'Chiva Rak Wellness' เมื่อการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืนไม่จำกัดแค่ในโรงพยาบาล

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566   B-Healthy Asia Co., Ltd. ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับจองแพ็กเกจสุขภาพ (wellness packages) อันดับ 1 ของประเทศไทย จับมือกับ Mida Hospitality Group ( MHG ) เครือโรงแรมห้าดาวชื่อดัง เปิดตัว Chiva Rak Wellness (ชีวารักษ์ เวลเนส) เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ นำร่องที่ Ace of Hua Hin Resort ชะอำ

การเปิดตัวดังกล่าวเป็นที่น่าจับตามองและได้รับความสนใจจากภาครัฐและภาคเอกชนทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ  เพราะ ชีวารักษ์ เวลเนส (Chiva Rak Wellness) ไม่ใช่เพียงสถานที่ให้บริการสุขภาพทั่วไป แต่เป็น ศูนย์รวมการส่งเสริมสุขภาพ โดยใช้ศาสตร์การแพทย์แผนไทย บูรณาการกับศาสตร์การแพทย์แผนจีน อายุรเวท โยคะสมาธิ คลื่นเสียงบำบัด การนวดสปา การออกกำลังกาย และการใช้สมุนไพรหลากหลายสรรพคุณ เพื่อปรับสมดุลร่างกายและจิตใจของผู้รับบริการ ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาได้ตั้งแต่ แก้ปัญหาการนอนไม่หลับ ลดความเครียดจากการทำงาน บรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม ฯลฯ

เทรนด์การท่องเที่ยวสุขภาพมาแรง หนุนท้องถิ่นเติบโต

เทรนด์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) กำลังมาแรงหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด19 ซึ่งติดท็อปวัตถุประสงค์การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวที่มาในประเทศไทย โดยคิดเป็นสัดส่วนที่ 48.23% และเมื่อดูรายจ่ายของนักท่องเที่ยวที่มายังประเทศไทยพบว่าจะจ่ายไปกับเรื่องสุขภาพสูงถึง 47% ทั้งนี้ประเทศไทยยังมีแผนที่จะยกระดับตนเองสู่การเป็น Wellness Hub of the World โดยเมื่อไม่นานมานี้บอร์ด Medical Hub อนุมัติประกาศให้ไทยเป็น Thailand Wellness Economic Corridor (TWC) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งมีมติอนุมัติหลักการใน 3 ประเด็นสำคัญ คือ

(1) แผนยุทธศาสตร์แนวทางการพัฒนาเขตระเบียงเศรษฐกิจเวลเนสอันดามัน (Andaman Wellness Corridor : AWC)  สร้างรายได้กลับสู่ประเทศ อีกทั้งอ.หัวหิน-ชะอำ ก็เป็นอันดับ 4 ของประเทศ สำหรับการเป็นหมุดหมายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 

(2) การส่งเสริมการลงทุนขนาดใหญ่ ได้แก่ โครงการ จ.อุดรธานี เมืองทางการแพทย์ (Udonthani Green Medical Town: UGDMT) สู่ระเบียงเศรษฐกิจสุขภาพอีสานตอนบนสู่อินโดจีน  

(3) การพัฒนาระบบอนุญาตหลัก (Super License) รองรับการประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในพื้นที่นำร่อง ซึ่งจะมีการเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป

จะเห็นได้ว่าการเติบโตของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพดังกล่าวนั้น นอกจากจะเป็นการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวแล้ว แต่ยังรวมไปถึงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ พลังงานสะอาด รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องอีกมากมายทั้งในระดับภูมิภาคและระดับท้องถิ่น

ทั้งนี้ ทางด้านบริษัท บี-เฮลธี เอเชีย จำกัด ได้ร่วมกันกับผู้ที่เกี่ยวข้องทำงานขับเคลื่อนประเด็นดังกล่าวมาโดยตลอด และเมื่อพื้นที่ หัวหิน-ชะอำ เป็นพื้นที่ติด Top 4 ของพื้นที่ซึ่งเป็นหมุดหมายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จึงได้เกิดความร่วมมือครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้น

Chiva Rak Wellnes ชีวารักษ์ เวลเนส พื้นที่แห่งการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม

นายภูวนารถ ยกฉวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี-เฮลธี เอเชีย จำกัด กล่าวว่า เพราะเห็นถึงอัตราการเติบโตของการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพในประเทศไทยมีการเติบโตกว่า 1 ล้านล้านบาท จึงเป็นโอกาสที่จะเข้ามารุกในตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ บริษัท บี-เฮลธี เอเชีย จำกัด ได้ให้บริการด้านดิจิทัล เวลเนส แพลตฟอร์ม www.b-healthy.me เพื่อการค้นหา รีวิว และจองแพ็กเกจสุขภาพ และสามารถปลุกปั้นจนกลายเป็นแพลตฟอร์มการดูแลสุขภาพอันดับ 1 ของประเทศไทย

" ชีวารักษ์ เวลเนส ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นการประยุกต์ใช้ศาสตร์การแพทย์แผนไทย ที่มีความล้ำลึก ส่งต่อผ่านรุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนานในการออกแบบบริการ แต่ยังบูรณาการกับการแพทย์แผนจีน อายุรเวท และศาสตร์สุขภาพอื่นๆ เข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้รับบริการได้ผลลัพธ์ด้านสุขภาพกายและใจแบบองค์รวม และแก้ปัญหาสุขภาพของคนในยุคปัจจุบันได้อย่างตรงจุด ดังนั้น แพ็กเกจของชีวารักษ์จึงครอบคลุม ทั้งการลดความเครียดจากการทำงานหนัก แก้ปัญหาการนอนไม่หลับและส่งเสริมการนอนที่มีคุณภาพ ลดการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและข้อต่อ รวมถึงแก้และบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรมได้อย่างเห็นผล นอกจากนี้ ยังมีแพ็กเกจการดูแลผิวหน้าผิวกายแบบออร์แกนิค ในกลุ่มแพ็กเกจเมดิคอลสปา ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในหมู่นักท่องเชิงสุขภาพ ทั้งชาวไทยและต่างชาติ"

ชีวารักษ์ เวลเนส ยังได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพด้านการดูแลสุขภาพ  โดยนายเคล้าส์ นีลเซ็น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและนวัตกรรม บริษัท บี-เฮลธี เอเชีย จำกัด กล่าวว่า " มีการนำเทคโนโลยีดิจิตัลเฮลธ์ (digital health tech) มาใช้ในการสอบถาม ติดตามพัฒนาการทางสุขภาพของผู้รับบริการ ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือที่สามารถเก็บข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล ทำให้ผู้ใช้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง ซึ่งจะนำไปสู่การดูแลสุขภาพแบบยั่งยืน"

รูปแบบความร่วมมือระหว่าง โรงแรม + ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ

การร่วมมือกันระหว่างธุรกิจด้านสุขภาพเข้ามาบรรจบกับธุรกิจโรงแรมซึ่งเกิดขึ้นครั้งนี้ นับเป็นก้าวย่างสำคัญ โดย นางสาววรพรรณ พุกกะนะสุต ผู้บริหารด้านการขายและการตลาด โรงแรมในเครือ Mida Hospitality Group ( MHG ) ระบุว่า "ธุรกิจโรงแรมอยู่ในช่วงของการปรับตัวเพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ MIDA Group ต้องการเป็นผู้นำในการให้บริการนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มองหาแค่การเดินทางเพื่อพักผ่อนแบบเดิม แต่ยังต้องการทำกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพรูปแบบต่างๆ เพื่อเติมเต็มทริปของตนเองและครอบครัว ที่สำคัญ นักท่องเที่ยวที่เข้าพักระยะยาวคือกลุ่มคนที่จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากบริการของชีวารักษ์ เนื่องจากสามารถเข้าใช้บริการแบบต่อเนื่อง ทำให้การรักษาบำบัดเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เครือ MIDA เชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ เห็นถึงโอกาสในการสร้างความแตกต่างที่เหนือกว่าให้กับเครือโรงแรม จากแนวทางการออกแบบบริการที่โดดเด่นของชีวารักษ์ จึงเข้าเป็นพันธมิตร ร่วมปั้นแบรนด์ดันสู่ตลาด ร่วมกับ บี-เฮลธี"

โดยความร่วมมือกับ Mida Hospitality Group ดังกล่าวได้นำร่อง ชีวารักษ์ เวลเนส ในพื้นที่ของโรงแรม Ace of Hua Hin Resort จังหวัดเพชรบุรี และตั้งเป้าขยายสาขาไปยังโรงแรมในเครือในพื้นที่ภูเก็ต ระยอง นครปฐม กาญจนบุรี และกรุงเทพมหานคร พร้อมเปิดกว้าง ขยายความร่วมมือไปยังโรงแรมพันธมิตรอื่นๆ เพื่อขยายแฟรนไชส์ ทั้งในและต่างประเทศ โดยตั้งเป้าเปิด 10 สาขา ภายในปี 2567  เพื่อให้การดูแลสุขภาพของคนไทยไม่ได้จำกัดแค่ในโรงพยาบาลอีกต่อไป.

ผู้สนใจเข้ารับบริการสุขภาพ สามารถจองซื้อโปรโมชั่นแพ็กเกจสุขภาพ Exclusive Deals ได้ที่ https://b-healthy.me/collections/chiva-rak-wellness-exclusive-deals

นอกจากนี้ยังเยี่ยมชมเลือกซื้อแพ็กเกจสุขภาพจากผู้ให้บริการรายอื่นของ บี-เฮลธี ได้ที่ www.b-healthy.me