ลอดถ้ำ ถ้ำลอด(กองลอ) ณ แขวงคำม่วน
ม่วนซื่น ลอดถ้ำ ถ้ำลอด(กองลอ) ณ แขวงคำม่วน
ม่วนซื่น ลอดถ้ำ ถ้ำลอด(กองลอ) ณ แขวงคำม่วน
สบายดีค่ะ สัปดาห์นี้ยังคงเป็นเรื่องราวของคาราวานเที่ยวละไมไทยแลนด์เวิลด์ ในการไปเยือนยังประเทศสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวต่อจากฉบับที่แล้ว ดังนั้นเราต้องทักทายกันแบบภาษาลาวถึงจะเข้ากันใช่ไหมคะ
ว่าแล้วก็ต้องบอกว่าม่วนซื่น ที่ได้มาเยือนประเทศลาว เป็นความสนุกที่ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองจริงๆค่ะ เพราะหลังจากได้ไปชมความอลังการของถ้ำน้ำลอดเซบั้งไฟที่บ้านหนองปิง แขวงบัวละพากันแล้ว คณะคาราวานของเราก็ได้ ท้าวสิทธิเดช ซัยสาน หรือน้องแฮปปี้ นำเที่ยวกันต่อไปยังถ้ำลอดกองลอ อยู่ที่เมืองหินบูน แขวงคำม่วนค่ะ ซึ่งเราต้องใช้เวลากับการเดินทางเกือบทั้งวันกว่าจะถึงบริเวณใกล้ตำแหน่งที่ตั้งของถ้ำกองลอค่ะ ยังไงเสียเราไม่ได้เดินทางเสียเวลาไปเปล่าๆนะคะ เพราะเส้นทางผ่านก่อนจะไปถึงที่หมายนั้น ยังมีสถานที่สวยๆให้ขบวนคาราวานของเราได้จอดเข้าไปเที่ยวกัน อย่าง ถ้ำผานางแอ่น ทีแรกทั้งน้ำผึ้งและน้อยหลงเข้าใจว่า ที่ถ้ำแห่งนี้เป็นที่อยู่ของนกนางแอ่น ความจริงเค้ามีตำนานเป็นนิทานพื้นเมืองของลาวที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับคนที่ชื่อสินชัย เป็นคนที่เก่งมาก และได้พานางแอ่นหนีมาอยู่ที่ถ้ำนี้ จากเรื่องราวนี้จึงพากันเรียกว่า ถ้ำผานางแอ่น ค่ะ ถ้ำนางแอ่นนี้เป็นถ้ำธรรมชาติ มีความกว้างประมาณ 200เมตร ยาวประมาณ 700 เมตร ภายในถ้ำจะเป็นหินงอกหินย้อย ซึ่งเค้าได้ทำเส้นทางให้เดินชม โดยเราจะสังเกตุจากบริเวณที่มีไฟ ดังนั้นทุกคนต้องเดินตามเส้นทางที่เค้ากำหนดห้ามออกนอกเส้นทางเด็ดขาดค่ะ
ความน่าสนใจภายในถ้ำซึ่งอันนี้ออกจะส่วนตัวหน่อยนะคะ เพราะน้ำผึ้งว่าแปลกดี เลยนำมาเล่าสู่กันคือ จะมีสิ่งหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายบ่อน้ำ ตามความเชื่อเค้าว่าเป็นเส้นทางที่เชื่อมไปถึงแม่น้ำโขง ว่ากันว่าเคยเป็นเส้นทางของพญานาค จึงมีการทดลองโยนมะพร้าวลงไปมะพร้าวไปโผล่ที่แม่น้ำโขง อันนี้ก็ต้องฟังไว้พอสังเขปเนื่องจากเป็นการเล่าต่อๆกันมา ทำให้เวลาคนมาเที่ยวมักนิยมมาอิษฐานพร้อมโยนเหรียญลงไปในบ่อ แต่แปลกค่ะเราจะไม่ได้ยินเสียงของเหรียญกระทบกับสิ่งใดเลย โยนเหรียญลงไปก็เงียบหายค่ะ แปลกมั้ยล่ะคะ จากถ้ำนางแอนน้องแฮปปี้แนะนำว่าถ้าหากมีเวลาให้แวะไปเที่ยวที่ถ้ำพระด้วย แต่กว่าเราจะเดินทางไปถึงจุดนั้นก็เย็นมากแล้ว จึงมุ่งหน้าไปพักรับประทานอาหารเย็นกันที่เขตแบ่งหลักซาวค่ะ บริเวณนี้จะเป็นทางแยกที่จะไปเขตชายแดนเวียตนาม ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่จะนิยมแวะมารับประทานอาหารกันที่นี่ค่ะ อาหารมื้อนี้เป็นข้าวราดแกงแบบง่ายๆ อย่างเช่นไข่พะโล้ ไก่นึ่งสมุนไพร ต้มยำปลาค่ะ รสชาติของอาหารก็เป็นที่น่าพอใจอยู่ค่ะ เมื่ออิ่มท้องกันแล้วก็เดินทางกันต่อ ใครเป็นพลขับก็ขับไปส่วนผู้โดยสารหนังท้องตึงหนังตาเริ่มหย่อนกันเป็นแถว เลยเล่นเกมซ่อนตาดำกันตลอดระยะทางอีกประมาณ 90 กิโลเมตรค่ะ ประมาณชั่วโมงเศษเราก็มาถึงที่พักแรมแห่งใหม่ซึ่งอยู่ติดกับวนอุทยานอันเป็นที่ตั้งของถ้ำลอดกองลอ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองหินบูน แขวงคำม่วนค่ะ
รุ่งเช้าน้องแฮปปี้มารอพาพวกเราไปเที่ยวที่ถ้ำลอดกองลอ โดยเราต้องขับรถเข้าไปในวนอุทยานที่อยู่ห่างจากที่พักเพียง 300 เมตรค่ะ จากนั้นก็เดินเท้าเข้าไปอีกนิด จะเห็นศาลาที่สมาคมเรือเค้าจัดแบ่งคิวในการนำทางนักท่องเที่ยวเข้าไปชมถ้ำค่ะ วันที่คาราวานเราไปนั้นมีนักท่องเที่ยวไปชมภายในถ้ำกันเยอะทุกคนต้องเดินไปที่บริเวณจุดลงเรือ ซึ่งก่อนลงเรือต้องสวมใส่ชูชีพเพื่อความปลอดภัยค่ะ
สำหรับการค้นพบถ้ำลอดกองลอมีตำนานที่น่ารักมาก ใครได้ฟังแล้วต้องอมยิ้มแน่นอนค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า “ ก่อนหน้านี้ชาวบ้านยังไม้รู้ว่า ในโพรงถ้ำแห่งนี้สามารถทะลุถึงอีกเมืองหนึ่งได้ จนกระทั่งมีเป็ดน้อยตัวหนึ่ง ว่ายลอยตามแม่น้ำมายังเมืองหินบูนแห่งนี้ จึงเป็นเหตุให้ชาวบ้านพากันล่องแพสำรวจเส้นทาง ทุกคนถึงกับร้องอ๋อ...ก็มันทะลุผ่านถึงกันได้เนี่ยเอง ” เป็นยังไงคะตำนานนี้น่ารักดีนะคะ
ในการล่องเรือชมถ้ำนั้นใช้เวลาประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง เป็นระยะทางทั้งสิ้น 7 กิโลเมตรค่ะ เป็นอะไรที่สนุกเรียกความครื้นเครงตลอดเส้นทางกับแก่งหินเล็กๆกลางถ้ำ ทำให้เราต้องหยุดจอดเรือและเดินลุยน้ำ รวมทั้งรอลุ้นคนเรือนำเรือล่องผ่านแก่งหิน ที่มีทั้งหมด 5จุดด้วยกันค่ะ ซึ่งเราก็ต้องขึ้นลงเรือกันเป็นระยะๆ
นอกจากนี้ภายในถ้ำยังมีจุดให้ได้แวะขึ้นไปชมความสวยงามของประติมากรรมทางธรรมชาติซับซ้อน ที่สร้างสรรค์ด้วยกาลเวลา ชวนให้มองแล้วจินตนาการถึงเมืองในฝัน ที่มีปราสาทหลากสี ส่องสว่างเรืองรอง และจุดที่สองกับหาดทรายขาว ที่ความละเอียดของทรายนุ่มนวลเหมือนแป้ง เราได้เดินย่ำทรายขึ้นไปชมบ่อน้ำใส เป็นบ่อน้ำที่มีน้ำซึมออกมาจากพื้นดิน ด้วยเป็นน้ำที่มาจากแม่น้ำหินบูน แต่ถูกกั้นด้วยทรายจึงทำให้บ่อน้ำแห่งนี้ไม่แห้งและมีน้ำซึมออกมาอยู่ตลอดค่ะ ต่อจากนั้นเราได้นั่งเรือล่องไปเรื่อยๆจนออกสู่แสงสว่างของอีกฝั่งหนึ่งที่อยู่ในเขตของ เมืองนากาย เป็นบริเวณบ้านเซียงแลและบ้านนาตานค่ะ
เมื่อเรามาสิ้นสุดที่บริเวณนี้แล้วทุกคนก็ต้องเดินทางกลับด้วยการหันหัวเรือลอดถ้ำกลับในเส้นทางเดิม เป็นอันจบโปรแกรมการเที่ยวของวันนี้ แต่เรายังคงมีเรื่องราวของความม่วนซื่นในการได้ไปเยือนยังประเทศสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวกันอีก ติดตามอ่านกันต่อไปได้ในฉบับหน้านะคะ และสามารถชมความสวยงามเหล่านี้ได้ในรายการเที่ยวละไมไทยแลนด์เวิลด์ วันอาทิตย์นี้ เวลา 06.20น. ทางช่อง 3ค่ะ


