ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง

เกิดเป็นผู้หญิงยุคนี้แสนลำบาก เพราะเขาปิดกันให้แซ่ดว่า...“อย่าหยุดสวย”

โดย...เสน่ห์จันทร์

เกิดเป็นผู้หญิงยุคนี้แสนลำบาก เพราะเขาปิดกันให้แซ่ดว่า...“อย่าหยุดสวย” หากใครจะฟังแบบหูทวนลมไม่ใส่ใจ แต่หลิ่วตามองมาบ้างก็ได้ว่า เขาเติมแต่งความสวยกันอย่างไร อย่าง “ศัลยกรรม” ตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่หรือเรื่องไกลตัวอย่างเมื่อก่อน ใครใคร่สมัครใจก็ทำ ไม่ใคร่ทำก็ไม่มีใครบังคับได้ แต่สำคัญสุดคุณรู้จักศัลยกรรมดีพอแล้วหรือ ไม่ใช่เอะอะเห็นคนนั้นจมูกสวย ปากเซ็กซี่ ก็อยากใคร่ได้มีอย่างเขาบ้าง และวิ่งโร่ไปทำศัลยกรรม ถึงขั้นที่ว่ามีรายการยกให้ใหญ่ เอ๊ย! ไม่ใช่ รายการศัลยกรรมที่ทำให้คนสวยไม่เสร็จ ออกมาเสียว เอ๊ย! สวยซะเข็ดฟัน จนจำเค้าโครงเดิมแทบไม่ได้ ถึงขั้นนางฟ้ายังอาย เชอะ!

เรียลิตีศัลยกรรมครั้งแรกในไทย

รายการเรียลิตีศัลยกรรมในต่างประเทศเคยมีมาให้เห็น ซึ่งมีทั้งผลตอบรับและเสียงต่อต้าน เพราะนอกจากภาพหวาดเสียวน่ากลัวในกระบวนการทำแล้ว บางกลุ่มยังมองว่าเป็นการยั่วยุส่งเสริมให้คนทำศัลยกรรม ไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ หรือกระทั่งปลูกฝังค่านิยมผิดๆ ว่าต้องทำศัลยกรรมเพื่อที่จะได้สวย

ในเมืองไทยเรารายการแบบนี้ยังไม่เคยมีมาก่อน และถ้ามีก็คงโดนเซ็นเซอร์กระจายจนแทบจะดูไม่รู้เรื่องรู้ราวเป็นแน่ ทว่าล่าสุด “โก้-ธีรศักดิ์ พันธุจริยา” ได้ผุดรายการเรียลิตีศัลยกรรม “Beauty d talk” ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งออกอากาศทางช่องทรู เอ็กซ์ไซต์ 62 ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 น. เริ่ม 2 มิ.ย.นี้ ในบ้านเรากระบวนการเซ็นเซอร์ใดๆ ยังไม่ได้ดูแลไปถึงเคเบิลทีวี ดังนั้นภาพที่ไม่เคยเห็นเบื้องหลังการทำศัลยกรรมจะถูกตีแผ่เป็นครั้งแรกของรายการไทย ที่เมืองไทย โดยคนไทย

“ต้องยอมรับว่าในเมืองไทยมีความนิยมเรื่องศัลยกรรมกันมาก และอยากรู้อยากเห็นขั้นตอนการทำว่ายากง่ายเจ็บปวดอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าน้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้เห็นการทำศัลยกรรม เลยเขียนขึ้นมาเป็นรูปแบบรายการเรียลิตี แล้วคุยกับคุณพิมพิดา วรัญญูรัตนะ ที่สยามเลเซอร์ คลินิก ว่าเห็นด้วยกับแนวคิดนี้มั้ย ทุกคนโอเค เลยเสนอเป็นรายการเรียลิตีศัลยกรรมไปที่ช่องทรู ซึ่งเราจะเปิดเผยเบื้องหน้าเบื้องหลังเรื่องการทำศัลยกรรม Before & After ของคนธรรมดาทั่วไป ส่งผลอย่างไรทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และการใช้ชีวิตก่อนและหลังการทำศัลยกรรม ศัลยกรรมมีผลดีผลเสีย เราให้ทั้งความบันเทิงและสาระความรู้ มีภาพให้ได้เห็นขั้นตอนการทำ คนจะได้รู้ว่าอยากทำตาเขาทำกันอย่างไร เจ็บขนาดไหน ทำแล้วต้องดูแลรักษาตัวเองยังไง ในการนำเสนอธีมแต่ละสัปดาห์ก็จะแตกต่างกันไป มีช่วงบิวตี สตอรีส์ เรื่องราวความสวยความงาม ช่วงไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ให้มาเจอหมอ และช่วงลูกเป็ดแปลงโฉม จะแปลงเขายังไงให้ดีขึ้น สวยขึ้น”

สำหรับภาพที่ระหว่างการทำศัลยกรรม โก้ บอกว่า “มีทั้งภาพสีและขาวดำ เป็นเรื่องของการตัดต่อ พยายามถ่ายทอดออกมาในเชิงความรู้มากกว่า ภาพที่น่ากลัวก็มีอีกเยอะ แต่เราให้เป็นไปตามเนื้อเรื่อง ขั้นตอนแบบนี้ กรีดตาแบบนี้ มีไขมันแบบนี้ในตาเหรอ เพราะบางคนไม่รู้ อย่างแหวะจมูกออกมาเลือดแดงๆ เราก็ย้อมสีบ้างไม่ให้น่ากลัว แต่เราพยายามนำความจริงที่สุดให้ออกมาให้เห็นให้รู้กัน รายการเรามีทั้งหมด 18 เทป ไฮไลต์แต่ละสัปดาห์ก็จะไม่เหมือนกัน วันนี้เป็นตา วันนี้จมูก”

แปลงโฉมลูกเป็ดขี้เหร่

สำหรับสาวๆ ที่ได้รับการแปลงโฉมในรายการ ได้ถูกคัดเลือกมาจากผู้สมัคร 500 คน ให้เหลือ 7 คนสุดท้าย ประกอบด้วย S1 ปุ้ย-จุฬาลักษณ์ บุญอินทร์ S2 เบล-เกล็ดแก้ว ธรรมวณิชย์กุล S3 วิวี่-วิภาวี วงษ์ดี S4 น้ำฝน-ณัฐวลัญช์ พิทักษ์ S5 ปูเป้-วิศิณี เมืองโครต S6 ยุ้ย-น้ำอ้อย โพธิ์ศรี และ S7 ติ๊นา-ทิติยา ทองสอง ซึ่งแต่ละคนก็มีจุดด้อยที่ต้องแก้ไขแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ว่าจะทำจมูก ทำคาง ดูดไขมัน ทั้งเย็บ ฉีด ผ่า ดึง ดูด ฯลฯ เพื่อให้เกิดกรณีศึกษาที่แตกต่างกัน

“เบล-เกล็ดแก้ว ธรรมวณิชย์กุล” อายุ 24 ปี มีดาราสาวพราวเสน่ห์อย่าง “พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” เป็นแรงบันดาลใจที่อยากจะสวยผอมเหมือนเธอ เห็นโครงการนี้ทางเฟซบุ๊กก็ส่งรูปสมัครเข้าไป แล้วก็มีการมาคัดตัวกันอีกที ให้คณะกรรมการดูอีกที โชคดีมากๆ ที่ได้ เพราะถ้าไปทำเองคงหมดเป็นแสนบาท เบลเป็นคนกลัวเข็มมาก แต่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพราะอยากสวยถึงยอมเจ็บ แต่ก็ไม่ได้เจ็บเท่าที่คิดไว้ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็จะมีฉีดยาชา ก็จะเจ็บตอนฉีดยาแค่นั้นเอง หลังจากนั้นก็ไม่รู้สึก ก็เข้ามา 4-5 เดือน ที่ทำไปแล้วมีตา 2 ชั้น ทำจมูกด้วยซิลิโคน เพราะเป็นคนจมูกสั้นแบนเหมือนหมู ลดน้ำหนักโดยการควบคุมแคลอรีในการทานอาหารไม่เกิน 1,000 แคลอรีต่อวัน อาหารก็ทำเองทุกอย่าง วัตถุดิบทุกอย่างจะชั่งตวงเป๊ะ ก็ลดไป 12 กิโลกรัม และก็มีทำเลเซอร์ลดต้นแขน ดูดไขมัน ทำแล้วมีแต่คนชมว่าดูดีขึ้น ตาสวย เบลก็ชอบตา เพราะเมื่อก่อนตาจะตี่แล้วตก แต่ตอนนี้ดูตาโตสวย”

“ปุ้ย-จุฬาลักษณ์ บุญอินทร์” ในวัย 26 ปี เธอยังถูกล้อเรียกว่า “แหมบ” (จมูกแบน) ซึ่งเป็นแรงฮึดให้เธออยากทำศัลยกรรมจมูก หากไม่ได้โชคดีมาทำในรายการเธอก็จะพยายามเก็บเงินต่อไปเพื่อให้มีดั้งที่โด่งขึ้น “รู้ว่าตัวเองมีข้อบกพร่องเกี่ยวกับหน้าตา ก็ศึกษามาตลอดเกี่ยวกับการทำจมูก ว่าเขาทำกันยังไง มีที่ไหนทำบ้าง พอได้มาทำกับรายการ คุณหมอก็เสริมจมูก ให้ตัดปีกจมูก มีเลเซอร์ขนบริเวณหน้าผาก เปิดรับโหงวเฮ้ง ฉีดโบทอกซ์ลดกราม รักษาสิว ซึ่งทำแล้วตอนนี้มั่นใจมากขึ้น ปกติถ่ายรูปจะต้องเอียง ตอนนี้มั่นใจ”

“ปูเป้-วิศิณี เมืองโครต” อายุน้อยสุด เพียง 20 ปี เพราะอยากสวยเธอจึงเลือกทำศัลยกรรม “ปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ก่อนทำ ก็ไม่ได้ว่าอะไร คงอยากเห็นลูกสวยบ้าง เพราะเมื่อก่อนปูเป้จะไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเลย จมูกแบน หน้ากลม อ้วนด้วย ก็เลยอยากทำ ก็ได้คุยกับหมอว่าจะทำอะไรได้บ้าง ตอนแรกกลัวนะคะ แต่หลังๆ เริ่มชินแล้ว ตอนนี้ยังต้องทำอีก แต่ก็เริ่มมีคนทักว่าสวยขึ้น ไปไหนมาไหนก็มีความมั่นใจมากขึ้น ส่องกระจกดูตัวเองก็รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปมาก แต่ก็ยังดูเป็นตัวเองอยู่ ไม่ได้เปลี่ยนเป็นคนละคน”

โก้ ในฐานะพิธีกรและโปรดิวเซอร์รายการ บอกว่า “ใครก็อยากสวย เมื่อก่อนใช้แค่ครีม พัฒนามาเป็นหาวิตามินมาเสริม จนมาทำศัลยกรรม ในวงการบันเทิงผมว่า 90 เปอร์เซ็นต์ทำ แต่จะทำเล็กทำใหญ่ ทำแค่หน้า สะกิดไฝ ทำปาก ทำตา จนใหญ่ขึ้นถึงทำหน้าอก จะมาแบบธรรมชาติมาเลยไม่มีหรอก แต่ทำเล็กหรือใหญ่แค่นั้นเอง”

ด้านหมอพิมพิดา วรัญญูรัตนะ กล่าวว่า ปัจจุบันการทำศัลยกรรมเป็นสิ่งที่ยอมรับกันได้ ไม่ใช่เรื่องอับอายอย่างสมัยก่อน การทำศัลยกรรมของประเทศทั้งความนิยมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ก็เป็นอันดับ 2 ในเอเชีย รองจากประเทศเกาหลี “เกาหลีที่เขาพัฒนากว่าเรา เพราะชนชาติของเขาต้องทำศัลยกรรมเยอะ เกิดมาตามธรรมชาติหน้าของเขาขากรรไกรกว้าง ตาตี่ จมูกแบน กรามใหญ่ คนเกาหลีจริงๆ หน้าตาดูดีอย่างในหนังในละครน้อยมาก บ้านเราเกิดมาดีกว่าเกาหลีเยอะ แต่ต้องปรับแต่งนิดๆ หน่อย อย่างดาราไทยส่วนใหญ่มีโครงที่ดูดีอยู่แล้ว ปรับแต่งนิดหนึ่งก็ดูสวยขึ้น โดดเด่นมากๆ แต่ก็ยังมีดาราระดับเอลิสต์ จะรักษาความดูดีมากๆ ไม่ให้มีไขมันตรงนี้ได้เลยนะ แม้เราเห็นว่าเขาหุ่นดีมากๆ การดูแลของเขาไม่เหมือนคนอื่น ในบ้านเราดาราก็มีอิทธิพลบ้างกับคนอยากทำศัลยกรรม อย่างตอนนี้ที่คนนิยมทำกันก็คือทำหน้าเล็กอย่างดารา เคยมีลูกค้าเดินมาบอกเลยว่าจะเอาหน้าแบบนี้ ตาเหมือนนิชคุณ จมูกเหมือนอั้ม”

อย่างไรก็ตาม คุณหมอบอกว่าเรื่องการทำศัลยกรรมไม่อยากชักจูงจิตใจ เท่าที่อยู่ในวงการมาจะ 10 ปี พบว่ามีคน 3 ประเภท หนึ่ง ไม่ทำและไม่มีวันเปลี่ยนใจ สอง ซึ่งมีมากสุด คือ กลัว แต่ถ้าจำเป็นก็ทำ และสาม ชอบสุดๆ จนถึงขั้นเสพติดศัลยกรรม ซึ่งใน 100-200 คน จะเจอสัก 1 คน

ลองเช็ก!!! ดูว่าคุณเป็นคนแบบไหน และศัลยกรรมมีผลต่อหน้าที่การงาน และจำเป็นต่อชีวิตคุณหรือไม่ จะสวยอย่างธรรมชาติ หรือสวยจากการทำศัลยกรรม ก็ไม่สำคัญเท่าสวยจากภายในจิตใจที่ดีงาม...

&<2288;