posttoday

ประชาสังคมดับไฟใต้คืบ-ผู้แทนพิเศษหนุนเดินหน้าต่อปี61

16 ธันวาคม 2560

ศอ.บต.เผยประชาสังคมดับไฟใต้คืบ 80 เปอร์เซ็นต์ คณะผู้แทนพิเศษหนุนเดินต่อปี 61 อีก 65 ล้านบาท

ศอ.บต.เผยประชาสังคมดับไฟใต้คืบ 80 เปอร์เซ็นต์ คณะผู้แทนพิเศษหนุนเดินต่อปี 61 อีก 65 ล้านบาท

นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์  รองเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยว่า โครงการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่ง ศอ.บต.ให้การสนับสนุนทุนดำเนินการ 50 ล้านบาทกับ 223 องค์กรภาคประชาสังคม ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนกันยายนและจะสิ้นสุดโครงการในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ มีความคืบหน้าแล้วไม่ต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจากการติดตามประเมินผลเป็นระยะ หลายองค์กรดำเนินภารกิจเสร็จสิ้น  กระแสการตอบรับค่อนข้างดี สร้างการตื่นตัวของภาคประชาสังคม สร้างการเรียนรู้  ความเข้าใจในการทำงานร่วมกัน ที่สำคัญคือ มีการเสนอปัญหาเป็นโครงการที่ชัดเจน ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งคิดโครงการ ลดความซ้ำซ้อนและงานที่ขับเคลื่อนลงไปจะมีเอกภาพ และประสิทธิภาพมากขึ้น  ที่สำคัญในหลายพื้นที่ หลายกลุ่มเป้าหมายซึ่งภาครัฐยังไม่สามารถเข้าใจ เข้าถึงและพัฒนาได้อย่างเต็มที่  กระบวนการของภาคประชาสังคมสามารถลงลึกได้ สามารถลงไปเรียนรู้ ทำความเข้าใจได้มาก  ซึ่งจะช่วยตอบนโยบายอีกข้อหนึ่งของรัฐบาลในการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจและเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเป็นรูปธรรม

รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า  จำนวนโครงการที่มีเสนอขอรับทุน  490 องค์กรแสดงให้เห็นถึงการตอบรับและเป็นกระแสเรียกร้องขององค์กรภาคประชาชนสังคม ซึ่งคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลมีมติ ให้จัดทำคำของบประมาณโครงการนี้ไว้ต่อเนื่อง  โดย ศอ.บต.ได้จัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติมแล้ว ซึ่งในปี 2561 องค์กรภาคประชาสังคมที่ยื่นเสนอโครงการแล้วยังไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณก็จะมีการพัฒนาศักยภาพเพื่อให้สามารถเดินงานตามโครงการที่เสนอได้ ส่วนองค์กรที่ได้รับทุนไปแล้วก็จะมีการประเมินเพื่อสนับทุนให้เกิดการพัฒนาเชิงคุณภาพยิ่งขึ้น

“มาถึงวันนี้ได้มีการปรับมิติแนวคิดหลายส่วน หลายหน่วยงานอาจจะมองภาคประชาสังคมในแง่ลบแต่วันนี้เราได้มาทำงานขับเคลื่อนด้วยกัน ได้สร้างความเข้าใจและพัฒนาขึ้นมาว่า ทุกคนมีอุดมการณ์ ความคิดที่จะช่วยกันแก้ปัญหาของบ้านเมือง ทำให้หน่วยงานภาครัฐมองภาคประชาสังคมในทิศทางที่ดีขึ้น” รองเลขาธิการ ศอ.บต. ระบุ

ประชาสังคมดับไฟใต้คืบ-ผู้แทนพิเศษหนุนเดินหน้าต่อปี61 ปรีชา ชนะกิจกำจร

 นายปรีชา ชนะกิจกำจร ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาบุคลากร ศอ.บต. กล่าวว่า  ในปี 2561  ศอ.บต.ของบประมาณเพื่อดำเนินโครงการต่อเนื่องจำนวน  65 ล้านบาทเพื่อกระจายงบประมาณให้องค์กรภาคประชาสังคมที่มีความตั้งใจอย่างทั่วถึง  องค์กรภาคประชาสังคมที่ขอรับทุนไม่จำเป็นต้องเชียร์ภาครัฐ แต่ขอให้เอาความจริงไปบอกประชาชนโดยไม่มีการบิดเบือน ซึ่งแนวทางในปี 2561 ก็จะคำนึงถึงเนื้องานในเชิงคุณภาพ ขณะเดียวกันองค์กรที่ยังไม่ได้รับทุนหรือเป็นองค์กรน้องใหม่ก็จำเป็นต้องสร้างขึ้นมา และมีโอกาสพิสูจน์ตัวเองด้วย

ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาบุคลากร ศอ.บต. กล่าวว่า  องค์กรภาคประชาสังคม ทำหน้าที่เปรียบเหมือนโซ่ข้อกลาง ที่นำงบประมาณไปสร้างประโยชน์สู่ชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินการไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยนำข้อเท็จจริงของภาครัฐไปสู่ชาวบ้านและนำปัญหาข้อคิดเห็นของประชาชนกลับมาสู่รัฐเพื่อสรุปถอดบทเรียน  ทั้งนี้โครงการที่ผ่านมา มีการขยายพื้นที่กิจกรรมออกไปยังพื้นที่รอบนอก ไม่จำกัดเฉพาะในเขตเมือง คิดเป็นสัดส่วน 3 ต่อ 1 และยังมีความหลากหลายในเรื่องสาขากลุ่มอาชีพ ที่สำคัญ คือ กระแสการตอบรับเพิ่มขึ้น ตอบโจทย์การสร้างความเข้าใจของประชาชน ซึ่งเชื่อว่าจะแปรมาเป็นพลังสนับสนุนนโยบายภาครัฐต่อไป

“สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงคือ บรรยากาศ เมื่อประชาชนมีความเข้าใจในนโยบายภาครัฐก็จะเกิดความร่วมมือร่วมใจ บรรยากาศการทำงานร่วมกันจะนำไปสู่การขับเคลื่อนแนวทางพัฒนาและแก้ปัญหา ไม่ว่า จะเป็นนโยบายการพูดคุยสันติภาพหรือนโยบายสำคัญของภาครัฐ"

สำหรับโครงการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ เป็นการสนับสนุนงบประมาณให้กับองค์กรภาคประชาสังคม ซึ่งผลักดันโดยคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลโดยให้ ศอ.บต.เป็นกลไกลขับเคลื่อน ในปี 2560 นำร่องภายใต้งบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนประเด็นการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมใน 10 ประเด็น คือ

1) การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
2) การอำนวยความยุติธรรมและเยียวยา
3) การสร้างความเข้าใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งเรื่องสิทธิมนุษยชน
4) การศึกษา ศาสนา และศิลปวัฒนธรรม
5) การพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ และคุณภาพชีวิตประชาชน
6) งานขับเคลื่อนนโยบายการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ปี 60-61
7) การแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งโดยสันติวิธี
8) งานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
9) งานขับเคลื่อนการพัฒนาโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
และ 10) งานพัฒนาศักยภาพขององค์กรภาคประชาสังคม