สยามพรีเมียมเอาท์เล็ต ปี5 รุกกลยุทธ์รอบด้าน เสริมแบรนด์ระดับโลก

เมื่อ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ” ครบรอบ 5 ปี การเฉลิมฉลองครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนความสำเร็จของศูนย์การค้าพรีเมี่ยมเอาท์เล็ตแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย แต่ยังแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่แม่นยำและครบทุกมิติ ทั้งด้านการตลาด การสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่แตกต่าง และการเสริมพอร์ตแบรนด์ให้แข็งแกร่งในระดับสากล
 

ภายใต้การบริหารของ สยามพิวรรธน์ ไซม่อน จำกัด ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างสยามพิวรรธน์และไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป จากสหรัฐฯ การผนึกกำลังครั้งนี้ช่วยให้ศูนย์ฯ สามารถก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดเอาท์เล็ตระดับโลกได้ภายในเวลาอันสั้น

ไมเคิ้ล ถัง กรรมการผู้จัดการ เผยว่า ความสำเร็จของ 5 ปีที่ผ่านมาเกิดจากการเข้าใจผู้บริโภคเป็นหลัก พร้อมปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับโลกการค้าปลีกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว โดยหนึ่งในเครื่องมือสำคัญคือ การขยายพอร์ตแบรนด์ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการดึงแบรนด์หรู Givenchy, Polo Ralph Lauren และ TAG Heuer ที่เปิดเอาท์เล็ตแห่งแรกในไทย รวมถึงการเตรียมต้อนรับแบรนด์ใหม่อย่าง Tory Burch, Palm Angels และ Crocs เพื่อตอบโจทย์นักช้อปหลายกลุ่ม ตั้งแต่แฟชั่นลักชัวรีจนถึงไลฟ์สไตล์และสตรีทแวร์

ตัวเลขสะท้อนความสำเร็จชัดเจน โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 ยอดใช้จ่ายและการใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้เศรษฐกิจโลกจะผันผวนและนักท่องเที่ยวบางกลุ่มหดตัว แต่การบริหารจัดการด้วย กลยุทธ์การตลาดครบวงจร ทำให้สามารถรักษาการเติบโตได้อย่างมั่นคง

สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ยังรักษาส่วนแบ่งตลาดด้วยการเจาะกลุ่มลูกค้าคุณภาพ โดย 80% เป็นนักช้อปชาวไทย ที่มีกำลังซื้อสูงในช่วงเทศกาลและวันหยุดยาว ขณะที่ 20% เป็นนักท่องเที่ยวจากอินเดีย อาเซียน และตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็นตลาดเป้าหมายที่มีกำลังซื้อจริงและให้ความสำคัญกับแบรนด์ระดับโลก

เพื่อเสริมการเติบโต ศูนย์ฯ ยังจัดแคมเปญใหญ่ “ALWAYS WORTH THE TRIP” ฉลองครบรอบ 5 ปี ลดสูงสุดถึง 80% พร้อมสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตและของสมนาคุณตลอดเดือนกันยายน–ตุลาคม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สร้างการเข้าชมและกระตุ้นกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง

ในระยะเวลาเพียง 5 ปี “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ” ได้พิสูจน์แล้วว่า การบริหารจัดการที่ผสมผสานกลยุทธ์การตลาดเข้ากับความเข้าใจผู้บริโภค คือกุญแจสำคัญที่ทำให้แบรนด์สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง แม้ในภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย