สรุปแรงสั่นสะเทือน “แลนด์บริดจ์ VS อันดามันมรดกโลก”
ฟัง “ดร.ธรณ์” วิเคราะห์ + สรุปที่มาที่ไปโครงการ “แลนด์บริดจ์” กับ “อันดามันมรดกโลก” เมกะโปรเจกต์ของรัฐบาลไทยที่ถูกปัดฝุ่นมาหลายครั้งกับเป้าหมายเชื่อมต่ออ่าวไทย-อันดามัน ว่าจะส่งผลกระทบกับข้อเสนอของ “อันดามันมรดกโลก” อย่างไร
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจ Thon Thamrongnawasawat โดยได้เล่าถึงโครงการเชื่อมต่อยักษ์ใหญ่ เชื่อมอ่าวไทย-อันดามันในหัวข้อ “แลนด์บริจด์ VS อันดามันมรดกโลก” หลังมีข่าว หวั่นสร้าง“แลนด์บริดจ์” สะเทือน “ทะเลอันดามัน” ขึ้นบัญชีมรดกโลก โดยได้ทำการสรุปโครงการทั้งสองสั้นๆ ให้แฟนเพจได้เข้าใจดังนี้
เริ่มจากการสรุปแต่ละโครงการแบบสั้นๆ
แลนด์บริจด์ - โครงการที่ถูกปัดฝุ่นขึ้นมาหลายครั้ง เป้าประสงค์คือเชื่อมต่ออ่าวไทย-อันดามัน โดยมีการย้ายสถานที่ไปเรื่อยๆ
เท่าที่จำได้และเคยไปดู คือ กระบี่ พังงา สตูล ก่อนสุดท้ายมาที่ชุมพร-ระนอง
ปัญหาของแลนด์บริจด์ในฝั่งอ่าวไทยไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่จะไปติดที่ฝั่งอันดามัน เพราะชายฝั่งแถบนั้นมีทรัพยากรมากมาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญสุดๆ ของไทย
การเข้ามาของการพัฒนาขนาดใหญ่ย่อมทำให้หลายฝ่ายกังวลถึงผลกระทบ
แลนด์บริจด์กลับมาอีกครั้งโดยตั้งเป้าไว้ที่ระนอง
ครม.สมัยก่อนให้สภาพัฒน์รับหน้าที่ศึกษา สภาพัฒน์จ้างจุฬาฯ ศึกษาเสร็จแล้วพบว่าไม่ใช่ทางเลือกอันดับแรก
เคยเล่าเรื่องนี้แล้ว หลายครั้งแล้ว ลองย้อนไปอ่านโพสต์เก่าๆ ของผมนะครับ
อย่างไรก็ตาม ครม.ชุดนี้รับทราบแลนด์บริจด์ วงเงิน 1 ล้านล้าน เป็นแบบ PPP โดยการให้สิทธิแก่เอกชนลงทุนในการก่อสร้างและการบริหารจัดการ เป็นระยะเวลา 50 ปี
ตั้งเป้าว่าจะเปิดบริการในปี 2573
อันดามันมรดกโลก - ย้อนหลังไป 20+ ปีก่อน เริ่มมีแนวคิดผลักดันเขตอนุรักษ์ฝั่งทะเลอันดามันให้เป็นมรดกโลก
ผ่านการสำรวจศึกษา ประชุมนับร้อยครั้ง ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพื้นที่ไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายมาลงเอยที่อันดามันเหนือ มีอุทยาน 6 แห่งและพื้นที่สงวนชีวมณฑลระนอง
ผ่านครม. (ชุดก่อน) เพื่อนำเสนอ tentative list จนสุดท้ายคณะกรรมการมรดกโลก (สากล) รับรองข้อเสนออย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
จากนั้นเราจะทำข้อเสนอทั้งหมดให้พิจารณา องค์กรสากลส่งคนมาตรวจเช็คพื้นที่ ฯลฯ โดยตั้งเป้าว่าอีก 2-3 ปีจะพิจารณาว่าได้ไม่ได้
แลนด์บริจด์ VS อันดามันมรดกโลก
จุดตัดคือชายฝั่งระนอง ท่าเรืออ่าวอ่างที่ตั้งเป้าไว้
แม้ไม่ได้อยู่ในเขตอนุรักษ์ แต่ท่าเรือแทรกเข้ามาระหว่างรอยต่ออุทยาน เส้นทางมาสู่ท่าเรือยังอาจต้อง “เฉียด” หรือทับซ้อนกับป่าชายเลนผืนใหญ่สุดของไทยที่นำเสนอเป็นมรดกโลก
อีกจุดที่ต้องพิจารณาคือเส้นทางเดินเรือ เนื่องจากเรือคงไม่เข้าไปวิ่งในเขตทะเลเมียนมาร์ ทางหลักคือเข้ามาเลียบฝั่งอันดามันเหนือ ตรงนั้นมีทั้งเกาะสิมิลัน เกาะสุรินทร์ ฯลฯ
หากเกิดอุบัติเหตุใดๆ อาจหมายถึงปัญหาใหญ่ในพื้นที่อนุรักษ์และแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลสำคัญสุดบ้านเรา
มุมมอง/การวิเคราะห์
ถือเป็นโจทย์หลักของไทยหากเราอยากได้ทั้ง 2 อย่าง และบอกได้ว่าเป็นโจทย์โหดหินสุดๆ
PPP หมายถึงให้เอกชน+รัฐ ให้สิทธิ 50 ปี เอกชนในที่นี้คือใครที่จะมีเงินระดับนั้น หากเป็นต่างชาติ ข้อต่อรองย่อมมีเยอะ
PPP ของเมกะโปรเจ็คที่ผ่านมา ไฮสปีดเทรน สนามบินอู่ตะเภา ขนาดเป็นไทยด้วยกัน ไม่ผ่านเขตอนุรักษ์เลย แต่ความคืบหน้าเป็นอย่างไร ?
สำหรับแลนด์บริจด์ ปัญหาหลักอยู่ที่ “ที่ดิน” โดยเฉพาะพื้นที่อนุรักษ์ที่มีกระทรวงทรัพยากรฯ เป็นผู้ดูแล และมีคนไทยรักธรรมชาติทั่วประเทศคอยจับตา
ตัวอย่างง่ายๆ เช่น ท่าเรือปากบารา ปัญหาเพิกถอนพื้นที่อุทยาน ทำให้ท้ายสุดต้องพับโครงการลง
อีกตัวอย่างคือโรงไฟฟ้ากระบี่ ต้องขนส่งวัตถุดิบผ่านป่าชายเลน พับโครงการลงอีกเช่นกัน
โครงการยักษ์ใหญ่ขนาดนี้จึงไม่ง่ายเหมือนข้อเสนอ โดยเฉพาะยุคที่ความเขียวครองโลก
กติกาของภาคเอกชนคงคล้ายกัน ส่งมอบที่ดิน 100% ซึ่งนั่นคือโจทย์สำคัญว่าจะทำได้ไหม
หรือแม้แต่ทำได้ คนสร้างอาจมีเงินทุน แต่เรือที่มาใช้มีมหาศาล หากเขารู้สึกว่าท่าเรือไม่เอื้อกับความเขียวอย่างที่โลกต้องการ
มุมมองของโลกเปลี่ยนไป ไม่งั้นสะพาน vs โลมาทะเลสาบสงขลา คงได้สร้างไปแล้วครับ
ในขณะเดียวกัน ผลกระทบจากแลนด์บริจด์ ย่อมเกิดกับข้อเสนอของอันดามันมรดกโลก
เมื่อเขารับข้อเสนอเป็นทางการ ส่งคนมาตรวจ ย่อมถามแน่ๆ ว่าแล้วยูจะดูแลเมกะโปรเจ็คของยูที่จู่ๆ ก็โผล่มาใจกลางพื้นที่ได้อย่างไร
คำมั่นสัญญาที่ไม่มีอะไรรองรับ เช่น เราจะดูแลให้ดีที่สุด เราเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่มีประโยชน์หรอกครับ
เพราะคำเหล่านี้เราใช้ไปแล้วในพื้นที่ EEC แล้วผลเป็นอย่างไรคงพอเห็นได้
หากเราอยากได้ 2 อย่าง เราก็ต้องทุ่มเทอย่างจริงจัง ประสาน 2 หน่วยงานมาด้วยกัน ทั้งคมนาคมและกระทรวงทรัพยากรฯ
เพราะตอนนี้ 2 กระทรวงถือภารกิจ 2 อย่าง ดูดาวคนละดวง แต่เป็นพื้นที่เดียวกัน
จะลองมาถอดบทเรียนจากสะพานทะเลสาบสงขลาก็ได้นะ ขนาดโครงการเล็กกว่าแลนด์บริจด์ 250 เท่า (ดูที่งบ) ผ่านEIA เรียบร้อยแล้ว ทุกฝ่ายมาช่วยกันเต็มที่ ยังไม่จบง่ายๆ เลยครับ
สรุป
สิ่งที่ผมเป็นห่วงคือแลนด์บริจด์ก็ไม่เกิด เขตมรดกโลกก็ไม่ได้ แล้วยังไงดีล่ะ ?
ประเทศไทยกำลังเดินบนเส้นทางที่สุ่มเสี่ยงเป็นอย่างยิ่งในการคว้าดาว 2 ดวงมาพร้อมกัน
ถ้ายังอยากไปเช่นนั้น เราต้องทุ่มเทให้หนัก ทำงานให้มากขึ้นมากๆ แค่คำสั่งการหรือตั้งคณะกรรมการคงไม่พอ
เริ่มจากถอดบทเรียนแลนด์บริจด์ในอดีต การพัฒนาแบบ PPP ที่ติดขัด โครงการปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศและสัตว์ทะเลหายาก การพัฒนาที่ส่งผลกระทบใน EEC ฯลฯ
ประเมินมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์ของมรดกโลกที่จะมีต่อการท่องเที่ยวและความเป็นอยู่พี่น้องคนแถวนั้นอย่างเต็มรูปแบบ (แลนด์บริจด์ทำมาแล้ว)
ประเมินความเสี่ยง โน่นนี่นั่นอีกมากมาย จนไม่รู้จะเขียนยังไงให้หมด
หากดูแล้วปัญหามันเยอะจัด ก็ลองร้องเพลง “ได้อย่างเสียอย่าง”
ด้วยศักยภาพในด้านการอนุรักษ์และการพัฒนาอย่างยั่งยืนของไทยในตอนนี้ การหมายมั่นเป็นกระต่ายชมจันทร์ทีละ2 ดวง
กระต่ายต้องกระโดดสุดแรง ไม่ใช่แค่สั่งการให้ลูกน้องกระต่ายที่นั่งทำตาปริบๆ อยู่ข้างหลังครับ
ภาพ - ฐานเศรษฐกิจ และ Green Xpress 🙏🏼
ขอบคุณท่านรัฐมนตรีวราวุธ ที่ผลักดันอันดามันมรดกโลกมาจนถึงจุดนี้ และยังคงแสดงความเป็นห่วงในที่ประชุมครม.ครับ
รายละเอียดเพิ่มเติมครับ
https://www.thansettakij.com/business/economy/579146


