เอกชนรุกหนักสินค้าผู้สูงอายุ

เครือสหพัฒน์ลุยตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคผู้สูงอายุ ชี้หากรัฐขยายอายุเกษียณราชการ จะดันกำลังซื้อภายในประเทศสูงขึ้น

นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนพิบูล ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า นโยบายการจ้างงานกลุ่มผู้สูงอายุของภาครัฐ โดยมีแนวคิดจะขยายอายุเกษียณราชการเป็น 65 ปี จะส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้คนกลุ่มดังกล่าวมีกำลังซื้อที่สูงขึ้น บริษัทมองว่าเป็นโอกาสทางการตลาด โดยเฉพาะการผลิตสินค้ากลุ่มอาหารหรือเครื่องดื่มสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุโดยเฉพาะ

“ก่อนหน้านี้บริษัทในเครือได้เปิดตัวเครื่องดื่มฮาร์ทติ เบเนคอล เจาะกลุ่มผู้ดื่มค่อนข้างมีอายุ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเครื่องดื่มคอลลาเจน สตาร์ อินฟินิติ และในอนาคตจะพัฒนาเครื่องดื่มหรืออาหารให้ตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ในขณะนี้บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย ได้ร่วมมือกับไลอ้อน ญี่ปุ่น พัฒนาสินค้าที่เป็นของใช้สำหรับผู้สูงอายุเฉพาะออกมาแล้ว” นายบุญชัย กล่าว

ด้าน นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายของใช้ในครัวเรือน กล่าวว่า กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปถือว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง เพราะจะกลายเป็นประชากรที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะนี้มีสัดส่วนผู้สูงอายุอยู่ประมาณ 13-14% ของจำนวนประชากรของ 70 ล้านคน คาดว่าภายในปี 2563 กลุ่มผู้สูงอายุจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 20% ของประชากรทั้งหมด

ทั้งนี้ บริษัทจึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุภายใต้แบรนด์ “กูดเอจ” ขึ้นมา โดยมีสินค้าทั้งหมด 4 รายการ ได้แก่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก สกินแคร์ และหลังจากนี้จะทยอยพัฒนาสินค้าสำหรับผู้บริโภคกลุ่มผู้สูงอายุลงสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สำหรับการทำตลาดในกลุ่มนี้ต้องป้อนข้อมูลความรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เกิดการใช้งานตามเซ็กเมนต์ของสินค้า

นายสมบุญ ประสิทธิ์จูตระกูล นักการตลาด ให้ความเห็นว่าการทำตลาดสินค้าในกลุ่มผู้สูงอายุยังเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ปัจจุบันมีเพียงยาสีฟันที่แตกเซ็กเมนต์ออกมาเจาะกลุ่มผู้สูงอายุ ขณะที่โอกาสทางการตลาดของสินค้าสำหรับผู้สูงอายุยังมีอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนสสำหรับผู้สูงอายุ เครื่องดื่มหรืออาหารที่มีคุณค่าทางโภชนา เช่น มีแป้งเป็นส่วนผสมน้อย ข้าวทำมาจากข้าวกล้อง เป็นต้น

ขณะที่การทำตลาดต้องเน้นเจาะกลุ่มผู้สูงอายุระดับเอ-บี หรือกลุ่มผู้สูงอายุในระดับผู้บริหาร เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ส่วนกลุ่มระดับซีลงไป ส่วนใหญ่ลูกหลานจะเป็นผู้ดูแลและซื้อสินค้าให้ ดังนั้นกลยุทธ์ที่สำคัญในการทำตลาดคือการสื่อสารในลักษณะตอบแทนบุญคุณหรือเป็นลูกกตัญญูแทน ถึงจะกระตุ้นยอดขายได้ผลดี

ด้านสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนมีแนวคิดขยายอายุเกษียณราชการจากเดิม 60 ปี เป็น 65 ปี โดยเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 แต่รัฐบาลต้องการให้ศึกษาเรื่องนี้ให้รอบคอบก่อน