รฟท.ชวนสัมผัสกลิ่นอายประวัติศาสตร์ "กรุงเทพ–อยุธยา" ด้วยขบวนรถจักรไอน้ำ

กิจกรรมนำการท่องเที่ยวในครั้งนี้ การรถไฟฯ ได้จัดเดินรถขบวนพิเศษนำเที่ยวเส้นทางประวัติศาสตร์กรุงเทพ–อยุธยาด้วยรถจักรไอน้ำ เปิดโอกาสให้ประชาชน และนักท่องเที่ยว ได้ร่วมเดินทางย้อนอดีต และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ขณะเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดการเดินรถไฟระหว่างสถานีกรุงเทพ - สถานีกรุงเก่า  เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2439

เส้นทางเที่ยวขบวนพิเศษย้อนสัมผัสเส้นทางประวัติศาสตร์  ‘กรุงเทพ-อยุธยา’ รถไฟจะออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 08.10 น. และถึงสถานีอยุธยา เวลา 10.20 น. ซึ่งการรถไฟฯ ได้นำหัวรถจักรไอน้ำ รุ่นแปซิฟิก หมายเลข 824 และ 850 รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (ปัจจุบันเก็บรักษาและซ่อมบำรุงอยู่ที่โรงรถจักรธนบุรี) ซึ่งผลิตโดย บริษัท นิปปอน ชาร์เรียว จำกัดมาให้บริการลากจูง ในขบวนที่ 901/902 

นักท่องเที่ยวในขบวนดังกล่าวจะมีเวลา 6 ชั่วโมง ในการไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และท่องเที่ยวตามจุดโบราณสถานทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า ทั้งยังได้สัมผัสกลิ่นอายของร้านอาหารที่ผสมผสานกับความเป็นเมืองเก่า ทั้งนี้ขบวนดังกล่าวจะเดินทางกลับโดยออกจากสถานีอยุธยา เวลา 16.40 น. และถึงกรุงเทพ เวลา 18.55 น.

ขบวนรถจะหยุดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานีสามเสน บางซื่อ และรังสิต นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นหรือลงตามสถานีดังกล่าวได้ ขณะที่ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เดินทาง แต่อาศัยอยู่ใกล้เคียงเส้นทางรถไฟสายกรุงเทพ-อยุธยา สามารถร่วมบันทึกความทรงจำ ถ่ายภาพหัวรถจักรไอน้ำในเส้นทางที่ขบวนรถวิ่งผ่านได้เช่นกัน

อีกหนึ่งความพิเศษที่พลาดไม่ได้ คือการรถไฟฯ ยังได้ร่วมกับ ททท. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยาแก่นักท่องเที่ยวในทริปนี้ฟรี  เพียงแสดงตั๋วโดยสารรถไฟที่จุดลงทะเบียนบริเวณทางเข้าอาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา

การรถไฟฯ เปิดจำหน่ายตั๋วโดยสาร ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือช่องทางจำหน่ายตั๋วระบบออนไลน์ของการรถไฟฯ

อัตราค่าโดยสาร

• รถธรรมดาชั้น 3 ไป-กลับ ผู้ใหญ่/เด็ก ราคา 299 บาท
• ตู้โดยสารปรับอากาศ (รถโอทอป) ราคา 799 บาท (บริการอาหารว่างและน้ำดื่มทั้งเที่ยวไป-กลับ) 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ www.railway.co.th หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย