ภูฏานกับดัชนีความสุขของ ‘วรพจน์ ศรีมหาโชตะ’
วรพจน์ ศรีมหาโชตะ เจ้าของ The Haven Paro Resort นักธุรกิจไทยคนแรกและคนเดียวในเวลานี้ที่หาญกล้าเข้าไปลงทุนธุรกิจรีสอร์ต ณ ประเทศภูฏาน ดินแดนแห่งมังกรสายฟ้าซึ่งเป็นความฝันของนักเดินทางหลายคน
วรพจน์ ศรีมหาโชตะ เจ้าของ The Haven Paro Resort นักธุรกิจไทยคนแรกและคนเดียวในเวลานี้ที่หาญกล้าเข้าไปลงทุนธุรกิจรีสอร์ต ณ ประเทศภูฏาน ดินแดนแห่งมังกรสายฟ้าซึ่งเป็นความฝันของนักเดินทางหลายคน
โดย...ร้อยตะวันพันดาว
วรพจน์ ศรีมหาโชตะ เจ้าของ The Haven Paro Resort นักธุรกิจไทยคนแรกและคนเดียวในเวลานี้ที่หาญกล้าเข้าไปลงทุนธุรกิจรีสอร์ต ณ ประเทศภูฏาน ดินแดนแห่งมังกรสายฟ้าซึ่งเป็นความฝันของนักเดินทางหลายคน
The Haven Paro Resort เปิดให้บริการเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงชื่นชมยินดีของลูกทัวร์ไทยที่ได้มีโอกาสมาพักผ่อนและลิ้มลองบริการของรีสอร์ต แต่คนที่น่าจะยินดีที่สุดคือผู้ชายคนนี้ที่เขาได้พิสูจน์แล้วเรื่องที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ ย่อมเป็นไปได้ ขอเพียงมีความกล้าในหัวใจและเดินตามรอยฝันด้วยความเชื่อมั่น
ความสำเร็จที่ปลายทางอาจไม่ได้วัดจากดัชนีทางการเงินเสมอไป แต่วัดจากดัชนีความสุข...และวันที่ The Haven Paro มีโอกาสต้อนรับแขกคนแรกที่เข้าพัก...คงไม่มีใครสุขเทียมเท่าเขาอีกแล้ว
แรงบันดาลใจ
ประเทศเพื่อนบ้านมีคนไปทำเยอะแล้ว คู่แข่งก็เยอะ แล้วมาเที่ยวภูฏานครั้งแรกเมื่อปี 2549 เราเห็นว่าเป็นประเทศมีวัฒนธรรม ภูมิประเทศสวยงาม อากาศดี แต่เรื่องโรงแรม อาหาร ลำบาก เขาไม่มี ก็มองว่าเมืองนี้มีอนาคตในการท่องเที่ยวเพราะประเทศนี้เป็นประเทศเปิดใหม่ที่คนอยากรู้จัก น่าจะเป็นเดสติเนชันใหม่ๆ ในอนาคต เราก็มองว่าน่าจะมาทำธุรกิจโรงแรมได้ดี เพราะทุกคนอยากรู้ว่าภูฏานเป็นไง
ตัดสินใจลงทุนทำรีสอร์ตได้ยังไง
พอดีมีคนไทยมาทำงานที่นี่ เราก็เจอเขา บอกเขาว่าเราสนใจทำโรงแรม ก็มาสะดุดตากับที่แปลงนี้ เราดูหลายเมือง แต่เห็นว่าเมืองพาโร แขกก็ต้องพักอย่างน้อย 1 คืน เพราะเป็นเมืองที่มีเที่ยวบินลงและมีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง เป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของที่นี่ ส่วนทิมพูผมว่ามันจอแจเกินไป ไม่น่าสนใจ
อุปสรรคมีมากไหมในแง่การลงทุนธุรกิจรีสอร์ต
เขาเป็นประเทศที่เปิดให้ต่างชาติลงทุนใหม่ๆ กฎระเบียบต่างๆ ก็ต้องรอ ซึ่งเราก็ต้องรอกว่าจะขออนุญาตได้สร้างโรงแรมใช้เวลากว่าสองปี ช่วงรอเราก็ออกแบบทำแบบคู่ขนานไป ไม่ให้เสียเวลา คือเขาอาจจะมีขั้นตอนเยอะ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร คือในนี้มีรีสอร์ตเชนใหญ่ๆ หลายแห่งมาลงทุน เราก็มองว่าขนาดเชนใหญ่ๆ เขายังกล้าเข้ามาลงทุน เราก็น่าจะทำได้เหมือนกัน
วางแนวทางการตลาดไว้ยังไง
รีสอร์ตในภูฏานส่วนใหญ่เป็นโรงแรมระดับไฮเอนด์กับระดับท้องถิ่นซึ่งไม่ค่อยดีมากนัก เรามองเห็นช่องว่างที่มันมีอยู่ตรงกลาง ซึ่งเราน่าจะสร้างรีสอร์ตที่มีคุณภาพดีแต่ราคาไม่แพงเวอร์มากเหมือนอย่างรีสอร์ตไฮเอนด์ทั้งหลาย คุณภาพของห้องเราก็ทำได้มาตรฐาน ใกล้เคียงโรงแรมหรูๆ เลย ช่องว่างตรงนี้ผมเชื่อว่าเป็นโอกาสทางการตลาด รีสอร์ตของเรานั้นใช้คนไทยล้วนๆ ตั้งแต่วิศวกรออกแบบ ช่างทำงานด้านต่างๆ ซึ่งเบ็ดเสร็จใช้เวลาตั้งแต่ขออนุญาตจนรีสอร์ตเสร็จก็เกือบสี่ปี
รัฐบาลภูฏานมองเรายังไง
เขายินดีต้อนรับนะ เพราะอยากให้มีนักลงทุนเข้ามาพัฒนาธุรกิจด้านรีสอร์ตในภูฏาน เพื่อนบางคนยังว่าผมบ้า (หัวเราะ) แต่เราเห็นว่ามันมีช่องทางธุรกิจ ถ้ามันจะไม่สำเร็จก็เหมือนว่าผมได้สร้างบ้านพักไว้หลังหนึ่งที่ภูฏานแล้วกัน โอกาสทางธุรกิจมันมีนะ การท่องเที่ยวที่นี่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ นะ แล้วคนไทยที่เคยมาเที่ยวมักบ่นว่าเที่ยวภูฏานแพงเพราะอาหารกับที่พักไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ที่แพงเพราะเราต้องจ่ายเป็นแพ็กเกจให้เขาเลย วันละ 200 เหรียญต่อคนต่อวัน ทั้งค่าเหยียบแผ่นดิน ค่าที่พัก อาหาร เลยทำให้การใช้จ่ายในภูฏานค่อนข้างสูง ของเราเป็นบูติกโฮเท็ลเล็กๆ ที่บริหารเอง เหมือนเป็นงานอดิเรกของเรา หรือจะเป็นงานจริงเลยก็ไม่รู้ (หัวเราะ)
เรื่องยากที่สุดในการลงทุนทำธุรกิจที่นี่
จริงๆ แล้วก็ไม่ได้กังวลอะไรมาก ทุกอย่างมันไปได้ด้วยดี แต่มันต้องใช้เวลา ต้องมีข้อมูล ต้องชี้แจง กฎระเบียบเขาค่อนข้างดีนะ ไม่จุกจิกมาก แต่ก่อนเขาจะอนุญาตเขาจะสอบประวัติอย่างดีว่าเงินเราสะอาดไหม เรื่องนี้สำคัญมาก
มองโอกาสการลงทุนที่ภูฏาน
คือมันดีนะ แต่มันลำบากมากในการก่อสร้าง ต้องเอาของจากเมืองไทยมาหมด ภูฏานมีแต่อิฐ หิน ปูน ทราย แต่ข้าวของอื่นๆ ต้องนำเข้าจากเมืองไทย
สถิติคนเที่ยวภูฏาน
ประมาณปีละ 5,000 คนนะ แล้วมันก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาตอนนี้อาจอยู่ที่ค่าตั๋วเครื่องบินซึ่งค่อนข้างมีราคาแพง คือเขามีเป้าหมายว่าภายใน 3 ปี มีนักท่องเที่ยวประมาณหนึ่งแสนคน
ทำไมถึงหลงใหลธุรกิจรีสอร์ต
ผมรู้สึกสบายๆ นะ แต่จริงมันก็เหนื่อยเหมือนกัน พอมันทำแล้วเราก็ได้พักผ่อนไปด้วย ทุกอย่างคือในฝันของเรา เราอยากได้อะไรก็ให้เขาออกแบบ อย่างที่นี่ ผมอยากนอนอาบน้ำแล้วมองเห็นเทือกเขาหิมะ เขาก็ออกแบบอ่างอาบน้ำที่มองเห็นเทือกเขา ผมอยากมีเทอร์เรซ แต่ที่นี่มันหนาวมาก เขาเลยออกแบบเป็นอินดอร์ เทอร์เรซให้เราได้มองวิวทิวเขาได้ตลอดทั้งวัน
ความประทับใจกับภูฏาน
ผมชอบคนภูฏานนะ เขาเป็นคนที่มีจิตใจดี มีวิถีชีวิตยึดถือศาสนา เราอยู่แล้วเรารู้สึกปลอดภัย ที่นี่ต้อนรับคนไทยดีมาก เขารู้สึกดีกับคนไทยมาก


