พระพุทธรูปพูดได้
หลายคนคงรู้จักและเคยไปเที่ยววัดศรีชุม อ.เมือง จ.สุโขทัย และสิ่งที่ผู้คนกล่าวขานจนเป็นตำนานของวัดแห่งนี้มาตั้งแต่โบราณถึงปัจจุบัน ก็คือ พระพุทธรูปวัดศรีชุม พูดได้....
หลายคนคงรู้จักและเคยไปเที่ยววัดศรีชุม อ.เมือง จ.สุโขทัย และสิ่งที่ผู้คนกล่าวขานจนเป็นตำนานของวัดแห่งนี้มาตั้งแต่โบราณถึงปัจจุบัน ก็คือ พระพุทธรูปวัดศรีชุม พูดได้....
โดย...อ.ตุ้ย วรธรรม
หลายคนคงรู้จักและเคยไปเที่ยววัดศรีชุม อ.เมือง จ.สุโขทัย และสิ่งที่ผู้คนกล่าวขานจนเป็นตำนานของวัดแห่งนี้มาตั้งแต่โบราณถึงปัจจุบัน ก็คือ พระพุทธรูปวัดศรีชุม “พูดได้”
ก่อนจะไปรู้จักความอัศจรรย์ของพระพุทธรูปพูดได้ ขอเล่าประวัติคร่าวๆ ของวัดศรีชุมแห่งนี้เพื่อความเข้าใจตรงกัน ซึ่งตามประวัติ “วัดศรีชุม” หรือเรียกอีกอย่างว่า “วัดฤๅษีชุม” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองสุโขทัย ปัจจุบันเป็นโบราณสถานในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
ในวัดจะมีโบราณสถานขนาดใหญ่ ลักษณะเป็นมณฑปรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่หลังคาพังทลายลงมาหมดแล้ว เหลือเพียงผนังทั้งสี่ด้านเท่านั้น ซึ่งแต่ละด้านก่ออิฐถือปูนอย่างแน่นหนา
ผนังทางด้านใต้ มีช่องให้คนเข้าไปภายใน และเดินขึ้นไปตามทางบันไดแคบๆ ถึงผนังด้านข้างขององค์ “พระอจนะ” (พระประธานในมณฑปที่ได้รับการเล่าขานกันมาว่าสามารถพูดได้) หรือสามารถขึ้นไปถึงสันผนังด้านบนได้
ภายในช่องกำแพงตามฝาผนังมีภาพเขียนเก่าแก่มาก แต่เลอะเลือนเกือบหมด เชื่อว่าภาพเขียนนี้มีอายุเกือบ 700 ปี นอกจากนี้ บนเพดานช่องบันไดยังมีแผ่นหินชนวนขนาดใหญ่แกะสลักลวดลายเกี่ยวกับชาดกต่างๆ มีจำนวนทั้งหมด 50 ภาพ เมื่อเดินตามช่องทางบันไดขึ้นไปจะโผล่บนหลังคาวิหาร สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองเก่าสุโขทัยได้โดยรอบ
ว่ากันว่าสถานที่แห่งนี้ เรียกอีกอย่างว่า “ฤๅษีชุม” โดยเป็นสถานที่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชประชุมทัพก่อนที่จะยกทัพไปปราบเมืองสวรรคโลก อันเป็นต้นตอของตำนาน “พระ (อจนะ) พูดได้” ตามที่ได้เล่าขานกันมา
กล่าวคือ ครั้งหนึ่ง เมื่อสมเด็จพระนเรศวรได้มาประชุมทัพเพื่อจะยกไปปราบเมืองสวรรคโลกนั้น พระองค์ทรงต้องการ สร้างขวัญและกำลังใจให้แก่เหล่าทหารหาญ
จึงได้ทำพิธีเสี่ยงทายกับพระอจนะพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 11.30 เมตร ในมหามณฑป โดยมีเหล่าทหารของพระองค์เป็นสักขีพยานว่า
“การรบครั้งนี้หากจะได้ชัยชนะกลับมา ก็ขอให้พระอจนะที่วัดศรีชุมนี้ได้เปล่งเสียงกล่าวตอบ แต่หากไม่ชนะก็ไม่ต้องตอบสิ่งใด”
ผลของการเสี่ยงทาย ปรากฏว่า พระอจนะได้เปล่งเสียงตอบมา
หลายๆ คนพอได้ยินอย่างนี้ คงนึกว่าเป็นปาฏิหาริย์หรืออย่างไรที่ทำให้พระอจนะพูดได้ ทว่าจริงๆ แล้วพระอจนะไม่ได้เปล่งเสียงอะไรเลย
แต่เหตุที่พระอจนะพูดได้จริงๆ นั้น เกิดจากกุศโลบายของสมเด็จพระนเรศวรที่ทรงส่งคนขึ้นไปอยู่ด้านหลังเศียรพระและพูดตอบคำถามแทน เพื่อเป็นการปลุกปลอบขวัญทหารให้ฮึกเหิม
และแล้วสิ้นเสียงสนทนา ปรากฏว่าเหล่าทหารเกิดความเชื่อจริงๆ ว่าพระพุทธรูปพูดได้ สร้างความอัศจรรย์ใจและขวัญกำลังใจให้ทัพของสมเด็จพระนเรศวรเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ เป็นที่ทราบแล้วว่าในผนังด้านหลังองค์พระอจนะจะมีอุโมงค์แคบๆ ที่คนสามารถเดินขึ้นไปยังหลังเศียรพระได้ ซึ่งเมื่อขึ้นไปแล้วพอส่งเสียงพูดก็จะมีเสียงก้องกังวานเหมือนว่าพระพุทธรูปนั้นพูดได้จริงๆ
จากนั้นเป็นต้นมาก็กลายเป็นตำนานว่า พระประธานวัดศรีชุมนี้พูดได้


