สุดเศร้าเผาศพหนุ่มพิการเหยื่อแก๊งโจ๋รุมทำร้าย

ญาติจัดพิธี ฌาปนกิจศพหนุ่มพิการถูกแก๊งวัยรุ่นรุมทำร้าย 20 ต่อ 1 จนเสียชีวิต แม่ขอยกให้เป็นอุทาหรณ์ ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่วัดป่าสามัคคีธรรม บ้านอาจญา ต.น้ำเขียว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์  ได้มีการจัดงานฌาปนกิจศพนายอำพล แย้มศักดิ์ หนุ่มพิการ อายุ 17 ปี  ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นต่างหมู่บ้านดักรุมทำร้าย 20 คนต่อ 1 คน จนเสียชีวิตที่ริมถนนสายบ้านอาจญา-บ้านม่วงบุญมี ม. 5 ต.น้ำเขียว ก่อนถึงทางเข้าหมู่บ้านเพียง 800 เมตร

บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความโศกเศร้า  โดยมีครอบครัว ญาติพี่น้อ เพื่อนบ้านและเพื่อนฝูง ของนายอำพล ที่เดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก โดยมีนายสัญชัย สมล้วน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำเขียว มาเป็นประธานในงาน ซึ่งในงานวันนี้ได้มีเพื่อนๆของนายอำพล ได้มาร่วมกันขับร้องเพลงที่หน้าเมรุเพื่อเป็นการไว้อาลัย

ทั้งนี้นายสนิท ไชยคำหาญ นักทัณฑวิทยาชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอรัตนบุรี ปฏิบัติหน้าที่ยุติธรรมจังหวั ดสุรินทร์ สาขารัตนบุรี พร้อมด้วยประธานอาสาสมัครคุ้ มครองสิทธิและเสรีภาพ พนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรี ภาพ, นิติกร ผู้ช่วยปฏิบัติงานส่งเสริ มการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และ ผู้ช่วยปฏิบัติงานด้านนิติกรได้เดินทางมาร่วมงาน  และแจ้งสิทธิแก่ญาติผู้เสียชีวิ ตจากการถูกรุมทำร้าย ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้ เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 พร้อมทั้งได้ให้คำแนะนำในการยื่นขอรับการเยียวยาตามสิทธิ์ที่ผู้เสียหายจะได้รับอีกด้วย

นางทองสา สระแก้ว อายุ 50 ปี มารดาของนายอำพล กล่าวว่า ขอให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์และเป็นบทเรียนของเด็กวัยรุ่นทุกๆคน  อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก  และอยากจะฝากถึงผู้ปกครองผู้ที่ทำความผิดได้มาดูแลเยียวยาเราบ้าง อยากจะให้รู้ว่าลูกเขาทำผิด เพราะหลังเสร็จงานแล้วก็ยังจะมีค่าใช้จ่ายที่จะต้องไปจ่ายอีกมากมาย  ซึ่งในตอนนี้ตนก็หมดเงินแล้ว  บางส่วนที่ไปกู้เงินญาติๆมาก็ต้องไปหาเงินมาคืนเขาต่อไปหลั งจากเสร็จงาน  ส่วนในเรื่องคดี  ก็คงต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่ ตำรวจได้ทำงานก่อน  แต่ตนจะคอยสอบถามและติดตามถึงความคืบหน้าเป็นระยะๆ  จนกว่าคดีจะเสร็จสิ้น  และสามารถลงโทษผู้กระทำผิดได้

ด้าน พ.ต.อ.มงคล ภูวประภาชาติ ผกก.สภ.รัตนบุรี กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหนาที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ร่วมกระทำผิดได้ทั้งหมดแล้ว โดยมีทั้งเยาวชนและผู้ใหญ่  เป็นเด็กและเยาวชนจำนวน 8 คน ผู้ใหญ่จำนวน 6 คน รวมทั้งหมด 14 คน ส่วนอีก 5-6 คน ที่เหลือจะมีส่วนร่วมหรือไม่ กำลังสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่ามีความผิดร่วมกระทำ จะออกหมายเรียกมาดำเนินคดีทันที โดยตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่ สำหรับผู้ต้องหาที่จับกุมมาทั้ งหมด 14 ราย ทั้งเด็กเยาวชนและผู้ใหญ่ ทั้งหมดให้การรับสารภาพ ได้ร่วมกันทำร้ายผู้ตายจริง โดยลักษณะความผิดเป็นการชกต่อย และใช้ไม้ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้ส่งทั้งหมดดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่ นจนถึงแก่ความตาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ แยกทั้งหมดส่งศาล โดยเด็กและเยาวชนได้ควบคุมตัวส่ งไปยังสถานพินิจแล้ว