‘แอนโทเนีย’ คว้ารองอันดับ 1 'ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก'
เสร็จสิ้นการประกาศผลเวที Miss Universe 2023 ที่น่าจะทำให้แฟนนางงามไทยลุ้นกันตัวโก่ง แม้จะคลาดรางวัลชนะเลิศไปเพียงนิดเดียว แต่นี่คือการเข้ามารอบลึกที่สุดหลังจากที่รอคอยมานานกว่า 35 ปี หลังจาก 'ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์'
เป็นอีกหนึ่งปีที่แฟนนางงาม ตั้งตาเชียร์แบบถึงที่สุดในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส ถึงขั้นเจ้าแม่นางงามอย่าง ‘คุณปุ้ย - ปิยาภรณ์' เจ้าแม่มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์บอกว่าปีนี้เป็นปีที่ ‘เชียร์สุดใจ’ เพราะถ้าต้องมากกว่านี้ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
รู้จักแอนโทเนีย
ท่ามกลางกระแสข่าวด้านธุรกิจของเครือ JKN ที่ร้อนแรงมาตลอด 2 อาทิตย์ แอนโทเนีย โพซิ้ว สาวงามลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก คือ นักธุรกิจวัย 27 ปี ผู้นิยามว่าตนเองให้ความสำคัญกับความสามารถในการหาเลี้ยงชีพด้วยตนเอง ยังคงเจิดจรัส จุดประกายบนเวทีแห่งความฝันของเธอ
เธอมีความฝันจะเป็นผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงทั่วโลกโดยเฉพาะความกล้าที่จะก้าวไปทำตามความฝันของตัวเอง ในฐานะที่เธอก็เป็นนักธุรกิจในวัยเพียง 27 ปี นอกจากนี้แอนโทเนียยังมีความฝันที่จะยืนหยัดด้วยตัวเองให้ได้เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตในด้านการเงินและเศรษฐกิจ และใช้เวลาที่เหลือตอบแทนสังคมภายใต้โครงการที่เธอเริ่มต้นขึ้นอย่าง “Little Steps”โครงการที่จะช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับชุมชนที่ยากไร้ ที่ต้องการความช่วยเหลือ .. ซึ่งที่ผ่านมาโครงการของแอนโทรเนียได้สร้างห้องน้ำ ห้องสมุด ห้องพยาบาล และสนามฟุตบอลให้แก่เด็กๆที่จังหวัดโคราช
นอกจากนี้ แอนโทเนีย โพซิ้ว สาวงามมากความสามารถ ด้านการศึกษา เธอจบการระดับมัธยมที่โรงเรียนนานาชาติโฮจิมินห์ซิตี ประเทศเวียดนาม และระดับปริญญาตรี หลักสูตรนานาชาติ สาขาวิชาการตลาดและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด
นอกจากนี้ แอนโทเนีย โพซิ้ว ยังเคยคว้ามงกุฏในเวทีประกวดนางงามระดับโลก "Miss Supranational 2019" จัดขึ้นที่ประเทศโปแลนด์ เป็นคนแรกของประเทศไทย และเป็น Miss Supranational คนที่ 11 ของโลกด้วย
จาก 20-10-5-3 คนสุดท้าย ของ แอนโทเนีย โพซิ้ว
ท่ามกลางผู้เข้าประกวดที่มีความหลากหลายมากในปีนี้ ไม่ว่าจะมีหญิงสาวที่เป็นคุณแม่แล้ว มาร่วมประกวด 2 คนจากโคลอมเบียและกัวเตมาลา ซึ่งสาวงามจากโคลัมเบียสามารถทะลุเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายได้ สาวข้ามเพศ 2 คนจากเนเธอร์แลนด์และโปรตุเกส รวมทั้งสาวร่างใหญ่ที่จะมาบอกว่าทุกคนสามารถสวยได้ในแบบของตัวเองจากเนปาล
แอนโทเนีย ตัวแทนประเทศไทย สามารถทะลุเข้าสู่รอบ 5 คนสุดท้าย โดยออกมาพร้อมกับชุดราตรีที่ขับสีผิวของเธอ และพร้อมกับการประกาศแนะนำตัวโดยย้ำถึงความตั้งใจของแอนโทเนียที่จะขับเคลื่อนพลังของผู้หญิง ให้ผู้หญิงสามารถยืนหยัดทางเศรษฐกิจ และมีอาชีพของตัวเอง
และแอนโทเนียก็ทะลุเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย โดยประเทศอื่นประกอบด้วย ออสเตรเลีย เปอร์โตริโก นิคารากัว โคลัมเบียและประเทศไทย ซึ่งได้ตอบคำถามที่ว่า ‘ถ้าได้คุยกับเด็กที่ถูกบุลลี่ จะบอกว่าอย่างไร’ และคำตอบของเธอก็ทำให้เธอทะลุเข้ารอบ 3 คน สุดท้ายร่วมกับ ออสเตรเลีย และนิการากัว ได้เป็นผลสำเร็จ ด้วยคำตอบที่ว่า
‘อย่าไปฟังเสียงคนที่บุลลี่เรา สิ่งที่สำคัญกว่าคือ การฟังเสียงตัวเอง และลุกขึ้นมาจากนาทีที่ยากลำบากนั้น’
สำหรับคำถามสำคัญที่จะเป็นตัวตัดสินคือคำถามที่ว่า 'ถ้าสามารถเป็นผู้หญิงคนอื่น 1 คนได้ 1 ปี อยากจะเป็นใคร' โดยแอนโทเนียเลือกที่จะเป็น 'มาลาลา หญิงสาวชาวปากีสถาน ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อการศึกษาให้กับผู้หญิง และเป็นเสียงสำคัญที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง'
ก่อนจะตัดสิน แอนโทเนียเดินออกมาอย่างสง่าพร้อมเพลง All of me จาก John legend (ซึ่งมีภรรยาเป็นเชื้อสายไทย) บรรเลงขึ้นมา และคำตอบที่เธอเพิ่งตอบไปก็ส่งให้เธอเข้าไปยืนเป็น 2 คนสุดท้ายกับสาวงามจากนิการากัว
และแล้ววินาทีประกาศผลก็เริ่มขึ้น หลังจากที่ประเทศออสเตรเลียคว้ารางวัลรองอันดับสองไป ก็เหลือระหว่างสาวงามจากนิการากัวว่าจะสามารถคว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สมงแรกมาให้ประเทศได้หรือไม่ หรือจะเป็นแอนโทเนียที่จะสามารถคว้ามงสามมาให้กับประเทศไทย .. และตำแหน่ง Miss Universe 2023 ก็สวมมงให้แก่ สาวงามจากประเทศนิการากัว และแม้แอนโทเนียจะชวดตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไปเพียงนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย แต่นี่ก็เป็นอีกขั้นของการเดินทาง Miss Universe ประเทศไทยที่มาได้ไกลในรอบ 35 ปี.
