posttoday

จบแล้ว ! เงินอัดฉีดนักฟุตบอลทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ได้สิ้นเดือน ก.พ.

11 กุมภาพันธ์ 2567

ข่าวดีของทัพนักฟุตบอลทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ เมื่การกีฬาแห่งประเทศไทย ออกมายืนยันเองว่าทัพนักเตะและสตาฟฟ์โค้ชจะได้เงินรางวัลที่ค้างมานาน จะได้แน่นอนหลังสิ้นเดือนกุนภาพันธ์ 67

จากกรณีที่นักฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดเหรียญเงิน ซีเกมส์ 2023 ที่ยังไม่ได้เงินรางวัลหลังจบการแข่งขันตั้งแต่เดือน กรกฎาคม ปี 2023 

ล่าสุด “ดร.ก้อง” ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ออกมาเผยว่าทุกอย่างยุติแล้ว เพราะเงินรางวัลอัดฉีดนักเตะทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ กัมพูชา รอนำเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดฯ อนุมัติสิ้นเดือนนี้
 

โดย นางสาวศมจรส มิ่งคำเลิศ โฆษกการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าว เรื่องความล่าช้าของเงินอัดฉีดนักเตะทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ที่กัมพูชา ออกมานั้น ล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องนี้ต้องยอมรับว่าจากเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น กกท.เรามีการดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนมาโดยตลอด และทุกอย่างตอนนี้ได้จบแล้ว ซึ่งหมายความว่าก็เพียงแต่รอขั้นตอนในการอนุมัติในบอร์ดเท่านั้น ซึ่งการกีฬาแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ก็เตรียมทุกอย่างพร้อมที่จะเสนอบอร์ดพิจารณาอนุมัติอยู่แล้วในการประชุมในครั้งหน้า ซึ่งคาดว่าจะอยู่ภายในเดือนนี้ 

"ขั้นตอนทุกอย่างเป็นที่ยุติแล้ว กกท.ได้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายครบถ้วนถูกต้องทุกขั้นตอน และไม่ได้ล่าช้า ก็จะเห็นได้จากเรื่องของเงินรางวัลของกีฬาชนิดอื่นๆก็ได้จ่ายไปหมดแล้ว มีเฉพาะเรื่องของฟุตบอลเท่านั้นที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น และกกท.ได้เร่งกระบวนการพิจารณาทุกอย่างจนตอนนี้ก็ได้ยุติแล้วเหลือแค่เข้าบอร์ดเพื่ออนุมัติ เท่านั้น”

จบแล้ว ! เงินอัดฉีดนักฟุตบอลทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ได้สิ้นเดือน ก.พ.
 

สำหรับเกณฑ์เงินอัดฉีดซีเกมส์นั้น เหรียญทอง จะได้รับเงินอัดฉีด 300,000 บาท เหรียญเงิน 150,000 บาท และเหรียญทองแดง 75,000 บาท ขณะที่ ผู้ฝึกสอนของกีฬาที่เป็นบุคคลหรือทีมไม่เกิน 6 คน จะได้รับร้อยละ 20 หากเป็นทีมตั้งแต่ 7 คนขึ้นไป จะได้รับร้อยละ 10 จากวงเงินที่นักกีฬาได้รับ ส่วนสมาคมกีฬาต้นสังกัด จะได้รับร้อยละ 30 จากจำนวนเงินที่นักกีฬาได้รับ แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท

เท่ากับว่า ทีมฟุตบอลชายไทย จะได้เงินอัดฉีดมากกว่า 3 ล้านบาท จากนักกีฬา 20 คน รวมกับ โค้ชที่ได้ 10 เปอร์เซ็นต์ และสมาคมฯ 30 เปอร์เซ็นต์