posttoday

ควักกองทุนฯคงราคาแอลพีจี

03 สิงหาคม 2560

กบง.ตรึงราคาแอลพีจีเดือน ส.ค. 20.49 บาท/กก. สวนทางตลาดโลกขาขึ้น ดึงเงินกองทุนน้ำมันฯ พยุงราคาช่วยภาคประชาชน

กบง.ตรึงราคาแอลพีจีเดือน ส.ค. 20.49 บาท/กก. สวนทางตลาดโลกขาขึ้น ดึงเงินกองทุนน้ำมันฯ พยุงราคาช่วยภาคประชาชน

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ที่ประชุม กบง.เห็นชอบให้มีการคงราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เดือน ส.ค. 2560 อยู่ที่ 20.49 บาท/กิโลกรัม (กก.) แม้ราคาตลาดโลกจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 85 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน โดยใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปชดเชย 2.63 บาท/กก. จากเดิมที่ชดเชยอยู่ที่ 12 สต./กก. ส่งผลให้มีการชดเชยที่ 2.75 บาท/กก. ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายสุทธิที่ 511 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่มีรายจ่ายสุทธิ 40 ล้านบาท/เดือน ขณะที่บัญชีกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 3 ก.ค. 2560 อยู่ที่ 3.94 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีแอลพีจี 6,367 ล้านบาท และบัญชีน้ำมันสำเร็จรูป 3.3 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกอย่างใกล้ชิดในช่วง 2 สัปดาห์-1 เดือน เนื่องจากมีความกังวลต่อผลการประชุมกลุ่มประเทศโอเปกต้นเดือน ส.ค.นี้ และการบริหารจัดการน้ำมันของประเทศเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกที่ล้มเหลวอาจส่งผล กระทบราคาน้ำมันตลาดโลกได้

ทั้งนี้ ยังเห็นชอบปริมาณการรับซื้อไฟฟ้ารายภูมิภาคตามศักยภาพของแต่ละพื้นที่ สำหรับการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบอัตรารับซื้อไฟฟ้าตามต้นทุนที่แท้จริง (ฟีดอินทารีฟ) สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนรายเล็ก แบบผสมผสานตามสัญญาผลิตไฟฟ้าเสถียรสำหรับผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (เอสพีพี ไฮบริด เฟิร์ม) มีเป้าหมายรับซื้อ 300 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นภาคกลาง 20 เมกะวัตต์ กรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 เมกะวัตต์ ภาคตะวันออก 20 เมกะวัตต์ ภาคใต้ 100 เมกะวัตต์ ภาคตะวันตก 20 เมกะวัตต์ ภาคเหนือ 65 เมกะวัตต์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 60 เมกะวัตต์

อย่างไรก็ดี หากปริมาณการ รับซื้อไฟฟ้าไม่ครบตามเป้าหมายให้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน สามารถนำส่วนที่เหลือไปเปิดรับซื้อในภูมิภาคอื่นได้ โดยให้คำนึงถึงราคาการรับซื้อไฟฟ้าที่ต่ำที่สุดและศักยภาพของสายส่ง