กะ...กะ...กลัวที่ไหน

ว่ากันว่า ผู้ที่มีบทบาทสำคัญและอยู่เบื้องหลังการเปิดเผยข่าวอื้อฉาวน่าอดสูของหนังสือพิมพ์นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ ในอังกฤษ

ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ทอม วัตสัน นักการเมืองและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝีปากกล้าแห่งพรรคแรงงาน หนึ่งในบรรดาคนสนิทของ กอร์ดอน บราวน์ อดีตนายกรัฐมนตรีจอมเก๋าแห่งอังกฤษ ในช่วงปี 2550-2553

เรียกได้ว่าการปิดตัวหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ที่อายุยาวนานกว่า 168 ปีนี้ กลายเป็นผลงานชิ้นโบแดงของพรรคแรงงานไปในบัดดล แถมยังส่งผลกระเทือนถึงเก้าอี้ของ เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนปัจจุบัน

เพราะเมื่อเอ่ยถึงบอสใหญ่ของหนังสือพิมพ์นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ อย่างคุณปู่รูเพิร์ต เมอร์ด็อก บรรดาสภากาแฟข้างทำเนียบในลอนดอนนั้นรู้กันหมดว่าคุณปู่รุ่นลายครามนี้ ซี้ย่ำปึ้กกับท่านนายกฯ คาเมรอน เพียงใด

จนกลายเป็นที่เลื่องลือว่า แม้ว่าหนังสือพิมพ์จะเจอมรสุมอื้อฉาวหนักหนาสักเพียงไหน ก็ไม่มีทางพังครืนปิดตัวลงได้อย่างง่ายดาย เพราะมีเส้นสายพิเศษที่ใหญ่ราวเส้นกวยจั๊บ

แต่ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง เมื่อหนังสือพิมพ์ต้องประกาศปิดตัวลงอย่างปัจจุบันทันด่วน เหตุเพราะเรื่องที่หนังสือพิมพ์หาข่าวด้วยวิธีการลอบดักฟังโทรศัพท์ของบุคคลสำคัญๆ ในสังคมระดับต่างๆ ถูกแฉออกมา

ทั้งนี้ บรรดาขาเมาท์ประจำสภาอังกฤษต่างลือให้แซดว่า ก่อนที่เรื่องการลอบดักฟังโทรศัพท์จะเป็นที่เปิดเผยออกมา โทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษรุ่นพี่ และเป็นเพื่อนสนิทของ เมอร์ด็อก เกิดรู้ระแคะระคายเรื่องนี้เสียก่อน เลยยกโทรศัพท์คุยกับ บราวน์ ทันที

ส่วนเนื้อหาที่คุยกันก็ประมาณว่าให้ บราวน์ นั้นช่วยห้าม วัตสัน ลูกน้องในพรรคให้ปิดปากให้เงียบสนิท ไม่เช่นนั้นทั้ง วัตสัน และ บราวน์ ได้เจอ รีเบกกา บรูกส์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ ตามรังควานตลอดชีวิต

เป็นการเตือนที่แม้จะทำทีเป็นหวังดีคล้ายรุ่นพี่เตือนรุ่นน้อง แต่ก็ไม่วายออกแนวข่มขู่อยู่ดี

แต่แหม ระดับ กอร์ดอน บราวน์ เสียอย่าง คำขู่แค่นี้มีหรือจะกลัว เรื่องราวก็เลยเรียบร้อยตามที่เห็นเป็นข่าวเกรียวกราวกันตามระเบียบ

ให้รู้กันไปว่าไผเป็นไผ