posttoday

บุญรอดฯจัดทัพขึ้นท็อปเอเชีย

21 พฤษภาคม 2559

บุญรอดฯ ปรับโครงสร้าง ตั้ง “ปิติ” ดันการเติบโตในประเทศ ส่ง “พลิศร์” กว้านซื้อธุรกิจร่วมทุนต่างประเทศ

บุญรอดฯ ปรับโครงสร้าง ตั้ง “ปิติ” ดันการเติบโตในประเทศ ส่ง “พลิศร์” กว้านซื้อธุรกิจร่วมทุนต่างประเทศ

แหล่งข่าวจากบริษัท บุญรอดบริว เวอรี่ ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย เช่น เบียร์สิงห์ ลีโอ เปิดเผยว่า นโยบายของนายสันติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ ต้องการปรับโครงสร้างภายในบุญรอดบริวเวอรี่ครั้งใหญ่ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทในระยะยาว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยได้แต่งตั้งให้นายปิติ ภิรมย์ภักดี เป็นกรรมการผู้จัดการธุรกิจซัพพลายเชน รับผิดชอบการบริหาร บริษัท ลีโอ ลิ้งค์ และบริษัท บุญรอดเอเซีย จากตำแหน่งเดิม คือ กรรมการ ผู้จัดการ ในบริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง

ทั้งนี้ ตำแหน่งใหม่ทำหน้าที่การบริหารระบบซัพพลายเชน จากเดิมตำแหน่งหน้าที่ คือ การบริหารงานด้านการทำตลาด เพื่อสร้างความเชื่อมโยงของธุรกิจในเครือทั้งหมด ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการผลิต ระบบโลจิสติกส์ ดิสทริบิวเตอร์ ซัพพลายเออร์ การทำตลาดในช่องทางค้าปลีกและผู้บริโภค ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ เพราะการทำธุรกิจเบียร์ในขณะนี้เผชิญกับความท้าทายตลาดที่อิ่มตัว โดยปีที่ผ่านมามีมูลค่า 1.5-1.6 แสนล้านบาท โตเพียง 1%

ขณะที่นายพลิศร์ ภิรมย์ภักดี ได้รับการแต่งตั้งรับผิดชอบการบริหารธุรกิจ บริษัท สิงห์ เอเชีย โฮลดิ้งส์ และบริษัท สิงห์ รีเจนนัล โฮลดิ้ง จากเดิมเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง เพื่อรับผิดชอบการดูแลเจรจาซื้อกิจการ ร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจในต่างประเทศ เพราะเป็นบุคลากรที่มีศักยภาพทางด้านนี้ ผลงานล่าสุดเป็นผู้เข้าไปเจรจาซื้อหุ้น เมซานกรุ๊ป ด้วยเงินลงทุนร่วม 4 หมื่นล้านบาท เพื่อรุกธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในเวียดนาม และมีกระแสข่าวว่ากำลังเซ็นสัญญาอีก 2 ราย กับผู้ประกอบการอาเซียน 

ก่อนหน้านี้ นายปิติ ภิรมย์ภักดี กรรมการบริหาร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์สิงห์ กล่าวว่า แผนธุรกิจบุญรอดบริวเวอรี่ในอีก 5 ปีข้างหน้า (ปี 2558-2562) กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องมีอัตราเติบโตมากกว่าเท่าตัว หรือรายได้เพิ่มจาก 1.2 แสนล้านบาท เป็น 2.5 แสนล้านบาท ในส่วนของการบริหารในประเทศ ตลาดที่อิ่มตัวทำให้ต้องลงมาดูแลด้านการบริหารต้นทุนต่างๆ เพื่อทำธุรกิจให้มีกำไรมากยิ่งขึ้น จึงทำให้ต้องมีระบบบริหารซัพพลายเชน

สำหรับแผนบริษัทเตรียมงบลงทุน 1,000 ล้านบาทในรีจินัล โดยจะรุกตลาดมาเลเซีย กัมพูชา เมียนมา สปป.ลาว เวียดนาม และจีน ภายใน 3 ปีนี้ รายได้ต้องเติบโต 15-20% ผลักดันธุรกิจของเบียร์สิงห์มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มจาก 8% เป็นถึง 15% หรือเท่ากับว่าต้องมีเงินกลับเข้ามาประเทศ 1 หมื่นล้านบาท พร้อมกับวางเป้าหมายก้าวสู่ท็อปไฟว์ในเอเชีย ฐานะผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และนันแอลกอฮอล์