จับตาปรากฏการณ์ลิซ่าฟีเวอร์ “น้องสาวแห่งชาติ”

พูดได้เต็มปากว่าแตะอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง สำหรับ ‘ลลิษา มโนบาล’ หรือ 'ลิซ่า BLACKPINK' ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็มักเป็นกระแสอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแฟชั่น สถานที่ท่องเที่ยว หรือกระทั่งอาหารการกิน ที่หากลิซ่าได้เอ่ยถึง หรือเพียงโพสต์รูปผ่านโซเชียลมีเดียก็สามารถเป็นกระแสได้เพียงชั่วข้ามคืน ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่ในกลุ่มแฟนคลับชาวไทยเท่านั้น แต่เป็นที่จับตาจากทั่วโลก

ปลุกกระแสผ้าไทย ดันท่องเที่ยวอยุธยา

หลังเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีระดับโลกอย่าง “BLACKPINK’ ได้มาทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศไทยช่วงวันที่ 27-28 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา หนึ่งในสมาชิกสาวไทย 'ลิซ่า' ลลิษา มโนบาล ได้ถือโอกาสนี้เดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนพร้อมครอบครัว โดยล่าสุด ลิซ่าได้โพสต์รูปผ่าน Instagram ส่วนตัว ซึ่งเธอได้สวม “ผ้าฝ้ายหมักโคลนย้อมคราม ลายขอนาค”  ผ้าถุงของไทยอันเป็นงานหัตถกรรมขึ้นชื่อจากจังหวัดอุดรธานี พร้อมแคปชั่น "Ayutthaya" 

หลังจากภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ผู้คนจำนวนมากต่างออกตามหาผ้าถุงหมักโคลนย้อมครามมาใส่ตาม จนทำให้เจ้าของร้านชานเรือน ผู้ส่งผ้าถุงไปให้ลิซ่าได้สวมใส่เผยว่า ตนรู้สึกดีใจมากที่น้องลิซ่าเลือกใส่ผ้าถุงที่ส่งไปให้ ตอนนี้ยอดสั่งซื้อถล่มทลาย ตนมีความหนักใจเนื่องจากไม่สามารถผลิตได้ทัน หากลูกค้าอยากได้ต้องรอคิวประมาณ 1 เดือนหรือทำการพรีออเดอร์เข้ามาทางเพจร้าน ส่วนเรื่องราคาจะยังคงไว้ที่ 2,800 บาทตามเดิม

เช่นเดียวกับร้านขาวละออ ร้านอาหารที่ได้รับการแนะนำในคู่มือมิชลินไกด์ ประเทศไทย ที่ลิซ่าได้เดินทางไปใช้บริการพร้อมครอบครัว ทางเจ้าของร้านออกมาเผยว่า ลิซ่าและครอบครัวได้สั่งเมนูเป็นอาหารไทย เช่นยำช่อมาลี น้ำพริก ปลาทูยักษ์ ส้มตำกุ้งสด ฯลฯ และในขณะนี้ยอดขายของร้านก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

ทางร้านขาวละออ ยังได้เข้าไปคอมเมนต์ขอบคุณใน Instagram ของลิซ่าโดยมีเนื้อหาดังนี้

“ร้านขาวละออขอขอบคุณน้องลิซ่า คุณแม่ คุณยายและครอบครัว ที่ให้โอกาสร้านได้ต้อนรับดูแลที่อยุธยา พวกเราไม่มีวันลืมความน่ารักเป็นกันเองที่มอบให้กับร้านและพนักงานทุกคน เป็นอีกวันที่สุดประทับใจจริงๆ นอกจากจะเป็นกำลังใจให้พวกเราแล้ว ที่สุดคือช่วยผลักดันการท่องเที่ยวของจังหวัดให้กลับมาคึกคัก แล้วมาเที่ยวอยุธยาอีกบ่อยๆนะคะ ชาวอยุธยาทุกคนยินดีต้อนรับค่ะ

Our great honor and pleasure to have you and family here at Kaowlaor Ayutthaya.”

ยาดมหงส์ไทย หมดสต๊อก ภาพจากลิซ่าดันยอดขายพุ่ง

หลังจาก 'ลิซ่า' ลลิษา มโนบาล หรือ 'ลิซ่า BLACKPINK' ได้เดินทางกลับมาฉลองวันเกิดครบรอบ 26 ปีและโพสต์รูปผ่าน Instagram ส่วนตัว แฟนคลับตาดีก็สังเกตเห็นสิ่งของที่ลิซ่าถือไว้ในมือได้ ซึ่งก็คือยาดม 'หงส์ไทย' แบบหลอด ทำให้กระแสยาดมหงส์ไทยขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จนเฟซบุ๊ก “บริษัทสมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด -เพจสำนักงานใหญ่” ต้องออกมาโพสต์ถึงกระแสตอบรับว่า 

“ขออภัยลูกค้าทุกท่าน เนื่องจากกระแสตอบรับของ 'ยาดมผสมสมุนไพร ตราหงส์ไทย สูตร 2' (หลอดสองด้าน) มีกระแสตอบรับที่ดีมากๆ จึงทำให้สินค้าตอนนี้หมดสต๊อก!!!  ขออภัยลูกค้าทุกท่านในความไม่สะดวก ณ ที่นี้ด้วย ทางบริษัท สมุนไพรไทย ตราหงส์ไทย จะรีบผลิตสินค้าเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าทุกท่าน ขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่สนับสนุนสินค้าหงส์ไทยเสมอมา และขอบคุณ คุณลิซ่า ที่ทำให้กระแสตอบรับของยอดขายยาดมหงส์ไทยพุ่งขึ้นภายในเพียงระยะเวลา 1 คืน ขอบคุณครับ”

MV “LALISA” ปลุกกระแสชุดไทยฟีเวอร์

ลลิษา มโนบาล หรือ 'ลิซ่า BLACKPINK' ได้ปล่อยมิวสิกวิดิโอตัวแรกกับซิงเกิ้ล “LALISA” ที่แสดงความเป็นตัวตนของเธอได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ชุดไทยและรัดเกล้าที่ลิซ่าเลือกนำมาสวมใส่ใน MV ยังทำให้แฟนคลับชาวไทยหันมาแต่งตัวตามเธอกันยกใหญ่

ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าและร้านเครื่องประดับราคาส่งทั้งสัมเพ็งและพาหุรัด ต่างกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากซบเซาเพราะพิษโควิด-19 มาหลายปี 

นอกจากนี้ภายใน MV ยังมีการสร้างปราสาทหินพนมรุ้งของจังหวัดบุรีรัมย์แบบจำลอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวไทย

ยอดขาย “ลูกชิ้นยืนกิน” ถล่มทลาย

ลิซ่าเคยให้สัมภาษณ์ในรายการ Woody Show ไว้ว่า เป็นช่วงเวลาเกือบ 2 ปีแล้วที่เธอไม่ได้เดินทางกลับประเทศไทย สิ่งแรกที่อยากทำที่สุดเมื่อกลับมาถึงคือไปไหว้คุณตา และกินลูกชิ้นยืนกินที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ ซึ่งมีจุดเด่นที่น้ำจิ้มรสเด็ด ทำจากน้ำมะขามเปียก และหอมกลิ่นพริกทอด

ซึ่งหลังจากรายการออนแอร์ ยอดขายลูกชิ้นยืนกินเพิ่มขึ้นแบบถล่มทลาย สร้างรอยยิ้มให้กับพ่อค้าแม่ขายได้เป็นอย่างดี หลังจากที่ยอดขายช่วงการระบาดของโควิด-19 ซบเซาเป็นอย่างมาก

คงเรียกได้ว่า ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ถือเป็นบุคคลทรงอิทธิพลและมีความเป็น Influencer โดยธรรมชาติ เป็นตัวแม่แห่งการผลักดัน Soft Power ไทยสู่สายตานานาชาติ เธอสามารถโปรโมทการท่องเที่ยวไทย กระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล กระจายรายได้คืนสู่ท้องถิ่นไทยและคืนลมหายใจให้กับผู้ค้ารายย่อย โดยที่ภาครัฐไม่ต้องลงแรง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมแบรนด์ดังระดับโลกจึงอยากร่วมงานกับสาวน้อยมากความสามารถรายนี้ หลังจากนี้คงต้องติดตามกันต่อไปว่าสินค้าชนิดไหนจะกลายเป็นกระแสฟีเวอร์ต่อ?