เมลลอน คอลลี่ (ดู)หวานแต่ขมขื่น
ภาพศิลปะที่มีลายเส้นคุ้นตาและเป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกถึงเจ้าของผลงานได้เป็นอย่างดี
ภาพศิลปะที่มีลายเส้นคุ้นตาและเป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกถึงเจ้าของผลงานได้เป็นอย่างดี
โดย...มัลลิกา
ภาพศิลปะที่มีลายเส้นคุ้นตาและเป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกถึงเจ้าของผลงานได้เป็นอย่างดี จะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจาก “นริศรา เพียรวิมังสา” ในนิทรรศการล่าสุดที่มีชื่อว่า “เมลลอน คอลลี่” (Mellon Collie) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกระบวนการทำงานของจิตใจ ที่เรียกว่า “กลไกการป้องกันตัวเอง” (Defense Mechanism) ซึ่งเป็นกลไกพื้นฐานที่มนุษย์ใช้หาทางออกให้กับจิตใจที่เจ็บปวดและสับสน จากการเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันเลวร้ายที่ไม่ปรารถนาด้วยการ เก็บกด บิดเบือน หรือสร้างโลกแห่งจินตนาการขึ้นมาใหม่ เพื่อหลบหนีจากโลกแห่งความเป็นจริงที่ก่อให้เกิดทุกข์
จุดเริ่มต้นของงานเกิดขึ้นจากความรู้สึกหดหู่ใจ โศกเศร้า จากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลกระทบต่ออารมณ์ความรู้สึกของนริศรา “ในงานไม่ได้ระบุว่าเราเศร้าเพราะอะไร เพราะทุกคนมีสาเหตุที่เศร้าต่างกันออกไป แต่ตรงนี้เราพยายามเยียวยาความโศกเศร้าด้วยตัวเอง ทางจิตวิทยาเรียกว่า การป้องกัน การหนีจากโลกความจริง สร้างจินตนาการขึ้นมาใหม่ การหาเหตุผลที่มาเข้าข้างตัวเองเผื่อรองรับ
ความเศร้าที่เราเจอ คือ ถ้าเราเจอเหตุการณ์ที่โศกเศร้าจะมีกลไกทางจิตบางอย่างที่จะช่วยให้เราอยู่ต่อไปได้ เราเลยเอาจุดนี้มาทำงาน”
Mellon Collie พ้องเสียงกับคำว่า Melancholy ซึ่งมีความหมายว่า ความเศร้าโศก ความหดหู่ ความรันทด ความสะเทือนใจ นริศราถ่ายทอดพฤติกรรมทางจิตใจนี้ผ่านงานวาดเส้น ที่เป็นการโต้ตอบกับจิตใจใต้สำนึกอย่างเฉียบพลัน และใช้การปั้นและการปักลวดลายบนพื้นผ้าเป็นสัญลักษณ์ของการผลิตซ้ำและหมกมุ่น “ชื่องานเมลลอน คอลลี่ คือเอาศัพท์ Melancholy ภาวะจิตใจหม่นหมอง โศกเศร้า มาเขียนใหม่ให้ดูน่ารักขึ้น เห็นงานจะดูรู้สึกว่าน่ารัก ดูสดใส แต่ศัพท์คำนี้พ้องกับอาการทางจิตใจ ซึ่งก็อธิบายงานชุดนี้ คือพยายามอยู่กับความโศกเศร้าให้ได้ เอาจุดนี้มาทำงาน คือการพยายามลืมความเศร้า ด้วยการย้อนกลับไปคิดถึงวัยเด็ก เหมือนอ่านนิทานแล้วคิดถึงโลกจินตนาการที่สดใส แล้วเกิดเป็นงาน อย่างงานปักผ้าหรือปั้น เกิดจากกระบวนการสะกดจิตตัวเอง หรือการแต้มจุดเป็นพันๆ จุด ก็เหมือนการทำสมาธิแบบหนึ่งเพื่อให้ลืมความโศกเศร้า ตัดขาดจากโลกภายนอกไปเลย”
ภาพที่ใช้สีสันสดใส รูปภาพทรวดทรงที่ดูสบายตา ทว่าในรายละเอียดของภาพนั้นกลับแฝงเร้นไปด้วยนัยแห่งความหม่นหมอง ขมขื่น โศกเศร้า รัดทดใจ สัญลักษณ์ที่ถูกศิลปินนำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็น ผีเสื้อ หัวกะโหลก หยดน้ำ ต่างสื่อเป็นนัยถึงโลกความหม่นเศร้าและกลไกการป้องกันตัวเอง
“มันไม่ใช่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นเป็นการชะลอ เป็นการประนีประนอม บางปัญหาเราไม่สามารถแก้ไขได้ในเวลาจำกัด บางครั้งก็ใช้เวลากว่าจะคลี่คลาย ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาลำบาก ยากจังเลยที่จะอยู่กับมัน การที่เรามีกลไกในการป้องกันตัวเองโดยการสร้างจินตนาการขึ้นมาใหม่ ไม่ใช่สิ่งผิด เป็นการเอาตัวรอดของจิตใจ ซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีที่จะเยียวยา แต่เราเลือกจับวิธีการสร้างโลกจินตนาการขึ้นมาใหม่ในงาน โดยอาศัยการเลียนแบบการทำงานของจิตใจ เช่น งานจะเห็นสีสันที่สวยหวาน มองลึกไปจริงๆ จะพยายามกดเก็บมันเอาไว้ อย่างบางภาพที่ดูสวย มีรูปหยดน้ำ จะดูเป็น ฝน น้ำตา เป็นเลือดก็ได้”
อย่างไรก็ตาม งานชุดนี้ไม่ได้เป็นศิลปะบำบัด มันไม่ใช่วิธีการรักษาจิตใจของศิลปิน เพราะงานชุดนี้มีเนื้อหา มีจุดมุ่งหมายที่ต้องการสื่อไปถึงผู้ชม มีเรื่องให้พูดคุยกันต่อ ทว่าความหม่นเศร้าเป็นจุดเริ่มต้นให้คิดงานชุดนี้ แล้วงานก็ผ่านกระบวนการคิด ก่อนจะเป็นนิทรรศการชื่อ เมลลอน คอลลี่
นิทรรศการ “เมลลอน คอลลี่” จัดแสดงตั้งแต่วันนี้3 ก.ค. ณ แกเลอรี เอ็น ถนนวิทยุ เปิดให้เข้าชมวันอังคารอาทิตย์ เวลา 10.00-19.00 น.


