พรานทะเลปลูกฝังหัวใจสีเขียวกับพนักงานและชุมชน

พรานทะเลดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับอาหาร ความปลอดภัยและดีต่อสุขภาพเป็นหนึ่งในความตั้งใจของบริษัทมาตลอด

โดย..อณุศรา ทองอุไร

แต่การก้าวไปสู่เวทีอาหารระดับโลก ทำให้วันนี้พรานทะเลจึงเพิ่มการใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นวิสัยทัศน์สำคัญอย่างหนึ่งในการประกอบธุรกิจ ปัจจุบันคนทั่วโลกต่างตื่นตัวและให้ความสำคัญกับกระแสโลกร้อนกันมากขึ้น แต่จากภัยธรรมชาติและภาวะของฤดูกาลและอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้คนทั่วโลกฉุกคิดได้ว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่ใช่ปัญหาที่ไกลตัวอีกต่อไป เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องตระหนักและให้ความสำคัญอย่างจริงจัง

ปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์...ข้าวต้มลดโลกร้อน

ดร.ธงชัย ธาวนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง กล่าวว่า พรานทะเลมีจุดยืนของแบรนด์ในการเป็นผู้นำนวัตกรรมอาหารทะเลแช่แข็ง จึงมีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งได้ทั้งคุณภาพและมีความหลากหลายแล้ว ในเรื่องของสิ่งแวดล้อม เริ่มปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ของข้าวต้มพรานทะเลและพรานไพรให้กลายมาเป็นข้าวต้มลดโลกร้อน เป็นนวัตกรรมอาหารแช่แข็งเพื่อสุขภาพสายพันธุ์ใหม่ที่มีหัวใจสีเขียว ให้ผู้บริโภครุ่นใหม่ได้แสดงออกถึงจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมได้ง่ายๆ ผ่านการเลือกบริโภคในชีวิตประจำวัน และเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคสู่การบริโภคสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และจากการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ในครั้งนี้ จะช่วยลดการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นพลาสติกลงได้ 65% หรือประมาณ 63 ตัน/ปี

 

เท่ากับลดการปล่อยปริมาณก๊าซเรือนกระจก ซึ่งทำให้เกิดภาวะโลกร้อนลงได้ เทียบเท่ากับการประหยัดพลังงานไฟฟ้า 2 แสนกิโลวัตต์ หรือเทียบเท่ากับปิดไฟนีออน 3,000 ดวง ตลอดระยะเวลา 1 ปี และผู้บริโภคเองยังสามารถประหยัดเงินในกระเป๋าในราคาที่ลดลงทันที 15% ขณะที่ปริมาณของสินค้าเพิ่มมากขึ้น

 

ปรับทุกยูนิตให้กลายเป็น Green Company

พรานทะเลมีนโยบายและมาตรการการประหยัดพลังงานของบริษัทในแง่ของโรงงานและทุกหน่วยของบริษัท โดยมีแผนการดำเนินงานและเป้าหมายในการลดผลกระทบภาวะโลกร้อนอย่างเป็นรูปธรรม

1) การลดผลกระทบแบบ Direct Emission ลดแหล่งกำเนิด CO2 โดยตรงจากเครื่องจักรในไลน์ผลิตและลดการใช้น้ำมันเตา น้ำมันดีเซล และก๊าซชีวภาพ

2) การลดผลกระทบแบบ Indirect Emission การดำเนินมาตรการลดการใช้พลังงานไฟฟ้า

3) การจัดการของเสีย และ Packaging

4) ส่งเสริมการเพิ่มแหล่งดูดซับคาร์บอน ได้แก่ โครงการปลูกต้นโกงกางและเพาะกล้าโกงกาง และส่งเสริมให้พนักงานปลูกต้นไม้ช่วยลดภาวะโลกร้อน โดยแจกกล้าไม้ให้พนักงานนำไปปลูกที่บ้าน

นอกจากนี้ยังมีการคัดแยกขยะเพื่อ Reuse Recycle การใช้กระดาษ 2 หน้า และหน้าที่ 3 การนำซองจดหมายที่ใช้แล้วมาใช้ซ้ำ โครงการน้ำ Recycle ลดบรรจุภัณฑ์

ปลูกฝังหัวใจสีเขียวให้คนพรานทะเล

และคนในชุมชน

นอกจากมาตรการต่างๆ ที่เห็นเป็นรูปธรรมแล้ว พรานทะเลคิดเสมอว่าการจะทำให้เรื่องสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นอย่างยั่งยืนที่แท้จริง คือการสร้างให้มีจิตสำนึกรักมากกว่าการบังคับเพราะกฎเกณฑ์ จึงมีการสร้างการมีส่วนร่วมให้กับพนักงานทุกระดับ ตั้งแต่ระดับบริหารจนถึงระดับปฏิบัติการในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการปลูกป่าชายเลน เพาะไม้โกงกาง และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ

“เพราะเราเป็นลูกน้ำเค็ม คนของเรามีบ้าน มีครอบครัวพักอาศัย ทำมาหากินในพื้นที่ชายฝั่ง ดังนั้นการปลูกฝังให้พวกเขาตระหนักในเรื่องนี้คือการสร้างความเข้าใจให้รู้ว่า ที่บริษัทอยู่ได้ ทุกๆ คนอยู่ได้ เพราะเราต้องพึ่งพาธรรมชาติ”

พรานทะเลได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและการปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกันฟื้นฟูสภาพและสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้ระบบนิเวศวิทยาบริเวณ จ.สมุทรสาคร สร้างความตระหนักและปลูกจิตสำนึกให้เด็กๆ และชาวบ้านในชุมชน ในการช่วยกันอนุรักษ์และรักษาทั้งผืนป่าโกงกาง พื้นที่ป่าชายเลน วิธีการที่ถูกต้องในการจับสัตว์น้ำ

การจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อม

ของบริษัท

บริษัทได้นำระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐาน ISO 14001 มาปฏิบัติใช้ตั้งแต่ปี 2541 ทำให้ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากกิจกรรมของบริษัทได้เป็นอย่างมากและยังทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการบำบัดของเสียและการใช้พลังงานของบริษัทอีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พนักงานและชุมชนเกิดจิตสำนึกและร่วมด้วยช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงาน

เดินหน้าลดคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อโลก

ปัจจุบันในประเทศชั้นนำต่างก็เลือกสินค้าที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม โดยจะมีฉลากแสดงตัวเลขของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้ผู้บริโภคได้มีสิทธิตัดสินใจเลือกบริโภคสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หากเปรียบเทียบคล้ายกับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ของบ้านเรา โดยฉลากคาร์บอนนี้จะมีการประเมินจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งวงจรการผลิต ซึ่งจะพิจารณาตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ การขนส่ง การผลิต การบรรจุภัณฑ์ และการใช้งานจนถึงการกำจัดของเสียที่เกิดขึ้น ส่วนอีกประเภทก็คือ การประเมินจากปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต

สินค้าประเภทอาหารทะเล ฉลากคาร์บอนจะดูจากตั้งแต่เริ่มกระบวนการคือการออกเรือหาปลา การใช้วัสดุอุปกรณ์ในการจับปลา การเลี้ยงกุ้ง วิธีการเลี้ยง สิ่งแวดล้อมรอบด้าน มีการทำลายป่าชายเลนหรือไม่ ดังนั้น พรานทะเลจึงได้มีการปรับปรุงกระบวนการผลิตทั้งกระบวนการ โดยเริ่มจากในการลดคาร์บอนยูนิตในการผลิต ควบคู่ไปกับสิ่งสำคัญที่สุดคือการให้ความรู้และสร้างจิตสำนึกลงไปในจิตใจของคนในองค์กร