posttoday

ริ้วรอย.. เรื่องทุกข์ใจ ที่แก้ไขได้ด้วย ศาสตร์ และศิลป์

12 มกราคม 2554

...พญ. นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ

 

การแก้ไขปัญหาริ้วรอย ต้องมีความเข้าใจในโครงสร้างผิวหนัง และความเกี่ยวข้องกับริ้วรอยในแต่ละแบบ ถ้าแก้ปัญหาถูกจุด ปัญหาริ้วรอยก็ไม่ใช่เรื่องยาก

อย่างริ้วรอยตื้นๆ บนผิวชั้นบนๆ ความแห้งกร้าน เหล่านี้เกิดจากการขาดความชุ่มชื้น ขาดการบำรุง เพียงใช้ครีมบำรุงที่ให้ความชุ่มชื้นอย่างพวกเป็ปไทด์ก็สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอยให้หมดไป

ส่วนริ้วรอยที่เกิดจากกล้ามเนื้อ เช่น รอยตีนกา รอยขมวดคิ้ว หรือรอยย่นที่หน้าผาก ก็จะต้องใช้สารที่มีผลในการยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อในบริเวณนั้น ซึ่งจำเป็นที่จะต้องรู้จุดและตำแหน่งในการให้สารอย่างถูกต้องเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและดูเป็นธรรมชาติที่สุด

ริ้วรอยอีกชนิด เช่น ริ้วรอยลึกบริเวณร่องแก้ม ร่องลึกใต้ตา ริ้วรอยชนิดนี้เกิดจากคอลลาเจนที่หายไปอาจจะด้วยอายุที่มากขึ้น ก็จำเป็นต้องให้สารเติมเต็ม หรือที่เรียกอีกอย่างว่าฟิลเลอร์นั่นเอง ซึ่งก็มีอยู่หลายชนิดให้เลือกใช้ให้เหมาะสมกับร่องลึกแต่ละแบบ

สุดท้ายเป็นริ้วรอยที่เกิดจากการที่อายุมากขึ้น รูปหน้าเปลี่ยน ผิวหย่อนคล้อย ผิวหนังในชั้นลึกเริ่มไม่สร้างคอลลาเจน ซึ่งเปรียเสมือนโครงกระดูก ของผิวหนัง ช่วยพยุงให้ผิวหนังตึงกระชับ ไม่หย่อนคล้อย ริ้วรอยที่เป็นความหย่อนคล้อยแบบนี้จำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่สามารถส่งพลังงานลงลึก สามารถลงลึกถึงชั้นผิวหนังลึก ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งก็คือ ยิ่งลงลึกมากก็ยิ่งเข้าแก้ไขที่โครงสร้างของผิวมากกว่า

ปัญหาริ้วรอยที่เป็นความหย่อนคล้อย รูปหน้าเปลี่ยน ต้องลงไปแก้ไขที่โครงสร้างของผิว ต้องลงถึงผิวชั้นลึก ลงลึกมากก็เจ็บมากกว่าลงตื้นๆนะคะ หลังการรักษาอาจต้องใช้เวลา ให้ผิวหนังฟื้นฟูจากภายใน ซึ่งจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนหลังการรักษา 2 – 3 เดือน ผลก็จะอยู่ได้ยาวนานเช่นกัน 2 – 3 ปี เครื่องมือในกลุ่มนี้ ก็เช่น เทอร์มาจ, อัลเธอรา ที่ส่งพลังงานลงลึกกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลเจนใหม่ เหมือนเข้าไปซ่อมโครงกระดูกให้กับผิวหนัง ให้สามารถกลับมายึดผิวให้ตึงกระชับไม่หย่อนคล้อยอีกครั้ง

อย่างไรก็ดีมีเครื่องมืออีกกลุ่มที่ให้ผลในการยกกระชับผิวเหมือนกัน แต่ไม่ได้ส่งพลังงานลงลึกถึงโครงสร้างผิว สามารถยกกระชับผิวได้เช่นกัน เห็นผลเร็วกว่า เห็นผลทันทีที่ทำ แก้ไขปัญหาหย่อนคล้อยได้ในระดับหนึ่ง หลังทำรู้สึกได้ถึงความกระชับตึงของผิวที่เพิ่มขึ้นทันที จำเป็นต้องมาทำบ่อยๆ ทุกเดือน ไม่เจ็บเท่าในแบบที่ลงลึกมาก ทั้งหมดนี้ก็แล้วแต่ความพึงพอใจของผู้รับการรักษานะคะ ว่าชอบแบบไหน ทำบ่อยๆ หรือทำครั้งเดียวอยู่ไปเป็นปีๆ

แล้วเมื่อไร จะใช้เครื่องมืออะไร

นี่เองคือสิ่งสำคัญที่สุดในการรักษา ผู้ให้การรักษาจำเป็นต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป มองให้ทะลุถึงชั้นผิวหนัง ว่าปัญหาที่เห็นอยู่ภายนอกเกิดจากปัญหาในชั้นผิวหนังใด และต้องใช้เครื่องมือใดในการแก้ไข นอกจากเรื่องเครื่องมือแล้วก็ยังต้องรู้จุดโครงสร้าง และกล้ามเนื้อส่วนต่างๆบนในหน้าเป็นอย่างดี เพราะแต่ละจุดที่เลือกส่งพลังงานลงไป ย่อมมีผลแสดงออกในผิวชั้นบนไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง จังหวะ หรือทิศทางในการดึงที่แตกต่างกัน ก็จะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ด้วย นอกจากนี้ก็ยังขึ้นอยู่กับการออกแบบใบหน้าด้วย ว่าต้องการให้ตำแหน่งและมุมต่างๆรับกันอย่างไร เพราะเหตุนี้การแก้ไขริ้วรอย ปรับรูปหน้า จึงเป็นทั้งศาสตร์ และศิลป์ ไม่ใช่เรื่องของเครื่องมือเพียงอย่างเดียว

ทุกริ้วรอยสามารถแก้ไขจัดการได้ค่ะ เพียงแต่ต้องมองริ้วรอยเหล่านั้นให้ทะลุว่าเกิดจากสาเหตุใด และใช้เครื่องมือที่เหมาะสมเข้าแก้ไขอย่างตรงจุด แนวทางในการแก้ไขริ้วรอย และความหย่อนคล้อยในปัจจุบัน ไม่ได้ใช้เพียงเครื่องมือใด เครื่องมือเดียวอีกต่อไป แต่จะเป็นการผสมผสานการใช้เครื่องมือ และเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาของแต่ละจุด และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพราะเครื่องมือแต่ละอย่างก็มีจุดเด่นในการจัดการปํญหาที่แตกต่างกัน เข้าถึงชั้นผิวหนังที่แตกต่างกัน .นี่ล่ะค่ะถึงเป็นทั้งศาสตร์ และศิลป์ การจัดการกับริ้วรอย เป็นเรื่องที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ จริงๆ

ข่าวล่าสุด

DSI ชงอัยการสูงสุดฟัน JKN ปมตกแต่งบัญชีเชื่อมโยงต่างแดน