posttoday

บีทีเอสหวังโตเท่าตัวปี 2563

06 มิถุนายน 2560

บีทีเอส กรุ๊ป คาดปี 2563 ทำรายได้จากกลุ่มขนส่งมวลชนโต เท่าตัว คาดปีนี้ผู้โดยสารพุ่ง3-5%

บีทีเอส กรุ๊ป คาดปี 2563 ทำรายได้จากกลุ่มขนส่งมวลชนโต เท่าตัว คาดปีนี้ผู้โดยสารพุ่ง3-5%

นายดาเนียล รอสส์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการลงทุน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือบีทีเอส กรุ๊ป เปิดเผยว่า รายได้จากการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจระบบขนส่งมวลชนจะเติบโต 1 เท่าตัว จากที่มีรายได้ 4,237 ล้านบาท เป็น 8,237-9,237 ล้านบาท ตามรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสาย สีเขียวเหนือ (หมอชิต-คูคต) และใต้ (แบริ่ง-สมุทรปราการ) ที่จะเปิดให้บริการตลอดทั้งสายใน 1 ปี จะทำให้รายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้นอีก 4,000-5,000 ล้านบาท โดยรายได้จากกลุ่มธุรกิจระบบขนส่งมวลชนปัจจุบันคิดเป็น 49% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท

ทั้งนี้ บริษัทได้บรรลุข้อตกลงในการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้า 30.8 กิโลเมตร รวม 25 สถานี และคาดว่าจะเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ได้เต็มรูปแบบภายในปี 2561 ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายหลัก หลังจากได้เริ่มให้บริการเดินรถสถานีสำโรง สถานีแรกของส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ จึงประเมินว่าอัตราผู้โดยสารในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 3-5% จากปีก่อนที่มีผู้ใช้บริการ 238 ล้านคนเที่ยว ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เปิดให้บริการ และคาดว่าค่าโดยสารจะเพิ่มขึ้น 1%

"รายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้ยังไม่นับรวม รายได้ค่าโดยสารจากโครงการรถไฟฟ้า สายสีชมพูและสายสีเหลือง ที่คาดว่า จะให้บริการได้ภายในปี 2563" นาย ดาเนียล กล่าว

กลุ่มธุรกิจสื่อโฆษณาซึ่งดำเนินการโดยวีจีไอโกลบอลมีเดีย จะเติบโตอย่างโดดเด่น จากพื้นที่โฆษณาสถานีรถไฟฟ้าและรถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น จากที่มีพื้นที่โฆษณาในสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส 30 สถานี รวม 1หมื่นตารางเมตร และรถไฟฟ้า 52 ขบวน

นอกจากนี้ ยังมาจากแพลตฟอร์มพื้นที่สื่อโฆษณาที่หลากหลาย ทำให้ขายโฆษณาเป็นแพ็กเกจ นำเทคโนโลยีและพฤติกรรมของลูกค้ามาใช้วิเคราะห์เพื่อวางแผนสื่อโฆษณา รวมถึงการเข้าลงทุนใน บริษัท มาสเตอร์ แอด, แรบบิท กรุ๊ป, แอร์โรมีเดีย สื่อโฆษณาในสนามบินและเดโม เพาเวอร์ ซึ่งในปีนี้คาดว่าวีจีไอจะทำรายได้ 4,000 ล้านบาท และจะมีผู้ใช้บัตรแรบบิทในระบบกว่า 9.2 ล้านใบ

สำหรับกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะรับรู้กำไรจากโครงการคอนโดมิเนียมที่ร่วมทุนกับบริษัท แสนสิริ ในปีหน้า โดยแผนพัฒนาโครงการจะเกิดตามแนวรถไฟฟ้า โดยมีแผนพัฒนา 25 โครงการ มูลค่าขายกว่า 1 แสนล้านบาท ภายใน 5 ปี จากที่พัฒนาไปแล้ว 8 โครงการ รวม 4,382 ยูนิต มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท ปีนี้จะเปิดตัวคอนโดมิเนียมอย่างน้อย 4 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 1.2 หมื่นล้านบาท