posttoday

พลังหนุ่ม vs ความเก๋า...ใครจะแชมป์

29 พฤษภาคม 2554

ในที่สุดเราก็ได้คู่ชิงชนะเลิศศึกบาสเกตบอลเอ็นบีเอ ฤดูกาล 2010-2011

ในที่สุดเราก็ได้คู่ชิงชนะเลิศศึกบาสเกตบอลเอ็นบีเอ ฤดูกาล 2010-2011

โดย...อนุวัฒน์ ชื่นวุฒิ

ในที่สุดเราก็ได้คู่ชิงชนะเลิศศึกบาสเกตบอลเอ็นบีเอ ฤดูกาล 2010-2011 โดยจะเป็นการพบกันระหว่าง ไมอามี ฮีต แชมป์สายตะวันออก พบกับ ดัลลัส มาเวอริกส์ แชมป์สายตะวันตก สำหรับรูปแบบการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ยังคงใช้สูตร 2-3-2 และเล่นระบบ 4 ใน 7 เกม เหมือนกับรอบเพลย์ออฟ โดยทีมสถิติดีกว่าคือ ฮีต ได้เล่นที่ถิ่นตัวเองก่อนใน 2 เกมแรก แล้วสลับไปเป็นทีมเยือน 3 เกม และหากยังหาผู้ชนะเด็ดขาดไม่ได้ ก็จะกลับไปเล่นที่อเมริกัน แอร์ไลน์ส อารีนา บ้านของ ฮีต ใน 2 เกมสุดท้าย

พลังหนุ่ม vs ความเก๋า...ใครจะแชมป์

สำหรับนัดชิงศึกยัดห่วงเอ็นบีเอปีนี้ ถือเป็นรีแมตช์การแย่งแชมป์กันของทั้ง 2 ทีม หลังเคยเจอกันในรอบชิงชนะเลิศมาแล้วเมื่อปี 2006 ซึ่งครั้งนั้นต้องสู้กันถึง 6 เกม ก่อนที่ ฮีต จะเป็นฝ่ายเอาชนะไป 4-2 เกม ผงาดซิวแชมป์พร้อมกับได้ชูโทรฟีเป็นครั้งแรก ขณะที่ มาเวอริกส์ ยังไม่เคยสัมผัสแชมป์เอ็นบีเอแม้แต่ครั้งเดียว

นอกจากนี้ นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2006 ที่แชมป์สายตะวันตกซึ่งเข้าสู่รอบชิงฯ ไม่ใช่ ลอสแองเจลิส เลเกอร์ส หรือ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส รวมทั้งยังเป็นหนแรกนับแต่ปี 1998 ที่จะไม่ได้เห็น โคบี ไบรอันต์, ชาคิล โอนีล และ ทิม ดันแคน ลงวาดลวดลายในรอบชิงชนะเลิศศึกเอ็นบีเอ

ความจริงแล้วการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศจะต้องเริ่มระเบิดศึกกันในวันที่ 9 มิ.ย. แต่ต้องมีการเจรจาถึงปัญหากรณีล็อกเอาต์ในช่วงปิดฤดูกาล ทำให้ต้องเลื่อนประเดิมเกมแรกขึ้นมาเร็วกว่ากำหนดเป็นวันที่ 31 พ.ค.นี้

ฮีตเล็งพึ่ง 3 เกลอแชมป์สมัย 2

จุดเด่นที่น่าสนใจที่สุดของ ไมอามี ฮีต ชุดนี้ก็คือ การรวมตัวกันของ 3 ทหารเสือยอดฝีมืออย่าง เลบรอน เจมส์ (วัย 26), ดเวย์น เวด (29) และ คริส บอช (27) ซึ่งเป็นขุมกำลังหลักที่พาทีมผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี

แต่จากฟอร์มการเล่นของ “บิ๊กทรี” ในฤดูกาลปกติยังไม่สามารถเอาชนะ มาเวอริกส์ ได้เลยในการพบกัน 2 ครั้ง ทั้งที่สถิติเคยเจอกัน หรือ เฮดทูเฮด ในหลายปีที่ผ่านมา ฮีต เหนือกว่าเยอะ เรียกว่าแทบจะผูกขาดชนะมาโดยตลอด

เวลานี้ความคาดหวังสำหรับ ฮีต นั้น ต้องแชมป์เท่านั้น หลังการเข้ามาของ “คิงเจมส์” เลบรอน เจมส์ ที่ย้ายมาจาก คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส เมื่อเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว และที่สำคัญ เจมส์ ยังไม่เคยสัมผัสแชมป์ซะด้วย

 

พลังหนุ่ม vs ความเก๋า...ใครจะแชมป์

คือทีมที่มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เราเคยผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายในเดือน มี.ค. (แพ้ 5 เกมรวด) แต่หลังจากเข้าสู่ช่วงเพลย์ออฟ มันแสดงให้เห็นชัดว่า เราพร้อมแล้วกับการไล่ล่าแชมป์” เอริก สโปเอลสตรา เฮดโค้ชของ ฮีต กล่าวอย่างมั่นใจ

มาเวอริกส์ลืมเจ็บปวดมุ่งสู่แชมป์

ดัลลัส มาเวอริกส์ เขยิบเข้าใกล้โอกาสสัมผัสแชมป์เป็นครั้งแรกในศึกเอ็นบีเออีกครั้ง หลังต้องอกหักเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ทั้งๆ ที่คราวนั้นขึ้นนำไปก่อนถึง 2-0 เกม ต้องมาดูกันว่า เดิร์ก โนวิตซกี ฟอร์เวิร์ดซูเปอร์สตาร์ชาวเยอรมัน วัย 32 ปี จะพาเพื่อนร่วมทีมคว้าโทรฟีแชมป์มาประดับทีมเป็นครั้งแรกได้หรือไม่ ขณะที่ปัจจัยหลักของทีมชุดนี้เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องของความเก๋าและประสบการณ์ล้วนๆ เนื่องจากผู้เล่นมีอายุเฉลี่ยถึง 28 ปี โดยอาวุโสสุดๆ แต่ยังเจ๋งคือ เจสัน คิดด์ วัย 38 ปี

มาเวอริกส์ มักจะถูกมองว่าเป็นทีมนอกสายตามาตลอด อย่างในฤดูกาลที่ผ่านมาพวกเขาเก็บชัยชนะได้ถึง 67 เกม ผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟด้วยการเป็นที่ 1 ของสาย แต่กลับเสียท่าพ่ายให้กับ โกลเดนสเตต วอร์ริเออร์ส ตั้งแต่รอบแรก ซึ่งน่าจะเป็นเพราะก่อนหน้านั้น มาเวอริกส์ ต้องเสียผู้เล่นคนสำคัญที่เดี้ยงไปถึง 5 คนด้วยกัน ทำให้ฟอร์มการเล่นวูบลงทันตาเห็น

โนวิตซกี เซ็นเตอร์ตัวเก่ง และลูกทีม หวังจะลบทั้งความผิดหวังเมื่อปี 2006 และคำสบประมาทว่าเป็นทีมนอกสายตาให้ได้ โดยถึงกับประกาศกร้าวว่า ขอเก็บชัยชนะให้ได้ทุกเกมที่ลงสนาม

“ผมคิดไว้แล้วเกี่ยวกับการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ เรากำหนดเป้าหมายไว้แล้วว่า เราจะต้องชนะทุกเกม แม้ว่ายังไม่ได้ลงแข่งก็ตาม” โนวิตซกี โวลั่น

‘เจมส์-โนวิตซกี’ ทำศึกแย่งแหวน

นอกเหนือจากการชิงชัยระหว่างทีมแล้ว ยังมีการปะทะกันระหว่าง 2 ผู้เล่นดาวดังประจำทีมด้วย นั่นคือ เจมส์ และ โนวิตซกี ที่มีแหวนเอ็นบีเอวงแรกในชีวิตเป็นเดิมพัน

พลังหนุ่ม vs ความเก๋า...ใครจะแชมป์

เจมส์ แม้จะเป็นผู้เล่นที่อายุค่อนข้างน้อย แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นเทพของวงการบาสเกตบอลเอ็นบีเอในยุคนี้เลยทีเดียว เพราะด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นมาโดยตลอด มีทั้งความเร็ว ความคล่องแคล่ว และความแข็งแกร่ง จนมีส่วนช่วยให้ ฮีต เก็บชัยชนะมาได้หลายต่อหลายเกม

ส่วนจุดอ่อนของ เจมส์ น่าจะอยู่ที่การยิงไกล ซึ่งวิถีการชู้ตของเขาอาจจะทำได้ดีแต่ยังคงขาดความแม่นยำไปพอสมควร

ขณะที่ โนวิตซกี กำลังเข้าถึงจุดพีกของอาชีพ หลังทำไปคนเดียว 48 แต้ม จากการชู้ตฟิลด์โกลลง 12 จากทั้งหมด 15 ครั้ง เก็บลูกโทษอีก 24 ครั้ง (ทุบสถิติ พอล เพียร์ซ กัปตันทีมบอสตัน เซลติกส์ ที่ทำไว้ 21 ลูกเมื่อปี 2008) จากเกมดับซ่า โอกลาโฮมา ซิตี ในเกมแรก รอบชิงแชมป์สายตะวันตก

และนับเป็นจุดเริ่มต้นของการเคาะสนิมของซูเปอร์สตาร์เมืองเบียร์ เพราะหลังจากนั้น โนวิตซกี ก็เป็นกำลังสำคัญของ มาเวอริกส์ ชนิดที่ขาดไม่ได้เอาซะเลย

สุดท้ายต้องมาดูกันว่า พลังหนุ่ม (เจมส์) หรือ ความเก๋า (โนวิตซกี) ใครจะเป็นฝ่ายได้ครอบครองแหวนเอ็นบีเอวงแรกในชีวิต

การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศปีนี้ เชื่อว่าจะเป็นการโชว์ลีลาที่สู้กันยิบตา และสร้างความสนุกสนานอย่างมาก แฟนๆ บาสเกตบอลไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง สกอร์อาจไม่เยอะ แต่สนุกแน่นอน โนวิตซกี โชว์ฟอร์มโดดเด่นให้ มาเวอริกส์ มาตลอดในรอบเพลย์ออฟที่ผ่านมา แต่เชื่อว่า 3 เกลอไมอามี คงไม่หลงกล และน่าจะหาทางกู้สถานการณ์กลับมาได้

นอกจากนี้ ฮีต ยังมีทีเด็ดในจังหวะโต้กลับ และยิงระยะกลางได้แม่นกว่าช่วงฤดูกาลปกติด้วย ดูแล้วน่าจะเป็นฝ่ายเผด็จศึกคว้าแชมป์สมัยที่ 2 ไปครองได้สำเร็จ

 

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา