ส่อง Met Gala 2023 ศิลปะและแฟชั่นแด่ Karl Lagerfeld

ผ่านมาแล้วกับงาน Met Gala 2023 ซึ่งจัดขึ้นในค่ำคืนวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ นครนิวยอร์ก  งานยังคงความ ‘ไอคอนิก’ และแสดงถึงส่วนผสมของศิลปะและแฟชั่นบนอาภรณ์ของผู้สวมใส่ได้อย่างลงตัว และแน่นอว่าไม่ผิดไปจากปีที่ผ่านๆ มา … ค่ำคืนของ Met Gala ที่จุดกระแสแฟชั่นสุดร้อนแรงไปทั่วโลก!!

 

อะไรคือ Met Gala?

ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ Met Gala คืองานเลี้ยงและปาร์ตี้ที่จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ระดมทุนให้กับพิพิธภัณฑ์ชื่อดังอย่าง The Metropolitan Museum of Art หรือ The Met ของกรุงนิวยอร์ก ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา และมีผู้เข้าชมมากที่สุดเป็นอันดับ 8 ของโลก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นสถานที่รวบรวมคอลเลคชั่นของเสื้อผ้า เครื่องประดับ ที่ถูกออกแบบโดยนักออกแบบในยุคต่างๆ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 โดยงานกาล่าจะจัดขึ้นทุกวันจันทร์แรกของเดือนพฤษภาคม

ภายในงานจะมีผู้ที่ถูกรับเชิญจากวงการต่างๆ หลากหลายสาขาอาชีพไม่ว่าจะเป็น แฟชั่น ภาพยนตร์ การเมือง ดนตรี กีฬา ฯลฯ  โดยมีนิตยสารโว้ก VOGUE นำโดยแอนนา วินทัวร์ ( Anna Wintour) เป็นแม่งานมาตั้งแต่ปีค.ศ.1995 อย่างไรก็ตามงาน Met Gala เริ่มต้นขึ้นย้อนไปไกลกว่านั้นในปีค.ศ. 1948 เพื่อระดมทุนสำหรับการเปิดนิทรรศการประจำปี โดยเริ่มจากงานกาล่าดินเนอร์ที่มีราคาตั๋วแค่เพียงใบละ 50 ดอลลาร์เท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับราคาตั๋วในปัจจุบันที่พุ่งสูงขึ้นกว่า 30,000 - 50,000 ดอลลาร์!!

 

ในช่วงทศวรรษแรกๆ ของงาน จะมีเพียงสมาชิกของสังคมชั้นสูงและคนในแวดวงอุตสาหกรรมแฟชั่นของนครนิวยอร์กเท่านั้นที่มาเข้าร่วมงาน ต่อมาในปีค.ศ.1972 จึงมีการพัฒนางานไปสู่ระดับโลกมากยิ่งขึ้น มีการเชิญดารา ศิลปิน และผู้ที่มีชื่อเสียงเข้าร่วมงาน จนทำให้แต่ละปีสามารถระดมทุนสนับสนุนพิพิธภัณฑ์ได้มากถึง 200 ล้านดอลลาร์ต่อปี

 

โดยแต่ละปีจะมีธีมของงานกาล่าที่เกี่ยวข้องกับนิทรรศการของ The Met ในปีนี้ธีมของงาน Met Gala อุทิศแด่ดีไซน์เนอร์ซึ่งเป็นแฟชั่นไอคอนระดับโลกอย่าง คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ (Karl Lagerfeld) โดยใช้ชื่อธีม Karl Lagerfeld : Line of beauty

 

Karl Lagerfeld ผู้ชุบชีวิต CHANEL และแรงบันดาลใจของธีมงานในปี 2023

คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ เป็นดีไซเนอร์ชาวเยอรมันผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ดัง เกิดในครอบครัวนักธุรกิจผลิตนมกระป๋อง เมื่อตอนเป็นเด็กเขาใฝ่ฝันอยากเป็นนักวาดภาพการ์ตูน  นอกจากนั้นคาร์ลยังชอบคิดค้นและประดิษฐ์เสื้อผ้าในรูปแบบต่างๆ   เมื่ออายุได้ 18 ปี คาร์ลย้ายไปที่กรุงปารีส ที่นั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างชื่อเสียงของเขา โดยเริ่มจากการออกแบบเสื้อโค้ทขนอูฐ ที่สามารถคว้ารางวัล International Wool Association ในหมวดชุดราตรีได้เป็นผลสำเร็จ

 

 

จากนั้นคาร์ลได้รับเลือกเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ในห้องเสื้อชั้นสูงหลายแห่งตั้งแต่อายุ 25 ปี และค่อยๆ ขยับมาทำงานที่เกี่ยวข้องกับเสื้อผ้าสำเร็จรูปมากยิ่งขึ้น เขาผ่านการทำงานกับหลากหลายแบรนด์ไม่ว่าจะเป็น FENDI, Chloé และสร้างแบรนด์ของตัวเองที่ชื่อ Karl Lagerfeld

 

ความเป็นอัจฉริยะด้านการสร้างสรรค์ของเขาเตะตาแบรนด์ CHANEL ซึ่งกำลังเผชิญวิกฤตที่รุนแรงที่สุดของแบรนด์ ณ ขณะนั้น คาร์ลประสบความสำเร็จตั้งแต่คอลเลคชั่นแรกที่ดีไซน์ ด้วยการอนุรักษ์ความคลาสสิกและความหรูหราของแบรนด์เอาไว้  แต่ได้เพิ่มลูกเล่นที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้หลากหลายตั้งแต่แก่ไปจนถึงวัยรุ่น และทำให้โลโก้ ‘ดับเบิ้ล C’ ของ CHANEL โด่งดังเป็นพลุแตกจนทำให้แบรนด์ CHANEL กลับมาเป็นแบรนด์สำคัญที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในวงการแฟชั่นในปัจจุบัน

 

อย่างไรก็ตาม อัจฉริยะด้านวงการแฟชั่นผู้นี้ได้แสดงทัศนคติต่อประเด็นทางสังคมและการเมืองบางอย่างจนได้รับการวิจารณ์ในแง่ลบบ่อยครั้ง เช่น การออกมาวิจารณ์การเคลื่อนไหว #MeToo   หรือการที่เขาวิจารณ์การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีเยอรมันที่ให้เสนอที่หลบภัยให้แก่ผู้ลี้ภัย

 

คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ในปี 2019 ด้วยวัย 85 ปี ณ กรุงปารีส หลังจากโลดแล่นในวงการแฟชั่นและกลายเป็นสุดยอดดีไซน์เนอร์แห่งศตวรรษที่ 20 มากว่า 70 ปี

 

ในปีนี้ทางพิพิธภัณฑ์ The Met จึงได้จัดนิทรรศการที่รวบรวมผลงานสุดไอคอนิกของคาร์ลตั้งแต่ช่วงยุค 50 จนถึงปี 2019 ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต

 

 

ส่องแฟชั่นบนเวที Met Gala 2023

ความสนุกของงาน Met Gala ที่ทุกคนจับตามองคือการแต่งตัวของเหล่าเซเลบริตี้ที่จะต้องแต่งให้เข้ากับธีมงานที่เกิดขึ้น หากพูดถึงงานในปี 2022  ที่ผ่านมา แฟชั่นที่น่าจดจำและเป็นไอคอนของงาน อาทิ ชุดของเบลค ไลฟ์ลี  (Blake Lively) จาก Versace   ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของสถาปัตยกรรมที่น่าจดจำในนิวยอร์ก    ชุดของเบลคยังมีกิมมิคเล็กๆ ที่สามารถเปลี่ยนจากชุดสีทองแดงทั้งตัว กลายเป็นสีเขียวอมฟ้ากลางพรมแดง ด้วยวิธีการออกซิไดซ์ของผ้าต่อหน้าสื่อทั่วโลก

 

แล้วปีนี้ จะมีแฟชั่นจากใครที่น่าสนใจบ้าง?

เปิดตัวด้วยหมัดเด็ดของงานที่เป็นจุดศูนย์รวมความสนใจในครั้งนี้ กับชุดที่ได้แรงบันดาลใจจาก Choupette แมวเบอร์มีสสีขาววัย 8 ปีซึ่งเป็นที่รักของคาร์ลผู้ล่วงลับ  เจ้าแมวเซเลปตัวนี้ได้รับมรดกจากคาร์ลเป็นเงินกว่า 200 ล้านดอลล่าร์สหรัฐจนกลายเป็นแมวที่มีสินทรัพย์มากที่สุดในจักรวาลนี้!!  และกลายเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งตัวของ โดจา แคต (Doja  Cat) , จาเรด เลโท (Jared Leto) และ ลิล นาส เอ็กซ์ (Lil Nas X)

 

และจะขาดคนสำคัญในงาน ที่เรียกว่าเป็นเจ้าแม่ประจำพรมแดง Met Gala ที่ทุกคนต้องรอดูลุคของเธอแทบทุกปี (เหมือนที่รอผลงานเพลงของเธอ) ไปไม่ได้ นั่นก็คือ รีฮันนา (Rihanna) ซึ่งมาพร้อมกับจิตวิญญาณของชุดเจ้าสาว CHANEL สุดฮือฮาของคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์

 

ความผูกพันที่มีต่อคาร์ล ยังสะท้อนในชุดของคนดังอย่าง นิโคล คิดแมน (Nicole Kidman) ที่เลือกใส่ชุดที่คาร์ลดีไซน์ให้เธอในคอลเลคชั่น CHANEL no.5 ในปี 2004   … ลิลี่ คอลลินส์ (Lily Collins) ที่มาพร้อมกับกระโปรงสีดำปักตัวอักษร Karl หรือชุดของ จาแนลล์ โมเน่ (Janelle Monáe) ที่สามารถถอดออกและเปลี่ยนลุคได้ถึง 4 แบบ ซึ่งแต่ละแบบสะท้อนศิลปะของคาร์ลได้ทุกชุด

 

นอกจากนี้ยังมีเหล่าเซเลบริตี้และคนดังที่ตั้งใจถ่ายทอดความเป็นคาร์ลบนพรมแดงแห่งนี้กันอย่างเป๊ะปัง ไม่ว่าจะเป็น  ดัว ลิปา(Dual Lipa)  ในชุดของ CHANEL FW92 เพเนโลเป้ ครูซ (Penélope Cruz) ในชุดของ Chanel spring ‘88 จิเซล บุนเชน  (Gisele Bündchen) ในชุดของ Chanel spring ‘07  couture หรือ นาโอมิ แคมป์เบล (Naomi Campbell) ในชุดของ Chanel spring ‘10 couture  ซึ่งแน่นอนว่าใส่ออกมาได้ สวย สง่างาม คลาสสิกและทรงพลัง ในแบบฉบับคาร์ล

 

ร่วมด้วยเหล่าคนดังอีกมากมายที่มาร่วมงานกาล่าในค่ำคืนนี้อย่าง เจนนี่ แบล็คพิงค์ (Jenny BlackPink) บิลลี่ ไอลิช (Billie Eilish) โอลิเวีย โรดริโก (Olivia Rodrigo) ฯลฯ ที่พร้อมใจกันเข้าร่วมงาน เพื่อสนับสนุนค่ำคืนแห่งศิลปะของวงการแฟชั่นสุดยิ่งใหญ่ประจำปี

 

ที่มา

https://www.vogue.co.th/fashion/article/karllaerfeldpassedaway

https://www.metmuseum.org/exhibitions/a-line-of-beauty/selected-images

https://themomentum.co/something-between-karl-lagerfeld/

https://edition.cnn.com/style/article/met-gala-2023-red-carpet-fashion/index.html