เฟรชชีหมวยสวยเก่ง ชนิสาร์ บังคมเนตร

หลายคนคงคุ้นหน้าสาวหมวยคนนี้ ใช่แล้ว...เธอคือ “ครูอุ้ม” ในซิตคอมทางช่อง 7 สี “หมู่ 7 เด็ดสะระตี่”

โดย...อัคร เกียรติอาจิณ

ฝนกำลังตั้งเค้า แต่ผมก็ไม่ยี่หระเลย ยังมุ่งมั่นรีบเดินจ้ำอ้าวมาถึงตึกคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ เพราะรู้ดีว่าถ้ามาช้ากว่านี้มีหวังเปียกปอนแน่ๆ

ผมนั่งรออยู่ลานหินอ่อนด้านหน้าโรงอาหาร สักพักสาวน้อยที่นัดไว้ “อุ้ม-ชนิสาร์ บังคมเนตร” ก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับความสดใสตามแบบฉบับของวัยรุ่นยุคใหม่

เธอส่งยิ้มหวานและทักทายด้วยการไหว้ จากนั้นวงสนทนาเล็กๆ บรรยากาศเป็นกันเอง ภายใต้เงื่อนระยะเวลาสั้นๆ ระหว่างผมกับเธอจึงเปิดฉากขึ้น

อุ้ม-ชนิสาร์ บังคมเน

หลายคนคงคุ้นหน้าสาวหมวยคนนี้ ใช่แล้ว...เธอคือ “ครูอุ้ม” ในซิตคอมทางช่อง 7 สี “หมู่ 7 เด็ดสะระตี่” ที่ทำหน้าที่สอนร้องเพลงให้แก่เด็กๆ นั่นละ

แจ้งเกิดจากซิตคอมเรื่องนี้ แม้จะยังไม่ดังเปรี้ยงปร้าง แต่เจ้าตัวยอมรับว่าก็มีคนรู้จักกว่าเดิม ไปไหนมาไหนจำได้จะเรียกว่า “ครูอุ้ม” ทุกครั้ง

นอกจากผลงานการแสดงเรื่องแรกที่อุ้มได้ชิมลางไป ใครเป็นแฟนรายการ “โอ-โน่ โชว์” ก็จะเห็นเธอโผล่แว็บๆ ในช่วงละคร ร่วมแจมกับ 2 พิธีกรอารมณ์ฮา ฐานะแขกรับเชิญ

ถ้าให้ย้อนไกลกว่านั้นอีก เวทีประกวดมิสทีนไทยแลนด์ ประจำปี 2007 ถือเป็นจุดเริ่มบนถนนบันเทิงของอุ้มอย่างแท้จริง หลังจากคว้าตำแหน่งรองอันดับ 2 มาครอง เธอก็ถูกผู้จัดละครจีบให้มาอยู่ในสังกัด และรายที่ได้ตัวอุ้มพร้อมจับเซ็นสัญญา 5 ปีเต็ม คือ ทีวี ธันเดอร์

“ไม่ชอบเลย แต่โดนลากไป (หัวเราะ) ก็ญาติๆ นี่ละคะ เป็นเจ๊ดัน เอาใบสมัครมาให้แถมพาไปสมัครด้วย คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่คัดค้านนะ แต่ก็ไม่สนับสนุนออก นอกหน้า จะเฉยๆ มากกว่าและเตือนว่าอย่าทิ้งการเรียน ให้เรียนมาก่อนงานบันเทิง ส่วนที่ได้ตำแหน่งนี่ ได้ไงก็ไม่รู้ ยังงงอยู่เลยเนี่ย (หัวเราะเสียงดัง)”

จะรู้หรือแกล้งอำเล่นก็ช่างเถอะครับ แต่ผมรู้แล้วละว่าได้ตำแหน่งเพราะความสดใสน่ารักในตัว ที่ส่องประกายให้เธอเจิดจรัส ณ ค่ำคืนนั้นต่างหาก

เช่นเดียวกับชีวิตการเป็นนิสิตชั้นปี ที่ 1 คณะนิติศาสตร์ รั้วจามจุรี ก็น่าสนใจไม่เบา มีอะไรให้รับรู้เยอะแยะ สมเป็น “สาวหมวยรวยความเก่ง” อย่างที่เพื่อนๆ ขนานนามไว้เลย

สาวน้อยเผยว่า นิติศาสตร์เป็นคณะ ที่ไม่ได้ตั้งใจเลือก เพราะอยากเรียน ทันตแพทย์มากกว่า แต่เผอิญสอบติดอันดับ 2 ซึ่งก็ไม่ขี้เหร่อะไร บวกกับมีญาติที่เคยเป็นศิษย์เก่าแนะนำ เลยทำให้อุ้มตัดสินใจเป็นเฟรชชีของที่นี่

“จริงๆ ไม่รู้จะเรียนอะไรด้วยนะคะ (หัวเราะ) ตอนนั้นยังมึนๆ อยู่เลย ก็เลือกไปก่อน แต่ในใจอยากเรียนทันตแพทย์ เลือกไว้อันดับ 1 แต่ว่าไม่ติด มาติดนิติศาสตร์ที่เลือกเป็นอันดับ 2 แทน แล้ว พอดีมีญาติที่เคยเรียนที่นี่ เขาได้เกียรตินิยมอันดับ 2 ก็แนะนำว่าให้เรียน ก็เลยตัดสินใจเรียน”

การเรียนนิติศาสตร์ยากพอสมควร สาววัย 18 ยอมรับอย่างนั้น ต้องอาศัยทำความเข้าใจและท่องจำ สมองต้องเลิศในทักษะนี้จึงจะไปโลด เช่นเดียวกับคนดังๆ ที่สร้างชื่อเป็นทนายความ หรือคนที่เกี่ยวข้อง กับนิติศาสตร์ ก็ใช้หลักเกณฑ์คล้ายๆ กัน

“ปี 1 ก็ยังไม่หนักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นวิชาพื้นฐาน ปีหน้าหนักกว่านี้ อีกค่ะ เห็นรุ่นพี่บอก อุ้มคงต้องให้เวลามากขึ้น งานบันเทิงอาจรับน้อยลง เดี๋ยวตามเพื่อนไม่ทัน ตอนนี้ถ้ามีถ่ายซิตคอม เพื่อนก็จะให้ยืมเลกเชอร์ หรือไม่ก็เทปอัดของเพื่อนไป ที่เหลือก็ใช้ความสามารถส่วนตัว คือความจำและการตีความ”

อาหมวยคนนี้เป็นลูกสาวคนโตของครอบครัว มีน้องชายและน้องสาวซึ่งเรียนเก่งทั้งบ้าน อย่างอุ้มก็เป็นเด็กหัวดีและขยัน ตอนอยู่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เธอได้คะแนนเฉลี่ยสะสม 3.79 นี่เองที่ทำให้เธอสอบติดนิติศาสตร์ได้อย่างไม่ยากเย็น

ไม่เพียงแค่นั้น เรื่องภาษาก็ไม่ธรรมดาเสียด้วย ถ้าไม่นับภาษาไทย สาวน้อยคนนี้มีดีกรีพูดได้อีกถึง 2 ภาษา ได้แก่ อังกฤษและเยอรมัน

“พอดีเลือกเรียนสายวิทย์-เยอรมัน ก็จะสามารถสื่อสารได้ แต่ไม่เก่งหรอกค่ะ (ยิ้มๆ) และโชคดีที่ตอนอยู่ ม.6 สอบทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนได้ ไปอยู่เยอรมนี 1 เดือน ก็ใช้ประโยชน์จากที่วิชาเรียนมา ครั้งนั้นสนุกมากค่ะ ไม่รู้จักใครเลย ต้องรับผิดชอบทุกอย่าง เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดี”

อุ้มยึดหลัก “เรียนมาก่อน” ตามที่ คุณพ่อคุณแม่บอก ซึ่งจนถึงบัดนี้เธอก็ยังคงปฏิบัติ แม้วันที่มีงานเข้า ไม่ว่าจะงานบันเทิง หรือกระทั่งกิจกรรมของคณะ เธอไม่เกี่ยงงอน แต่ไม่เคยลืมหน้าที่ว่าห้ามทิ้งการเรียนเด็ดขาด

“ตอนที่เข้ามาเป็นเฟรชชีใหม่ๆ ได้รับเลือกเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของคณะ อุ้มก็ทำนะคะ เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ที่ตัวเอง มีส่วนร่วมกับเพื่อนๆ อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ต้องรู้จักแบ่งเวลา ถึงเวลาเรียนคือเรียน เวลากิจกรรมก็ทำเต็มที่ อย่างเชียร์ลีดเดอร์ฟุตบอลประเพณีปีหน้า พี่ๆ ก็ส่งชื่ออุ้มไปคัดตัวด้วย ถ้าไม่ติดขัดกับชั่วโมงเรียนก็คงไปคัดแหละ เพราะเป็นการหาประสบการณ์ ไม่รู้ว่าจะมีแบบนี้เข้ามาอีกเมื่อไหร่”

ไม่ต่างอะไรกับชีวิตในวงการบันเทิง แม้จะไม่ใช่สิ่งที่ฝันใฝ่ แต่ทันทีที่โอกาสถูกหยิบยื่นให้เธอก็คว้าเอาไว้ อย่างไรก็ตาม อุ้มยืนยันว่าคงไม่ยึดเป็นอาชีพตายตัว เพราะอนาคตอยากใช้ความรู้ด้านนิติศาสตร์ ส่วนจะเป็นอะไรนั้นต้องลองติดตามต่อ

ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ความสลัวของท้องฟ้าค่อยๆ คลี่คลาย ปลอดโปร่งเหมือนว่าไม่เคยมีเค้าฝนมาก่อน อุ้มขอตัวเพราะมีสอบในช่วงบ่าย ขณะที่ผมก็ก้าวเท้าออกจากลานหินอ่อนอย่างไม่รีบร้อน

ลาก่อน...เฟรชชีหมวยคนเก่ง