อัฐวุฒิ ปภังกร ก้าวให้ไกลในมุมที่ต่าง

วันหนึ่งเราได้ดูมิวสิกวิดีโอของ จัสติน บีเบอร์ แล้วตั้งคำถามกับตัวเองขึ้นมาว่า ในช่วงอายุที่เท่ากันเรากำลังทำอะไรอยู่ นั่งอ่านหนังสือสอบเอนทรานซ์ เล่นกีฬา หรือเล่นเกมไปวันๆ ในโลกนี้มีคนนับพันล้านที่ประสบความสำเร็จเมื่อเข้าสู่บั้นปลายของชีวิต แต่มีเพียงไม่กี่ล้านคนที่จะประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย

โดย...โยธิน อยู่จงดี

 

วันหนึ่งเราได้ดูมิวสิกวิดีโอของ จัสติน บีเบอร์ แล้วตั้งคำถามกับตัวเองขึ้นมาว่า ในช่วงอายุที่เท่ากันเรากำลังทำอะไรอยู่ นั่งอ่านหนังสือสอบเอนทรานซ์ เล่นกีฬา หรือเล่นเกมไปวันๆ ในโลกนี้มีคนนับพันล้านที่ประสบความสำเร็จเมื่อเข้าสู่บั้นปลายของชีวิต แต่มีเพียงไม่กี่ล้านคนที่จะประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย

หนึ่งในนั้นคือ อัฐวุฒิ ปภังกร อาจารย์พิเศษ วิชาการตรวจสอบการทุจริตทางการบัญชีและวิชาการวางระบบบัญชี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และผู้จัดการฝ่ายบัญชี บริษัท สำนักงานสัจพงษ์ทนายความและการบัญชี เขาเริ่มเล่นหุ้นจนสามารถทำกำไรได้มหาศาลตั้งแต่อายุ 14 เริ่มบริหารงานบริษัทในเครือของพ่อตั้งแต่อายุ 19 พออายุ 20 เรียนจบปริญญาตรี

ในวันเกิดอายุ 20 เซ็นสัญญากู้เงิน 915 ล้านบาท จากธนาคาร 3 แห่ง ลงทุนในกิจการอสังหาริมทรัพย์ ผ่านไป 5 ปี สามารถทำกำไรกลับมาไม่น้อยกว่า 4 เท่า อายุ 23 เริ่มงานอาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในวิชาที่มีอาจารย์เพียงไม่กี่คนในประเทศสอนอย่างวิชาบัญชีนิติเวชศาสตร์ จึงเป็นอาจารย์พิเศษที่สอนในระดับปริญญาตรีและโทที่อายุน้อยที่สุด ด้วยแนวคิดการทำบัญชีสมัยใหม่ที่ไม่ได้เป็นแค่เสมียนรวบรวมเอกสารและสรุปส่ง

“วิชาที่ผมสอนคือการหาคนทุจริตในองค์กร ว่าเขามีการทุจริตมีการตบแต่งบัญชีอย่างไร หลักแรกที่คุณจะจับโจรได้ เราต้องคิดเหมือนโจรก่อน โจรจะคิดวางแผนไว้ล่วงหน้า เป็นความคิดที่แตกต่างจากพวกเราที่เป็นคนปกติออกไป คนเงินเดือน 1.5 หมื่นบาท มีบัตรเครดิต 10 ใบ หมุนเงินกันได้อย่างไร เราต้องรู้วิธีคิดของเขาซึ่งต่างจากคนทั่วไป ต้องรู้ให้ทันและหาจุดอ่อนตรงนั้นและปิดมันซะด้วยการตรวจสอบตัวเลขทางบัญชี

ที่ผมเข้ามาสอนตรงนี้ได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะช่วยงานวิจัยร่วมกับอาจารย์ ท่านก็พอเห็นความสามารถอยู่บ้าง แต่ที่เห็นเป็นผลงานชัดเจนจนเขาเชิญให้มาสอนในวิชานี้ ก็ด้วยงานที่ผมทำในบริษัท เข้าไปตรวจบัญชีในบริษัทลูกค้าในเครือที่คุณพ่อดูแล แล้วก็ตรวจเจอการทุจริตเป็น 10 ล้านบาท ในหลายๆ บริษัท แล้วก็รายงานกับผู้บริหาร” อัฐวุฒิ เล่าถึงที่มาที่ไปของการเข้ามาทำหน้าที่อาจารย์พิเศษที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

ควบคู่ไปกับการทำธุรกิจส่วนตัว และการเรียนต่อในระดับปริญญาเอก ซึ่งเขาตั้งใจที่จะเรียนให้จบเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะยังมีอีกหลายอย่างที่เขาอยากจะทำให้สำเร็จก่อนอายุ 30

นอกจากนี้ สิ่งที่เขาพยายามทำให้ดีที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ การบอกกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นลูกศิษย์หรือลูกน้อง ก็คือการเปลี่ยนความคิดและมุมมองของการทำบัญชี ว่าโลกทุกวันนี้เดินหน้าและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

การทำบัญชีก็เช่นกัน หากวันนี้หยุดนิ่งไม่พัฒนา วันหนึ่งโปรแกรมจะเข้ามาแทนที่การทำงานของเราทั้งหมด หากคุณไม่ทำให้ต่าง ไม่ว่าคุณจะจบ ปวส. หรือปริญญาตรี คนก็มองเราเป็นแค่เสมียนคนหนึ่งเท่านั้น

 

ในทุกๆ วัน อัฐวุฒิ จะเข้าทำงานตอน 8 โมงเช้า เพื่อตรวจงานเอกสารต่างๆ ให้เรียบร้อย ก่อนสั่งงานลูกน้องและออกไปดูแลงานอื่นๆ ต่อ ไม่ว่าจะเที่ยวกลับดึกแค่ไหนเขาก็จะต้องเข้าออฟฟิศ 8 โมงเช้าเสมอ ด้วยเหตุนี้เองการเลือกอุปกรณ์ในการทำงานของเขาจะต้องเอื้อกับการสอนหนังสือและการทำงานบัญชีให้มากที่สุด

โทรศัพท์คือสิ่งพื้นฐานที่สำคัญสิ่งแรกที่เขาจะถามคนขายก่อนซื้อก็คือ คุยต่อเนื่องได้นานแค่ไหน อย่างน้อยต้องสามารถโทร.คุยได้ 4 ชั่วโมงต่อวัน และแบตเตอรี่ไม่หมดไปกลางคันเสียก่อน

“ก่อนหน้านี้ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบเล่นแกดเจ็ต ไอโฟนก็มีอะไรที่เขาฮิตๆ กัน ผมก็เคยใช้ แต่สุดท้ายแล้วผมใช้งานจริงๆ ก็เป็นแค่เรื่องพื้นฐานอย่างการติดต่อสื่อสารเท่านั้น บีบีใช้เช็กอีเมล โทรศัพท์อีกเครื่องใช้โทร.ติดต่องาน ดังนั้นผมจึงให้ความสำคัญที่เรื่องแบตเตอรี่ต้องอึดเอาไว้ก่อน

ตอนนี้มีเครื่องไอแพด ที่มีก็เอาไว้ใช้เข้าอินเทอร์เน็ตเปิดหน้าเว็บดาวน์โหลดเอกสารงานวิจัยต่างประเทศ ซึ่งผมต้องอัพเดตอยู่ตลอดเวลาให้ทันกับวิธีการทำบัญชีใหม่ๆ แต่ที่ผมไม่เคยเปลี่ยนในการทำบัญชีก็คือ การใช้โปรแกรมเอ็กเซล ในการเขียนสูตรทำบัญชี ซึ่งมีน้อยคนที่จะใช้ความสามารถของเอ็กเซลให้เป็นประโยชน์

ทุกอย่างต้องรองรับการทำงานของผมทั้งหมด ไม่ได้ตามเทคโนโลยี แต่ผมเลือกที่ใช้ทุกอย่างที่มีให้เป็นประโยนช์มากที่สุดในงานที่ผมทำ เพราะความต้องการของผมก็มีเท่านี้จริงๆ” อัฐวุฒิ เผยถึงการเลือกอุปกรณ์ที่เขาใช้ ที่ต้องเอื้อประโยชน์ในการทำงานของเขาให้ก้าวทันตามโลกที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุด และเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้เขาประสบความสำเร็จในโลกของการทำงาน

ทุกครั้งที่คุณเล่นเกมตามกระแสนิยมในแกดเจ็ต เวลาแห่งความสำเร็จจะเดินทางถึงคุณช้าลง ที่เหลือก็เพียงแต่ว่าคุณจะเลือกที่จะประสบความสำเร็จเร็วช้าแค่ไหนด้วยการบริหารเวลาและทรัพยากรที่มีอยู่ในตัวคุณ.