posttoday

หลังโควิด-19 ธุรกิจโรงแรม โฮสเทล และร้านอาหาร กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง

09 มกราคม 2566

หลังสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจซบเซามากว่า 3 ปี ตอนนี้เมื่อนักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น ธุรกิจโรงแรม โฮสเทล ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว จึงเริ่มกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง

เพื่อเป็นการยืนยันว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในไทย เริ่มกลับมาสู่ขาขึ้นอีกครั้ง เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ แกรี่ เมอร์เรย์ (Gary Murray) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่ง เดสติเนชั่น กรุ๊ป ที่จะมาเผย big picture สู่การเป็นเจ้าตลาด ‘โฮสเทล’ ของโลกให้เราได้ทราบกัน

 

หลังโควิด-19 ธุรกิจโรงแรม โฮสเทล และร้านอาหาร กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง

 

แกรี่ เมอร์เรย์ เผยว่า Destination Group ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สู่การพักผ่อนในรูปแบบโฮสเทล โฮเทล ร้านอาหารและบาร์ ทั้งในไทย อินโดนีเซีย ศรีลังกา อินเดีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และกัมพูชา โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศไทย พร้อมทั้งขยายธุรกิจไปยังประเทศในแถบภูมิภาคนี้ ผ่านการทำธุรกิจมา 27 ปี ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานทั้งหมดราว 1,200 คน

“เราเริ่มต้นธุรกิจโดยการซื้อธุรกิจโรงแรม นำมาปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และรีแบรนด์ โดยวางจุดยืนและแนวทางการตลาดของโรงแรมใหม่ ให้ภาพรวมของโรงแรมดูดี มีคุณภาพ และเหมาะสมมากขึ้น ซึ่งในอดีตโรงแรมเหล่านั้นอาจมีเรตราคาค่าห้องพักอยู่ที่ 1,000-2,000 บาท จนสามารถไปแตะที่ราคา 3000-4000 บาท ต่อห้อง มันก็คือการเพิ่มมูลค่า เช่น ฮิลตัน หัวหิน, ไฮแอท ภูเก็ต และโฟร์พอยต์ สุขุมวิท เป็นต้น

 

หลังโควิด-19 ธุรกิจโรงแรม โฮสเทล และร้านอาหาร กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง

 

ปัจจุบันนี้ก็ยังมีโรงแรมที่สร้างและปรับแบรนด์ บริหารจัดการมายาวๆ อย่าง เรดิสัน ภูเก็ต, เรดิสัน หัวหิน, เรดิสัน ป่าตอง แล้วตอนนี้ยังมีโรงแรมในส่วนอื่นๆ ใน จ.ภูเก็ต ที่อยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนชื่อใหม่ โดยใช้ชื่อว่า Destination ชั่วคราวไปก่อน ในโลเกชั่นหลักอย่าง หาดกะรน, หาดสุรินทร์ เช่น Destination Resorts Phuket Karon Beach, Destination Resorts Phuket Surin Beach เป็นต้น” แกรี่ เมอร์เรย์ ฉายภาพเริ่มต้นการทำธุรกิจและแนวทางที่แบรนด์ Destination group รุกตลาด

เราอาจคุ้นชินและตีความคำว่า Hotel, Hostel และ Resort แตกต่างกันไป แต่หมุดหมายสำคัญของ Destination Group คือการก้าวขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของโลกในบริการที่พักแบบโฮสเทลที่แตกต่างด้วยกิจกรรมความสนใจ สำหรับวอลุ่มเตียงจากโฮสเทลในเครือขณะนี้มี 120 แห่ง มี 4 แบรนด์ รวมกว่า 1,400 ห้องพัก ครอบคลุมจังหวัดแห่งการท่องเที่ยวในไทยอย่าง กรุงเทพฯ กระบี่ สมุย ภูเก็ต เชียงใหม่ รวมถึงสาขาในต่างประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ศรีลังกา เวียดนาม และยังเดินหน้าซื้อกิจการที่พักอีกหลายแห่งในงบ 500 ล้านบาท เพื่อเป้าหมายเพิ่มเติมอีก 100 แห่งในปี 2566 นี้ นอกจากโฮสเทลแล้ว เดสติเนชั่น กรุ๊ป ยังได้ขยายต่อเนื่องไปยังธุรกิจการจัดอีเวนต์ที่พัก และการจัดทริปท่องเที่ยวด้วย เพื่อเติมประสบการณ์และสร้างความแตกต่างจากโฮสเทลอื่นๆ

 

หลังโควิด-19 ธุรกิจโรงแรม โฮสเทล และร้านอาหาร กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง

 

แกรี่ ฉายวิสัยทัศน์ และการตีแตกกลยุทธ์ จากข้อเท็จจริง ด้วยเหตุผลว่า เพราะเขาไม่ได้ขายห้องให้คนมานอน สิ่งสำคัญที่สุดคือ ประสบการณ์จากการพบปะ การทำกิจกรรม สนุกกับวันพักผ่อน และทำงานในประเทศไทย นั่นคือสิ่งที่นักท่องเที่ยวและนักเดินทางที่ผ่านเข้าออกประเทศไทยหลงใหล กลุ่มคนที่เป็นลูกค้าของเครือเดสติเนชั่น กรุ๊ป ในส่วนของโรงแรมและโฮสเทลคือ เหล่า Digital Nomad, Generation Z และ Family ฉะนั้นจึงทำให้คาแรกเตอร์และสิ่งที่อยู่ในการบริการของแต่ละแบรนด์แตกต่างกัน

 

หลังโควิด-19 ธุรกิจโรงแรม โฮสเทล และร้านอาหาร กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง

 

แน่นอนว่าเป้าหมายนี้ได้ขยายไปทั่วโลก เพราะทุกอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะเมื่อโลกขับเคลื่อนไปในยุคที่ทำงานที่ไหนก็ได้ เที่ยวไปทำงานไป ไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว และการพักผ่อนจึงไปอยู่ในโซนที่บรรยากาศเหมาะ และเป็นหมุดหมายแห่งการท่องเที่ยวอยู่ในที และถ้าคุณจะนึกถึง ภูเก็ต สมุย หัวหิน ก็ไม่น่าแปลกใจที่คุณจะได้พบกับแบรนด์ภายใต้เครือเดสติเนชั่น กรุ๊ป

“ช่วงที่โควิด-19 ระบาด ทำให้ธุรกิจมีการปรับจูน ปรับแต่งให้มันดีขึ้นเรื่อยๆ ในส่วนของเมืองไทย เราพยายามรักษาและทำให้มันดียิ่งขึ้น และเรายังมองโอกาสในประเทศที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเพิ่มเติมไม่หยุด อย่าง อินโดนีเซีย ศรีลังกา อินเดีย เวียดนาม ซึ่งยังมีช่องว่างให้เราไปได้อีก ยังไม่นับรวมถึงอเมริกาใต้ อย่าง บราซิล เม็กซิโก คอสตาริก้า ฯลฯ สิ่งที่เราสร้างคือเราสร้างแพลตฟอร์มที่มาจากในประเทศ สร้างความแข็งแกร่ง สร้าง Know How และเราก็กระโดดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ไกลขึ้นไปเรื่อยๆ ไปเป็นทวีป จากทวีปเอเชียก็ไปถึงอเมริกาใต้ พูดง่ายๆ ก็คือ เหมือนเราเปิดปุ่ม Start ปลั๊กที่กรุงเทพฯ ปุ๊บ เราใช้งานได้เลยทั่วโลก เหมือนเป็นการสร้างรูปแบบการทำงานและการบริหารไว้จากที่นี่ แล้วพร้อมที่จะจับวางเพื่อนำไปใช้ที่อื่นได้เลย

 

หลังโควิด-19 ธุรกิจโรงแรม โฮสเทล และร้านอาหาร กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง

 

“หากเรามองธุรกิจโรงแรมในเชนระดับโลก...มีเพียบเลยครับ แต่เชนของ ธุรกิจ โฮสเทล ล่ะ ยังไม่มี ยิ่งเป็นโฮสเทลแบบมีคอนเซ็ปต์และสไตล์มาจับด้วยแล้ว มันคือสิ่งที่เราทำได้ ฉะนั้นเราลุยตรงนี้ ซึ่งตอนนี้เรามีแล้ว 50 แห่ง ต่อไปอีก 3 ปี เดสติเนชั่น กรุ๊ป ต้องมีโฮสเทลเพิ่มเป็น 400 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ทวีปต่างๆ ที่ว่ามา” แกรี่ สรุปเส้นทางและเป้าหมายสู่การเป็นโฮสเทลอันดับหนึ่งของโลก

ประสบการณ์ 5 รูปแบบของ เดสติเนชั่น กรุ๊ป กับแนวคิด ความสุข สนุกมัน ของไลฟ์สไตล์ กิน ดื่ม พัก ชิลล์

-สายปาร์ตี้ แบรนด์โฮสเทลอย่าง Slumber Party Hostels เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี และ Bodega Hostels เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เป็นโฮสเทล ที่เน้นกิจกรรมปาร์ตี้ ในธีมต่างๆ ที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวพลังเหลือล้น ไม่ว่าจะเป็นวัยหนุ่มสาว หรือวัยทำงาน ที่ชอบอิสระ และการสังสรรค์ในรูปแบบปาร์ตี้

-สายเข้าป่า สัมผัสธรรมชาติ และกิจกรรมครอบครัว แบรนด์ โฮสเทลอย่าง Path Hostels จ.เชียงใหม่ โฮสเทลในกระโจมสไตล์ชนเผ่า กับวิวสวยงามท่ามกลางธรรมชาติ เติมเต็มนักท่องเที่ยวทั้งแบบแฟมิลี่ และผู้รักป่าเขาลำเนาไพร มีกิจกรรมรองรับอย่าง ออแกนิกส์ ฟาร์ม, โยคะ เซ็นเตอร์ และลุยป่า โฟกัสเรื่องการอยู่กับธรรมชาติและรักษาสมดุลความยั่งยืนในการท่องเที่ยว

-กิน ดื่ม ชิลล์ ในสายของโรงแรม ก็ยังมีแบรนด์ Socialtel เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โรงแรมเพื่อสังคมระดับ 4 ดาว ยังไม่นับรวมร้านอาหารที่เปิดบริการให้กับคนไทยและต่างชาติ ทั้งในรูปแบบมีหน้าร้าน อาทิ แบรนด์ Scoozi Urban Pizza ซึ่งมาพร้อมคอนเซ็ปต์อิตาเลียนระดับพรีเมียมในราคาที่จับต้องได้ และโกสต์คิทเช่น อีกกว่า 10 แบรนด์

-พักสบายใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โรงแรมในเครือ 5 แห่ง ใน จ.ภูเก็ต, จ.เพชรบุรี หัวหิน คือ 1. Reverb by Hard Rock โรงแรมระดับ 5 ดาวบนหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต 2. Destination Resorts โรงแรมระดับ 4 ดาว หาดกะรนและหาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต 3. Radisson โรงแรมระดับ 5 ดาว ในหัวหินและภูเก็ต มีจำนวนห้องพักรวมกว่า 1,300 ห้อง

-Adventure Travel Club ภายใต้ Destination Management หรือ DMC ทำหน้าที่ช่วยเหลือการเจาะตลาดต่างประเทศในด้านตัวแทนการเดินทางและผู้ประกอบการท่องเที่ยว และมี Adventure Travel Asia ที่จะเปิดตัวในไทยและเร่งขยายในภูมิภาคนี้ ซึ่งบริษัทจะบริหารจัดการธุรกิจท่องเที่ยวอื่นๆ ทั้งในส่วนของโรงแรม โฮสเทล และโรงเรียนสอนเล่นเซิร์ฟ ที่กำลังกลายเป็นกิจกรรมยอดนิยมในทะเลทางใต้

 

หลังโควิด-19 ธุรกิจโรงแรม โฮสเทล และร้านอาหาร กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง

 

ฝ่าวิกฤตโรคระบาด 3 ปี ร้านอาหาร โรงแรม สู่เส้นทางแฟรนไชส์

ย้อนกลับไปมองการปรับตัว ตลอดสามปีในช่วงที่โควิด-19 ระบาด ทุกธุรกิจได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจบริการที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวตรงๆ อย่างร้านอาหาร แกรี่ เล่าว่า “เราได้เรียนรู้ว่าเราจะต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้อยู่รอดได้อย่างไร และ Ghost Kitchen คือทางออก เมื่อร้านมันเปิดไม่ได้ เราก็ส่งเดลิเวอรี่ ขายผ่านแพลตฟอร์ม Grab, Food Panda  โดยยึดทำเลและยุทธศาสตร์ที่มีอยู่ จุดหลักๆ ของกรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา เมืองแหล่งท่องเที่ยว ตามพื้นที่ที่มีลูกค้า ซึ่งมีทั้งคนท้องถิ่น และลูกค้าต่างชาติ

โดยแบรนด์อาหารของ เดสติเนชั่น กรุ๊ป ที่ดำเนินการภายใต้ รูปแบบ Ghost Kitchen มี 15 แบรนด์ กับห้องครัวขนาด 200 ตารางเมตร มีอาหารหลากหลาย ทั้งอาหารไทย แฮมเบอร์เกอร์ สลัด อาหารญี่ปุ่น พิซซ่า แมกซิกัน ฯลฯ เมื่อเลือกทางพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ทั้ง Power Eats, Wow Cow Ice Cream, Urban Grunge Coffee, Boom Boom Burgers, Taco Delight, Hanuman, Gochan Chicken ฯลฯ ซึ่งมากกว่า 75% เป็นเอเชียนแบรนด์ เติบโตไปพร้อมๆ กันในคิทเช่นเดียว ความหลักแหลมก็คือ เมื่อเข้าซื้อกิจการเหล่านี้มาแล้ว เข้าสู่การเป็นโกสต์คิทเช่น วัดความนิยมของตลาด นำไปสู่รูปแบบสาขาหน้าร้าน และในอนาคตอันใกล้ ก็สามารถผลักดันต่อในแบบแฟรนไชส์ได้ตามลำดับ

 

หลังโควิด-19 ธุรกิจโรงแรม โฮสเทล และร้านอาหาร กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง

 

ในช่วงโควิด-19 ระบาด แม้แต่ร้านอาหารในธุรกิจโรงแรม ก็ต้องมีการปรับตัวตามสถานการณ์ หันมาปรับใช้เทคโนโลยีมากขึ้น การใช้ทรัพยากรบุคคลให้ทำงานได้มากกว่าที่ทำอยู่ เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือ ธุรกิจอาหารพลิกกลับมาเติบโตเป็นอันดับสาม รองจาก โรงแรม และโฮสเทล หากวัดตัวเลขรายได้ ในเครือเดสติเนชั่น กรุ๊ป นะครับ 

นอกจากนี้ ในปัจจุบัน แบรนด์อาหารของ เดสติเนชั่น กรุ๊ป ที่ดำเนินการภายใต้รูปแบบที่มีหน้าร้าน ประกอบไปด้วย Scoozi Urban Pizza, Hooters, Hardrock Café Phuket และยังมีแบรนด์อาหารและบาร์ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงสร้างแบรนด์ในโรงแรม และโฮสเทล เพิ่มเติมอีกหลายแห่ง

 

หลังโควิด-19 ธุรกิจโรงแรม โฮสเทล และร้านอาหาร กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง

 

และท้ายสุดที่ธุรกิจระดับพันล้านจะขาดไม่ได้ก็คือ การคืนกลับความรักและคุณค่าให้กับสังคม โดยผ่านมูลนิธิ Destination Kids Foundation (DKF) ซึ่งเป็นยูนิตที่ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสในด้านการศึกษาและด้านสังคมด้วยครับ”

อัพเดตข้อมูลได้ที่ เว็บไซต์ : https://destination-group.com/ และ Facebook : Destination Group