posttoday

"หัวใจสำคัญคือเกมรับ" : โค้ชทีมฟุตบอลตาบอดเผยหลังได้ที่ 3 เอเชียนพาราเกมส์

28 ตุลาคม 2566

ประจักษ์ ฤทธิ์นุช เฮดโค้ชทีมฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทยเผยให้ลูกทีมเน้นเกมรับ จนญี่ปุ่นเจาะไม่เข้านำไปสู่ความสำเร็จจนคว้าเหรียญทองแดงประวัติศาสตร์ เอเชียนพาราเกมส์

วันที่ 28 ต.ค.66 ควันหลงหลังจบเกมฟุตบอลคนตาบอลรอบชิงเหรียญทองแดง ที่ทัพคนตาบอดทีมชาติไทยคว้าชัยเหนือทีมชาติญี่ปุ่นได้ 1-0 ในการดวลลูกโทษ 
 

\"หัวใจสำคัญคือเกมรับ\" : โค้ชทีมฟุตบอลตาบอดเผยหลังได้ที่ 3 เอเชียนพาราเกมส์

ด้าน ประจักษ์ ฤทธิ์นุช นายใหญ่ทัพคนตาบอดยอมรับให้ลูกทีมเน้นเกมรับและเด็กๆก็ทำตามแผนจนประสบความสำเร็จในเกมนี้ 

"วันนี้วางแผนมาเล่นเกมรับ 100 เปอร์เซนต์ และนักเตะเล่นตามแผนที่วางไว้เป็นอย่างดี จนทำให้นักกีฬาญี่ปุ่นไม่มีโอกาสได้ยิงประตูเลย" เฮดโค้ชทีมชาติไทยกล่าว

\"หัวใจสำคัญคือเกมรับ\" : โค้ชทีมฟุตบอลตาบอดเผยหลังได้ที่ 3 เอเชียนพาราเกมส์

"ในช่วงยิงจุดโทษก็ได้กำชับนักเตะให้ยิงสูงเข้าไว้ เนื่องจากผู้รักษาประตูของญี่ปุ่นเป็นคนที่ใช้เท้าเป็นหลัก ซึ่ง 2 คนแรกเรายิงได้ดีแต่ไม่ห่างตัวมากเท่าไรจนโดนเซฟได้ ส่วนญี่ปุ่นที่ยิงก่อนพลาดหมดทั้ง 3 คน จนมาถึงคนสุดท้ายได้บอก ประครอง บัวใหญ่ ว่าให้เน้นยิงสูงๆ และเขาก็ยิงเสียบใต้คานเข้าประตูสำเร็จ ซึ่งเหรียญทองแดงเหรียญนี้เป็นเหรียญประวัติศาสตร์ของนักกีฬาคนตาบอดทีมชาติไทยหลังจากลงแข่งมา 2 ครั้งก่อนหน้านี้แต่ไม่เคยได้รับเหรียญติดมือเลย แต่ครั้งนี้ทำได้สำเร็จ ขอขอบคุณแฟนบอลชาวไทยทุกคนที่ร่วมชมร่วมเชียร์นักกีฬาฟุตบอลคนตาบอดทุกช่องทาง"

\"หัวใจสำคัญคือเกมรับ\" : โค้ชทีมฟุตบอลตาบอดเผยหลังได้ที่ 3 เอเชียนพาราเกมส์
 

ขณะที่ "เต๋า" ปัญญาวุฒิ คุพันธ์ กัปตันทีม กล่าวว่า

"ในวันนี้คนรวมแรงร่วมใจอย่างเต็มที่เพื่อคว้าเหรียญรางวัลมาครองให้ได้และก็ทำได้สำเร็จ ต้องขอบคุณโค้ช, สมาคม และเพื่อนร่วมทีมทุกคนที่ช่วยกันอย่างเต็มที่ ซึ่งเหรียญทองแดงนี้เป็นเหรียญประวัติศาสตร์ในเวทีเอเชียนพาราเกมส์อีกด้วย นอกจากนั้นขอขอบคุณแฟนบอลชาวไทยที่ส่งแรงใจเชียร์มาตลอดไม่ว่าแพ้หรือชนะ และอยากจะมอบเหรียญรางวัลที่ทำได้ครั้งนี้ให้กับแฟนบอลทุกคน"

\"หัวใจสำคัญคือเกมรับ\" : โค้ชทีมฟุตบอลตาบอดเผยหลังได้ที่ 3 เอเชียนพาราเกมส์