posttoday

วันนี้...ของอดีตนางแบบโลก ยุ้ยรจนา เพชรกันหา

03 มีนาคม 2554

ยุ้ยรจนา เพชรกันหา ในอดีตเธอคือนางแบบโลกที่เฉิดฉายอยู่ในเมืองหลวงโลกแห่งแฟชั่น มิลาน ปารีส นิวยอร์ก และลอนดอน ในระหว่างปี 2537-2545

ยุ้ยรจนา เพชรกันหา ในอดีตเธอคือนางแบบโลกที่เฉิดฉายอยู่ในเมืองหลวงโลกแห่งแฟชั่น มิลาน ปารีส นิวยอร์ก และลอนดอน ในระหว่างปี 2537-2545

เรื่อง : นกขุนทอง / ภาพ : วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

ยุ้ยรจนา เพชรกันหา ในอดีตเธอคือนางแบบโลกที่เฉิดฉายอยู่ในเมืองหลวงโลกแห่งแฟชั่น มิลาน ปารีส นิวยอร์ก และลอนดอน ในระหว่างปี 2537-2545 ไม่มีใครไม่รู้จักสาวไทยหนึ่งเดียวที่ยืนอยู่บนแคตวอล์กระดับโลก เธอสามารถทำรายได้สูงถึงเดือนละหลายสิบล้านบาท มีชีวิตที่พลิกจากดินสู่ดาว และเพียงเวลา 8 ปี ดาวก็ร่วงหล่นอับแสงเพราะฤทธิ์ของยาเสพติดที่เธอยอมตกเป็นทาสของมัน ชีวิตของเธอหลังจากนั้นตกต่ำยิ่งกว่าดิน มีรายได้ต่อเดือนไม่ถึงพันบาท ทว่าวันนี้...เธอกำลังลุกขึ้นสู้ เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง แม้จะรู้ดีว่าไม่สามารถไปได้ไกลเช่นอดีต

วันนี้...ของอดีตนางแบบโลก ยุ้ยรจนา เพชรกันหา

งาน...นู้ดครั้งแรก

“ตอนนี้ก็มีงานทำ แต่ไม่ได้มากมายแบบวันหนึ่ง 23 งาน จะมีงานถ่ายแบบมาเรื่อยๆ เดือนละเล่มสองเล่ม หรืองานโปรเจกต์ใหญ่ ซึ่งใช้เวลาทำต่อเนื่องหลายวัน แต่งานแบบนี้ก็ไม่ได้มาถี่ ยุ้ยโชคดีมากที่คนให้โอกาสในการทำงาน ยุ้ยไม่ได้คาดหวังว่าเราจะทำรายได้สูง คนจะต้องรู้จัก จะต้องมีงานเยอะ เราทำพอเลี้ยงตัวเองได้และให้ร่างกายเราไหว เพราะตอนที่เรารุ่งก็รุ่งสุดๆ พอตกต่ำมาก็โชคดีที่มีคนดึงเราขึ้นตลอดเวลา เพราะเราเองก็สร้างวีรกรรมไว้เยอะ ไหนจะเรื่องเกี่ยวกับแม่ ยาเสพติด เกี่ยวกับเรื่องแฟนเก่าที่ทำร้ายร่างกาย มีข่าวเสียเยอะมาก แต่ก็ยังมีคนให้โอกาสเรา

อย่างงานล่าสุดถ่ายแบบนู้ดกับทัช แมกกาซีน ซึ่งตั้งแต่ยุ้ยทำงานมา อยู่เมืองนอกถ่ายแบบมาหลายเล่ม มีถ่ายเซ็กซี่บ้าง แต่ไม่เคยถ่ายนู้ดโป๊หมดขนาดนี้เลย ที่ตัดสินใจถ่ายเพราะคอนเซปต์งาน ชีวิตเราไม่ได้ตกอับจนต้องมาถ่ายนู้ดเพราะเราก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน งานนี้เป็นงานการกุศล นำรายได้ไปมอบให้มูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก อย่างช่างภาพ ณัฐ ประกอบสันติสุข ก็เป็นช่างภาพที่คุ้นเคยกัน ตั้งแต่ยุ้ยเข้าวงการใหม่ๆ จนไปเมืองนอก เรามั่นใจช่างภาพและเขาก็แฮปปี้ที่ทำงานกับเรา ถ่ายเซตนี้เป็นนู้ดเพียวเลย ไม่มีเสื้อผ้า จะมีมือปิดของสงวนไว้ นอกนั้นปล่อยเป็นธรรมชาติ แต่ถ่ายเป็นอาร์ต ไม่ได้ยั่วยวน นอกจากงานนี้แล้ว เร็วๆ นี้ จะมีงานหนังมาให้เซอร์ไพรส์ ต้องรอติดตาม”

(เข็ด)...ความรัก

พอถามถึงเรื่องความรัก ยุ้ยเอาแต่หัวเราะ ตอบไปก็หัวเราะไปนั้นเพราะชีวิตในช่วงนี้ไม่ได้โฟกัสที่ความรัก จึงไม่มีเรื่องเล่าอะไรมากมาย อีกทั้งบาดแผลจากอดีตที่คนรักเก่าทิ้งไว้ให้ก็ร้าวลึกกรีดหัวใจจนยุ้ยเอ่ยปากบอกว่า “เข็ดขยาด” อยู่เหมือนกันกับการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่กับชายสักคน

“ตอนนี้ยุ้ยอยากโฟกัสที่งานมากกว่า เรื่องรักก็พักไป เพราะเราได้โอกาสกลับมาทำงานหลังจากซุ่มรักษาตัวมาเป็นเวลานาน ก็ไม่อยากปล่อยโอกาสนี้ไป อยากให้งานอยู่ตัว อยากทำงานด้วยตัวเอง เราจะได้ภูมิใจ ไม่ได้อยากได้แฟนรวยแล้วมาเลี้ยงเรา มีคนเสนอมาขอเลี้ยงดูก็มีบ้าง แต่ไม่เยอะหรอก เพราะบุคลิกยุ้ยจะเป็นคนแข็งๆ คงไม่ถูกใจใครเท่าไหร่(หัวเราะ) แต่ถ้าใครเข้ามาแบบนี้ยุ้ยก็จะตัดบทคุยเรื่องงานไป ความรักครั้งเก่าก็มีส่วนทำให้เราเข็ดกับความรัก ความรักไม่มีเงินก็แย่ มีเงินไม่มีความรักก็แย่ ตอนนี้เราบรรลุนิติภาวะแล้วก็อยากบาลานซ์ความรัก รักตัวเอง รักงาน รักพ่อแม่ อายุอย่างเราต้องหารักที่มั่นคง ไม่ใช่รักฉาบฉวย ต้องใช้เวลาศึกษากันหน่อย”

รูปร่าง...ผู้หญิงอย่าหยุดสวย

หากยังพอจำเธอตอนเป็นซูเปอร์โมเดลระดับโลกได้ คงจะไม่มีใครปฏิเสธว่ารูปร่างทรวดทรงของเธอนั้นเฉียบขนาดไหน ตอนนั้นยุ้ยสูง 172 เซนติเมตร มีน้ำหนักเพียง 49-50 กิโลกรัมเท่านั้น กินเยอะก็ไม่อ้วน แต่จะออกแก้มแค่นั้น แต่ตอนนี้ในวัย 30 ต้นๆ ยุ้ยบอกว่าก่อนจะทำงานโปรเจกต์ไหนต้องเร่งรีดน้ำหนักตลอด

“เมื่อก่อนอวบกว่านี้อีก นี่ลงมา 5 กิโลกรัมแล้วนะ ตอนนี้หนัก 59 แต่ก็ต้องลงให้ได้มากกว่านี้ ด้วยเพราะงาน เราจะห่างไม่มีงานทำถี่ทุกวัน เพราฉะนั้นเรามีเวลาที่จะทานอะไรที่อยากทาน แต่ต่อจากนี้ไปไม่ได้แล้ว ต้องควบคุม โชคดีที่ตอนเป็นนางแบบมีพื้นฐานของการเข้าฟิตเนส ยุ้ยก็จะออกกำลังกายบริหารเองที่บ้าน ไม่ทานอาหารเย็น และควบคุมอาหาร อย่างยุ้ยชอบทานน้ำพริก ซึ่งมีรสเผ็ดก็จะลดๆ ลง เพราะทำให้เราบวมน้ำได้ เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย (หัวเราะ) ต้องให้ผอมกว่านี้ งดหวานมันเค็ม ก็จะพยายามลด เพราะเรายังตามใจปากอยู่ ส่วนผิวพรรณก็มีบ้างที่ขัดผิว แต่ก็เน้นทำเองที่บ้าน และพยายามจะไม่เครียด เพราะถ้าเราเครียดมันจะเอฟเฟกต์ทำให้หน้าตาเราไม่ดี ผิวพรรณก็ไม่ดีด้วย”

สุขภาพจิตใจ

ก่อนหน้านี้ยุ้ยมีอาการพูดแล้วลิ้นแข็ง เรียบเรียงความคิดค่อนข้างสับสน เนื่องมาจากผลของการใช้ยาเสพติด แต่เท่าที่ได้พูดคุยกับเธออาการเหล่านั้นไม่มีแสดงให้เห็นเลย ยุ้ยพูดได้คล่องแคล่วชัดเจน ถามมาตอบไป แถมยังอารมณ์ดี คุยแล้วเพลิน

“ช่วงนี้ชีวิตแฮปปี้ ดีกว่าเก่าเยอะ หลักๆ เราทำตัวเองให้มีความสุข อย่าเครียด อาการที่ใช้ยาหายหมดแล้ว ก็เหลือโรคเครียด ตรงนี้คนอาจกังวลว่ามาทำงานยุ้ยอาจไม่เต็มที่ ก็กลับมาทำงานให้เห็นเยอะๆ ว่ากลับมาทำงานได้แล้วนะ อย่างเรื่องนัดเวลาจะไม่ให้เสีย รับผิดชอบงานและทำงานให้เต็มที่ เราจะรู้ตัวเองว่ามีโรคประจำตัว เครียดไม่ได้ เครียดแล้วจะวีน จะหงุดหงิด หมอเรียกว่าโรคไบโพลาร์ รักษามา 5-6 ปีแล้ว ดีขึ้นเยอะ คุณหมอการันตีสามารถทำงานได้ ทุกๆ 2-3 เดือน ก็ไปเช็กไปเปลี่ยนยา ลดยา เพื่อความแน่ใจว่าเราดีขึ้น ซึ่งตรงนี้ยุ้ยพยายามไม่เครียด เข้าหาธรรมะเยอะขึ้นด้วย ทำให้เราเรียนรู้ที่จะทำให้ชีวิตเราสงบ มีความสุข”

การเงิน ชีวิตความเป็นอยู่

จากรับประทานอาหารหรูมื้อละเป็นหมื่น ช็อปปิ้งข้าวของเครื่องใช้หมดเป็นแสน มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างสุขสบายหรูหรา มาสู่การอดมื้อกินมื้อ ใส่เสื้อผ้าเก่าซอมซ่อ อยู่ในห้องเช่าเล็กๆ ชีวิตของยุ้ยหลังจากกลับต่างประเทศเป็นชีวิตที่เรียกว่าตกระกำลำบาก ทว่าเมื่อปีที่แล้วได้ออกรายการคนค้นฅน ซึ่งเป็นจุดฉุดให้ชีวิตของเธอดีขึ้น แม้จะเทียบไม่ได้กับตอนรุ่งโรจน์ แต่ก็ดีขึ้นจากตอนตกอับมากมายนัก

“ตอนนี้ชีวิตโอเค ไม่ลำบาก พอออกรายการคนค้นฅนก็มีคนให้โอกาส ให้งาน ให้เสื้อผ้า กระเป๋ารองเท้า ให้ของกิน กำลังใจ ซึ่งสำคัญมากทำให้เราลุกขึ้นสู้ๆ อีกครั้ง ทุกวันนี้ยุ้ยอยู่อย่างพอเพียง ประหยัดใช้ เมื่อก่อนหาเงินได้เยอะก็จริง แต่ใช้เยอะและหมดไป อย่างตอนนี้รายได้ปัจจุบันก็อยู่ที่หลักพันปลายๆ ถึงหลักหมื่นต่อเดือน แต่ก็ดีกว่าตอนยังไม่ออกรายการเยอะ ซึ่งยุ้ยมีประสบการณ์การใช้เงินมาแล้ว ตอนนี้ใช้แค่เท่าที่จำเป็น ที่เหลือเก็บออมหมด

จะไปไหนสักแห่งหนึ่งจะนั่งรถเมล์ ถ้ารีบก็ต่อมอเตอร์ไซค์ น้อยมากที่จะนั่งรถแท็กซี่ ที่พักจากอยู่ห้องเช่าตอนนี้ก็ย้ายมาอยู่บ้านกับป้า ชีวิตก็ดีขึ้น ทำอาหารกินเองที่บ้าน อาหารหลักๆ ส้มตำข้าวเหนียว ยุ้ยกินง่ายอยู่ง่าย นานๆ อยากกินพิซซาที ส่วนสังสรรค์กับเพื่อนฝูงนี้แทบไม่มีเลย อันไหนประหยัดได้ก็ประหยัด เสื้อผ้า ของแต่งตัว ก็ไม่ได้ซื้อ ใช้ที่มีคนส่งมาให้ ยุ้ยไม่ถือ ใส่ได้ใส่หมด”

 

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด เชลซี พบ เอฟเวอร์ตัน พรีเมียร์ลีก วันนี้ 13 ธ.ค.68