ่ง รูปแบบของการสมัครก็จะมีทั้งพนักงานประจำและพนักงานพาร์ตไทม์ พร้อมระบุชัด "ไม่จำกัดอายุ วุฒิการศึกษา และประสบการณ์การทำงาน"

ศิระวีรย์ เนื่องศรี รองผู้จัดการทั่วไปสโตร์ อิเกีย บางใหญ่ กล่าวว่า บริษัทเปิดกว้างสำหรับทุกคนที่จะเข้ามาร่วมงาน โดยไม่จำกัดอายุ วุฒิการศึกษา และประสบการณ์ เพื่อขานรับนโยบายของรัฐ สร้างความมั่นคงให้กับผู้สูงอายุ ด้วยการเปิดบ้านต้อนรับแรงงานวัยเกษียณ รุ่นใหญ่ไฟแรง เข้าร่วมงาน ซึ่งแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าวถือว่าสอดคล้องกับมีวิชั่นของบริษัทที่มองทุกคนมีศักยภาพและมุ่งสร้างสรรค์ชีวิตที่ดีกว่าให้คนทั่วไปทุกวัน

ในส่วนของอิเกีย บางใหญ่ จะเปิดรับพนักงานพาร์ตไทม์มากกว่า 250 ตำแหน่ง ซึ่งรูปแบบของการรับสมัครจะมีการสัมภาษณ์กลุ่ม เพื่อพูดคุยว่าตัวตนของผู้สมัครตรงกับค่านิยมของอิเกียหรือไม่ เพื่อให้ได้พนักงานที่มีความชื่นชอบแต่งบ้านและมีใจรักบริการ ซึ่งในส่วนของค่าตอบแทนจะจ่ายชั่วโมงละ 64 บาท

ศิระวีรย์  กล่าวอีกว่า หลังจากเปิดรับพนักงานมีผู้ให้ความสนใจค่อนข้างมาก เนื่องจากค่าแรงค่อนข้างสูงกว่ามาตรฐาน แต่อย่างไรก็ดี เนื่องจากองค์กรของบริษัทเป็นองค์กรข้ามชาติ พนักงานจึงต้องมีความสามารถในเรื่องของภาษาอังกฤษ เนื่องจากบางครั้งหัวหน้างาน พนักงานในบางส่วน หรือผู้จัดการสโตร์บางคนเป็นชาวต่างชาติ ดังนั้นการสื่อสารจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่หากใครยังไม่สามารถสื่อสารได้บริษัทก็จะมีคลาสสอนภาษาอังกฤษ และการได้ทำงานร่วมกัน เพื่อฝึกภาษาไปในตัว

แม้ว่าจะตบเท้ารับลูกมาตรการที่รัฐประกาศออกมา แต่ค้าปลีกบางส่วนก็อยากให้ภาครัฐมีความยืดหยุ่นในมาตรการ เพื่อให้กลุ่มผู้สูงอายุสามารถเลือกช่วงเวลา และมีโอกาสได้เข้ามาร่วมทำงานตามศักยภาพของตัวเองที่มี เนื่องจากผู้สูงอายุแต่ละคนมีศักยภาพไม่เท่ากัน

บุษบา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายสื่อสาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลพร้อมสนับสนุนการรับกลุ่มผู้สูงอายุเข้าร่วมงานธุรกิจในเครือ แต่อย่างไรก็ดี อยากให้รัฐมีความยืดหยุ่นมากกว่าปัจจุบัน ด้วยการแก้กฎหมายค่าจ้างแรงงานจากรายวันเป็นรายชั่วโมง เพื่อให้สอดรับกับศักยภาพการทำงานของผู้สูงอายุ และเปิดกว้างให้กลุ่มผู้สูงอายุที่เป็น กลุ่มแม่บ้านเข้ามาทำงานเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มผู้สูงอายุที่สามารถทำงานได้จะมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีศักยภาพหลังจากเกษียณอายุงาน และกลุ่ม แม่บ้าน ซึ่งกลุ่มนี้อาจจะต้องการทำงานเป็นบางช่วงเวลา