โฉมใหม่เจ้าชายเพลงป๊อป แดน วรเวช ดานุวงศ์

เปิดใจหนุ่มแดน ในวันที่ไม่มีนามสกุลต่อท้ายว่า ดีทูบี อีกต่อไป และความรู้สึกกับบ้านหลังใหม่ โซนี่ บีเอ็มจีฯ

โดย...อินทรชัย พาณิชกุล

ถึงแม้ว่า แดนวรเวช ดานุวงศ์ อาจจะเหงาๆ ไปบ้างในวันที่ไม่มีคำว่า ดีทูบี ต่อท้ายชื่อ รวมทั้งไม่มีเพื่อนรู้ใจอย่าง บีมกวี ตันจรารักษ์ คอยยืนอยู่เคียงข้าง แต่ชีวิตของเขา ในฐานะซูเปอร์สตาร์ ผู้กุมหัวใจวัยรุ่นนับล้านๆ ดวงทั่วทั้งประเทศ ก็ต้องดำเนินต่อไปอย่างเด็ดเดี่ยว แม้จะโดดเดี่ยว

หลังจากตัดสินใจย้ายสังกัดใหม่มายังค่ายเพลงอินเตอร์ โซนี่ บีเอ็มจี มิวสิค เอนเตอร์เทนเมนต์ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลถึงความต้องการที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับการทำงาน และเปิดรับประสบการณ์ให?่ๆ อันจะทำให้สามารถเติบโตไปบนเส้นทางสายนี้ได้อย่างมั่นคงในอนาคต แดนก็ซุ่มเก็บตัวเงียบ ก้มหน้าก้มตาลุยงานอย่างหนักกับอัลบั้มใหม่ ท่ามกลางสื่อมวลชนที่เฝ้าติดตามทำข่าวและแฟนๆ ที่ต่างรอคอยอย่างใจจดจ่อ

วันนี้ แดน วรเวช พร้อมแล้วที่จะให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความรู้สึกหลังย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ บทบาทการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป และผลงานเดี่ยวชุดล่าสุดที่กำลังจะออกมาในเร็วๆ วันนี้

แดน-วรเวช ดานุวงศ์

“เริ่มต้นเลยก็ได้ทำความรู้จักกับทีมงานใหม่ๆ วิธีการทำงานใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนเก่า แตกต่างจากที่เดิมแทบทุกอย่าง ครั้งนี้ผมได้มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมในขั้นตอนการทำอัลบั้มแทบทุกจุด ตั้งแต่วิธีคิดจะโปรโมต การเลือกปกอัลบั้ม ลงมือเขียนเพลงหลายเพลง รวมทั้งครีเอตทำนองใหม่ๆ ในบางเพลง เรียกว่าเข้าไปมีส่วนเกือ?ๆ จะทั้งหมดเลย ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี รู้สึกว่าโลกกว้างขึ้นครับ” แดนบอก ขณะที่สายตาของเขาทอดยาวไปยังนอกหน้าต่าง วิวบนชั้น 22 ของตึกสูงในเมืองใหญ่ คงทำให้ความคิดแล่นเตลิดไปไกล

ท่าทางของแดนดูอิดโรยเล็กน้อย เขาบอกว่าช่วงนี้โหมงานหนัก แถมเมื่อเช้ายังต้องให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ผ่านทางรายการวิทยุอีกนับสิบรายการ

“ถ้าพูดถึงปริมาณงานก็คงจะเท่าเดิม หมายถึงงานเยอะเหมือนเดิมครับ (หัวเราะ) อาจจะมากกว่าเดิมนิดหน่อยด้วยซ้ำ เพราะเราได้เข้าไปทำเบื้องหลังด้วย แล้วยิ่งใกล้เปิดตัวอัลบั้มใหม่ งานก็คงเข้ามาอีกเยอะ ก็ต้องจัดระเบียบชีวิตให้ดี” ท้ายประโยคนั้นราวกับว่าเขากำลังพูดกับตัวเอง

หลายเดือนที่ผ่านมา ชื่อของศิลปินรายนี้ห่างหายไปจากสื่อต่างๆ อยู่พอสมควร มีเพียงความเคลื่อนไหววับๆ แวมๆ ออกมาให้แฟนๆ หายคิดถึงบ้าง ในช่วงนั้นเองที่แดนได้ไปเรียนเกี่ยวกับด้านเพลง เพื่อจะได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับงานเพลงชุดใหม่ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังรับงานพรีเซนเตอร์ถ่ายโฆษณาให้กับรถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อหนึ่ง ได้ร่วมงานกับเจ้าพ่อเพลงรักอย่าง บอย โกสิยพงษ์ กับการร้องเพลงประกอบโฆษณา “วันที่สวยงาม” และถ่ายละครเรื่อง “กุหลาบซ่อนหนาม” ทางช่อง 3

“แฟนเพลงก็คิดถึงเรานะ แบบว่าเราหายไปนาน เขาก็ยังตามดูเราอยู่ พอเวลาไปเจอตามงานโน้นงานนี้ก็ได้คุยกัน ได้รู้ว่าเขายังรอเรา ยังคอยให้กำลังใจอยู่เสมอ ก็ดีใจมากครับ” แดน เล่าให้ฟังพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง

สำหรับอัลบั้มเดี่ยวชุดใหม่ ภายใต้สังกัด โซนี่ มิวสิคฯ นั้น กำลังจะออกวางจำหน่าย ตอนนี้มีซิงเกิลแรกถูกปล่อยออกมา นั่นก็คือเพลง “ใช้หัวใจ” ด้วย “นิวซาวด์ แอนด์ นิวลุค” ของเขาเรียกเสียงฮือฮาจากกองทัพแฟนคลับได้พอสมควร

“อัลบั้มนี้มีชื่อว่า บลู หมายถึง สีน้ำเงิน ผมว่าถ้าพูดเรื่องสีมันสื่ออะไรได้หลายอย่าง สีเหลืองก็มีความหมายแบบหนึ่ง สีแดงก็คิดได้อย่างหนึ่ง แต่บลูสำหรับแดนมันดูนิ่ง ขรึม สุขุม โตขึ้น ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย และดูน่าค้นหาด้วย

นิวลุคก็คือเป็นแดนที่เป็นแดนอยู่แล้ว เพราะว่าในวันที่เป็นแดนบีม มันก็ต้องแชร์กันว่าแดนเป็นอย่างนี้ บีมเป็นอย่างนี้ เรียบร้อยหน่อย แดนซ์หน่อยๆ แต่พอมารวมกันมันก็ต้องมาหาตรงกลาง สองคนไปด้วยกันได้ ซึ่งในชีวิตประจำวันแดนไม่ค่อยแต่งอย่างนั้น แต่ ณ วันนี้มันก็เป็นการรวบรวมเอาตัวแดนขึ้นมาใหม่ ให้มันแน่นในทิศทางเดียวเลย เป็นด้านมุมของแดนอย่างเดียวเลย มันก็เลยอาจเป็นนิวลุคในสายตาของบางคน ส่วนนิว ซาวด์ มันผสมผสานกันระหว่างหลากหลายแนวดนตรีที่ผมชื่นชอบ ซึ่งก็เป็นงานหนัก ว่าเราจะทำยังไงให้หลายแนวดนตรีที่เราชอบมาเป็นก้อนเดียวกันได้จนกลายมาเป็นอย่างเพลงแรก นั่นคือเพลง “ใช้หัวใจ”

ใช้หัวใจ เป็นเพลงที่บอกถึงมุมมองเรื่องความรักของแดน วรเวช ความรักในความหมายของแดนคือความเข้าใจ เขาตั้งใจแต่งเพลงนี้ขึ้นเพื่อเป็นการบอกเล่าถึงความรู้สึกของคนคนหนึ่ง ซึ่งอยากจะมีใครสักคนเข้าใจในตัวเราได้ทุกเรื่อง แม้วันนี้จะยังหาไม่เจอ แต่สักวันต้องเจอ “คนคนนั้น” แน่นอน ส่วนของดนตรี แดนถ่ายทอดออกมาในรูปแบบซาวด์ดนตรีที่เป็นตัวตนของเขาจริงๆ นั่นคือผสมผสานแนวดนตรี ทั้ง ป๊อป ร็อก ดิสโก้ จนถึงเสียงซินทีไซเซอร์ ที่เลือกมาให้เพื่อบ่งบอกถึงดนตรีแนวเทคโนแดนซ์

“เพลงนี้เขียนขึ้นจากตัวเอง ก็เขียนด้วยความรู้สึกว่าช่วงที่เราทำงานเยอะมาก มันไม่มีคนคุยด้วยจริงๆ ไม่มีใครจริงๆ ไม่มีแฟน (น้ำเสียงอ่อยและออดอ้อน) แม้เราจะรู้สึกว่าไม่เป็นไร แต่มันจะมีบางช่วงที่อยากคุยกับใครสักคน อยากมีแฟน อยากมีความรักกับเขาบ้าง ก็เลยเอาอารมณ์ช่วงหนึ่งของเราตรงนั้นมาเขียนเพลงนี้ขึ้น”

ให้ฉันได้ใช้หัวใจ บอกใครว่ารักสักที หากมันต้องช้ำก็ยังดี ก็ยังได้มีใครให้หึง... แดนฮัมเพลงให้ฟังเบาๆสั้นๆ และเล่าว่าเขาอยากมีแฟนเหมือนกัน แต่เลือกเยอะ เพราะอยากได้คนที่เข้าใจเขา เขาไม่อยากทะเลาะกับใคร เพราะถ้าคนสองคนเข้าใจกัน ก็จะไม่ทะเลาะกัน แดนบอกว่าไม่ชอบการทะเลาะ ไม่ว่าจะกับเพื่อน หรือกับใครก็ตาม

บนเวทีคอนเสิร์ตงานฉลองครบรอบ 39 ปีไทยทีวีสีช่อง 3 เมื่อวานนี้ ณ ราชมังคลากีฬาสถาน เสียงเชียร์อย่างกึกก้องทั่วทั้งบริเวณจากแฟนๆหลายหมื่นคนดังเมื่อสุดยอดขวัญใจของพวกเขาปรากฎตัวบนเวที....แดนวรเวช ดานุวงศ์

"เวทีนี้จะเป็นการเปิดตัวซิงเกิ้ลแรกในเพลงใช้หัวใจ เป็นการแสดงสดอย่างเป็นทางการครั้งแรกบนเวทีใหญ่ในรอบหลายเดือน ช่วงที่ผ่านมาก็มีแค่โชว์ตัวงานเล็กๆ แต่นี่เวทีกลางสนามบอลใหญ่ คนดูเป็นหมื่นๆบนอัฒจรรย์ และอีกนับล้านๆทางจอโทรทัศน์ ก็คล้ายๆกับเป็นการบอกว่าผมกลับมาแล้วนะ" เขาบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น สีหน้าลิงโลด

คำว่าแดนคนใหม่ เขาบอกว่า ถ้าคนที่รู้จักเขาจริงๆ ไม่ว่าจะจากบทสัมภาษณ์ จากการออกรายการทีวี ก็จะรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาอยู่แล้ว เพียงแต่คนภายนอก เมื่อมองเข้ามาเจอแดนในวันที่ไม่มีคำว่าดีทูบีต่อท้าย ไม่มีบีมอยู่ข้างๆ ก็อาจเป็นลุคใหม่ที่ไม่เคยเห็น

“ในวันที่อยู่ตัวคนเดียว ลุยเดี่ยวตลอด ผมก็เหงา เวลาสัมภาษณ์ก็ไม่มีใครเล่นมุขด้วย ไปต่างจังหวัดก็เหงาๆ เจอปัญหาอะไร จากที่มานั่งคุยกันจนกลายเป็นเรื่องขำไป ก็ต้องแก้ไขเองคนเดียว แต่ก็ยังมีโทร.หากันบ้าง ไม่ใช่ว่าวงไม่มีแล้ว เราจะไม่ได้เจอกันอีกเลย ยังพยายามหาอะไรที่มีโอกาสจะทำด้วยกันได้ เพราะเราก็ยังเป็นพี่น้องกันอยู่ ยังเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีกันอยู่

ความคาดหวังต่อการกลับมาในครั้งนี้ ขอแค่คนฟังชอบเพลง ฟังแล้วโอเค แดนก็โอเคแล้ว ไม่ต้องดังมาก มันพ้นช่วงนั้นไปแล้ว แดนมีความสุขกับมันมากในช่วงนั้น เวลานี้ก็ทำตามสิ่งที่มันควรจะเป็น ทำเพื่อแฟนๆ มีแฟนเพลงอยากจะฟังเพลงเราอยู่ เราก็ทำเพลง มีแฟนอยากดูละครที่เราเล่น เราก็เล่นละคร อยากดูหนัง ก็เล่นหนัง แล้ววันหนึ่ง ถ้าเขาบอกว่าไม่อยากฟังเพลงเราอีกแล้ว เราก็ไม่ทำ ผมก็จบ ง่ายๆ จะไม่ยื้อไม่ฉุดรั้ง เพราะมันเป็นวิถีของวงการ”

จากที่เคยขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพ และผ่านพ้นมาแล้วอย่างสง่างาม วันนี้หนทางของแดนวรเวช นั้นสงบราบรื่น แล้วเขาจะยังกระตือรือร้นต้องการอะไรอีกไหม สำหรับความฝันใหม่ๆ ในวันต่อไป?

“สิ่งหนึ่งที่อยากทำคืองานกำกับหนังใหญ่ ตอนนี้ก็ซุ่มๆ เขียนบทอยู่ ส่วนในเรื่องของการร้องเพลง ไม่ได้คาดหวังอะไรแล้ว แค่ร้องเพลง แล้วแฟนๆ มีความสุขก็โอเค ไปออกรายการสัมภาษณ์ ทำให้แฟนๆ ยิ้ม หัวเราะ และได้ให้แง่คิดดีๆ แก่แฟนๆ ให้เขานำมันไปใช้ประโยชน์กับชีวิตประจำวันได้ ก็ภูมิใจแล้วครับ” เขาตั้งใจไว้เช่นนั้น

อีกในไม่ช้า อัลบั้มใหม่ของ แดน วรเวช ดานุวงศ์ ในบทบาทศิลปินเดี่ยวก็จะออกมาสู่สายตาทุกคู่ และเมื่อไม่มีคำว่าดีทูบี ไม่มีบีม เพื่อนซี้ยืนเคียงข้างอีกแล้ว

โฉมใหม่ของเจ้าชายแห่งวงการเพลงป๊อปในครั้งนี้ จึงน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง