posttoday

เศรษฐกิจรอบสัปดาห์

18 มิถุนายน 2560

หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกคำสั่งมาตรา 44 ที่ 30/2560 เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ม.44 เปิดหวูดรถไฟเร็วสูง

หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกคำสั่งมาตรา 44 ที่ 30/2560 เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา เรื่องมาตรการเร่งรัด และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการ โครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา โดยคาดว่าจะเริ่มตอกเสาเข็มได้ใน 120 วัน โดย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ชี้แจงถึงคำสั่งดังกล่าวจะช่วยให้การดำเนินงานโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.5 กิโลเมตร วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท เป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น รวมถึงคำสั่งยังช่วยยกเว้นข้อกฎหมายต่างๆ ที่ทำให้งานล่าช้า โดยเฉพาะกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ประกวดราคา และกำหนดราคากลาง ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และหน่วยงานของรัฐบาลจีนที่ใช้เวลาค่อนข้างนาน

เศรษฐกิจรอบสัปดาห์

ปล่อยกู้รถไฟฟ้าบีทีเอส 1 แสนล้าน

นายเดชา ตุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพเป็นผู้นำจัดหาเงินกู้สนับสนุนรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง โดยร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ สนับสนุนทางการเงินมูลค่า 1 แสนล้านบาท ให้กลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ผู้ได้รับสัมปทานโครงการดังกล่าว

ทั้งนี้ รูปแบบสินเชื่อจะเป็นสินเชื่อระยะสั้น (บริดจ์โลน) 3 ปี จากนั้นสินเชื่อดังกล่าวจะแปลงสภาพเป็นสินเชื่อระยะยาว (เทอมโลน) ในรูปการปล่อยกู้ร่วม (ซินดิเคตโลน) ต่อไป โดยขณะนี้มีธนาคารหลายแห่งสนใจเข้าร่วมสนับสนุน และจะทำให้ปีนี้ธนาคารปล่อยสินเชื่อขยายตัว 4-5% ตามเป้า

เศรษฐกิจรอบสัปดาห์

สภาตลาดทุนค้าน 3 ประเด็นกองทุน CMDF

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร กรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยผลประชุมประจำเดือนว่า ได้หารือถึงประเด็นที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความเห็นการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) โดยมีมติไม่เห็นด้วย 3 ประเด็น คือ 1.รูปแบบองค์กรที่มีฐานะเป็นหน่วยงานรัฐซึ่งมีกฎระเบียบจำนวนมาก ทำให้การทำหน้าที่ไม่มีประสิทธิภาพ ควรเป็นองค์กรเอกชนจะเหมาะสมกว่า 2.เงินประเดิมของกองทุนที่มาจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โอนมา 8,000 ล้านบาท และต้องนำส่งกำไรของ ตลท. 90% ด้วย ขณะที่ต่างประเทศจะเลือกส่งเงินมาที่กองทุนเพียงวิธีเดียว 3.ไม่เห็นด้วยที่ให้คณะกรรมการ CMDF ไม่มีโควตาบุคลากรตลาดทุนภาคเอกชน โดยเห็นว่าคณะกรรมการ CMDF ควรมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญตลาดทุนจากเอกชนร่วมด้วย

เศรษฐกิจรอบสัปดาห์

เก็บภาษีน้ำหวานกระทบธุรกิจเครื่องดื่ม

อุตสาหกรรมเครื่องดื่มจะได้รับผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีจากเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือที่เรียกว่าภาษีน้ำหวานของกรมสรรพสามิตในวันที่ 16 ก.ย.ที่จะถึงนี้ โดยภาคเอกชนให้เหตุผลว่า จะเป็นการซ้ำเติมภาคธุรกิจจากที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาอยู่ก่อนแล้ว เพราะภาษีดังกล่าวจะมีผลให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นจนทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อไป 3-6 เดือน ทำให้อุตสาหกรรมเครื่องดื่มอยู่ในภาวะทรงตัวจากปีก่อนที่มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 2.5 แสนล้านบาท สำหรับสินค้าที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำผัก และผลไม้ ขณะที่กรมสรรพสามิตระบุว่า การจัดเก็บภาษีน้ำหวานที่จะประกาศใช้วันที่ 16 ก.ย.นี้ หากผู้ประกอบการปรับตัวโดยการลดปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มลงก็จะมีอินเซนทีฟเสียภาษีน้อยลง แต่หากใครปรับไม่ทันก็จะให้เวลา 2 ปี หลังจากนั้นหากยังไม่ปรับตัวลดปริมาณน้ำตาลลงก็จะเก็บภาษีอัตราก้าวหน้าตามปริมาณน้ำตาลที่ใช้เป็นส่วนประกอบสินค้า