posttoday

ธุรกิจชุดวิวาห์สุดลักชัวรี่ ยังไปได้สวยในยุคนี้

26 ธันวาคม 2565

เมื่อพูดถึงธุรกิจชุดวิวาห์ คนส่วนใหญ่มักคิดว่าเป็นธุรกิจที่ดูนิ่งๆ ไม่ได้หวือหวามากมาย แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีธุรกิจชุดวิวาห์สุดลักชัวรี่สัญชาติไทยแบรนด์หนึ่ง นั่นก็คือ ‘วนัช กูตูร์’ ซึ่งถือว่ามาแรงและกำลังไปได้สวยในยุคนี้

ปัจจุบันแบรนด์ วนัช กูตูร์ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 กับความสำเร็จระดับประเทศ โดยขึ้นแท่นเป็นผู้นำเทรนด์ชุดวิวาห์ พร้อมรางวัลการันตีผลงาน 6 ปีซ้อน ด้วยการกุมบังเหียนของสองผู้บริหารหนุ่ม สรรค์ สุดเกตุ และ ณภัทร์ นิยมแย้ม แน่นอนว่าทั้งเซเลบริตี้แถวหน้าของเมืองไทยและคนในแวดวงเวดดิ้ง ต่างให้การยอมรับในผลงานการดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ สรรค์ สุดเกตุ เป็นอย่างดี ด้วยลายเส้นที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบหลายๆ คน

 

ธุรกิจชุดวิวาห์สุดลักชัวรี่ ยังไปได้สวยในยุคนี้

 

ด้วยผลงานชุดแต่งงานมากมายหลากหลายคอลเลคชั่นรวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 ชุด ที่อวดโฉมให้เห็นทุกเดือนไม่น้อยกว่า 2-3 คอลเลคชั่น นอกจากความหลากหลายของชุดแต่งงานที่มีให้เลือกไม่ต่ำกว่าร้อยชุดในแต่ละเดือนแล้ว จุดเด่นของ วนัช กูตูร์ ยังอยู่ที่ความสวยงามและความประณีตที่หาแบรนด์อื่นเทียบเคียงได้ยาก ด้วยความโดดเด่นทั้งงานตัดเย็บและงานดีไซน์ กลายเป็นจุดแข็งที่ทำให้ได้รับความนิยม จนมีว่าที่บ่าวสาวเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก จนทำให้ วนัช กูตูร์ ก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในวงการเวดดิ้งระดับประเทศอย่างรวดเร็ว ด้วยการครองตลาดอุตสาหกรรมงานแต่งงาน ในประเภทของตลาดชุดแต่งงาน สูงถึงร้อยละ 10% ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าธุรกิจหลัก 100 ล้านบาท อีกทั้งยังตอกย้ำความสำเร็จด้วยรางวัลการันตีถึง 6 ปี ซ้อนจากนิตยสารชื่อดัง แพรว เวดดิ้ง อีกด้วย

 

ธุรกิจชุดวิวาห์สุดลักชัวรี่ ยังไปได้สวยในยุคนี้

ธุรกิจชุดวิวาห์สุดลักชัวรี่ ยังไปได้สวยในยุคนี้

ธุรกิจชุดวิวาห์สุดลักชัวรี่ ยังไปได้สวยในยุคนี้

 

ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา มีจำนวนคู่รักเซเลบริตี้คนดังมาใช้บริการทั้งสั่งตัดและเช่าชุดกว่า 10,000 คู่ โดยเฉพาะเหล่าคนดังทั้งในและนอกวงการบันเทิงต่างแวะเวียนกันเข้ามาใช้บริการไม่ขาดสาย อาทิ ศรีริต้า-กรณ์ ณรงค์เดช, ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์-มาวิน ทวีผล, แพทริเซีย กู๊ด-โน้ต วิเศษ รังสีสิงห์พิพัฒน์, เวียร์ ศุกลวัฒน์-วิกกี้ พีมนต์ญา, นต ปณต-เนะ อโณทัย นิรุตติเมธี, ปุยฝ้าย เอเอฟ-ตาม เธียรวิชญ์ ศักดาพร, วีณา ปวีณา ซิงห์, จักจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข, ดา เอ็นโดรฟิน-เดนนิส ไทยคูณ, โบวี่ อัฐมา, ใหม่ ดาวิกา, โบว์ เมลดา, แต้ว ณฐพร, อแมนด้า ออบดัม และดาราคนดังแถวหน้าอีกมากมาย รวมไปถึงราชนิกูลและบุคคลสำคัญในต่างประเทศหลากหลายเชื้อชาติอีกด้วย นับเป็นความสำเร็จที่ก้าวกระโดดแบบหาตัวจับยาก นอกจากผลงานปังจนฉุดไม่อยู่แล้ว ทางห้องเสื้อยังได้รับเกียรติจากหลากหลายแบรนด์ดัง และห้างสรรพสินค้าชั้นนำร่วมโชว์ผลงาน อาทิ ไอคอนสยาม โรงแรมพลาซ่าแอทธินี โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ และเครื่องประดับเพชร Cartier เป็นต้น และเร็วๆ นี้ ทุกท่านอาจจะได้เห็นโปรเจ็กต์ใหญ่ของ วนัช กูตูร์ ที่ร่วมกับแบรนด์จิวเวลรี่ชื่อดัง “Chateau Des Gems” เพื่อนำเสนอผลงานสุดยิ่งใหญ่ในปีหน้าอีกครั้ง

 

ธุรกิจชุดวิวาห์สุดลักชัวรี่ ยังไปได้สวยในยุคนี้

ธุรกิจชุดวิวาห์สุดลักชัวรี่ ยังไปได้สวยในยุคนี้

 

และในปี 2023 นี้ วนัช กูตูร์ ยังเตรียมผลงานมากกว่า 40 คอลเลคชั่น รวมกว่า 500 ชุด เพื่อโชว์ความหลากหลายของงานดีไซน์ที่ถูกประยุกต์ให้ดูทันสมัยมากขึ้น โดยผลัดเปลี่ยนคอลเลคชั่นออกมาให้ชมกันในทุกๆ เดือน ทั้ง ชุดไทยชุดสากล และชุดยกน้ำชา และแน่นอนว่าในปี 2023 นี้ ทุกคนจะได้เห็นตัวแม่ของวงการบันเทิงไทยต่อคิวใส่ชุดวิวาห์อวดโฉมให้เห็นกันอย่างเนืองแน่น ซึ่งจากหลายปีที่ผ่านมา ผลตอบรับที่ได้จากการใช้เหล่าคนดังระดับแถวหน้าทั้งในและนอกวงการบันเทิง ในการช่วยพรีเซนต์ผลงานที่ผ่านมานั้น เป็นไปในทิศทางที่ดีและค่อนข้างได้เปรียบคู่แข่งพอสมควร ส่งผลทำให้ผลประกอบการของห้องเสื้อดีขึ้นแบบก้าวกระโดดในทุกๆ ปี แม้จะมีแผ่วลงไปบ้างในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา แต่ปี 2022 นี้ก็กลับมาโลดแล่นและบุกตลาดได้อย่างเหนือชั้นอีกครั้ง จนทำลายสถิติด้วยจำนวนคู่รักที่เข้ามาเช่าชุดและสั่งตัดกว่า 800 คู่ มากที่สุดในรอบ 3 ปี

 

ธุรกิจชุดวิวาห์สุดลักชัวรี่ ยังไปได้สวยในยุคนี้

 

สรรค์ สุดเกตุ ได้กล่าวถึงห้องเสื้อในเครือทั้งหมดว่า…“ก่อนหน้านี้หลังจากเราแจ้งเกิดด้วยคอลเลคชั่นชุดไทยจนทำให้ ห้องเสื้อ วนัช กูตูร์ กลายเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ด้วยดีมานด์ที่มีแน้วโน้มสูงขึ้น เราจึงตัดสินใจเปิดห้องเสื้อเพิ่มอีกสองห้องในระยะเวลาไร่เรี่ยกัน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น ได้แก่ “วนัช เฟิร์ส” เป็นห้องเสื้อระดับ VVIP ที่ให้บริการเฉพาะลูกค้าสั่งตัดชุดเท่านั้น และ “วาริช สูท” ห้องเสื้อสำหรับเจ้าบ่าวโดยเฉพาะ ซึ่งทั้งสามห้องเสื้ออยู่ในโซนลาดพร้าวทั้งหมด ผลตอบรับที่ได้ค่อนข้างเกินคาดกว่าที่คิดไว้มากทีเดียว  

 

ธุรกิจชุดวิวาห์สุดลักชัวรี่ ยังไปได้สวยในยุคนี้

 

แน่นอนว่าโปรเจ็กต์ในอนาคตอันใกล้นี้ เรากำลังซุ่มเตรียมแผนงานที่จะขยายตลาดเพิ่ม ซึ่งตอนนี้ก็กำลังมองไปยังตลาดยุโรปที่อยู่ในแวดวงโอตกูตูร์เช่นเดียวกัน ซึ่งโปรเจ็กต์ในอนาคตนี้เป็นผลพวงมาจากที่ปีนี้ทางห้องเสื้อของเราได้รับการติดต่อจากนิตยสารจากประเทศฝรั่งเศส ให้ถ่ายแบบชุดวิวาห์เพื่อลงในนิตยสารแฟชั่นชื่อดัง GMARO และในปี 2021 ชุดแต่งงานของเรายังไปเข้าตาผู้ผลิตเกมออนไลน์จากประเทศเกาหลี และได้เซ็นสัญญาขอใช้ชุดของเราให้กับตัวละครในเกมอีกด้วย รวมถึงเหล่าคนดังจากต่างประเทศทั้งฝั่งยุโรปและโซนเอเชีย อาทิ อเมริกา ออสเตรเลีย อิหร่าน เวียดนาม กัมพูชา ลาว และเมียนมาร์ ที่ให้ความสนใจและสั่งตัดชุดของเราไปใช้ในงานสำคัญต่างๆ และในช่วง 1-2 ปี ต่อจากนี้ เรายังคงเน้นบุกตลาดอุตสากรรมงานวิวาห์ไปก่อน ไม่แน่ว่าในอนาคตถ้ามีเสียงเรียกร้องให้ห้องเสื้อของเราทำชุดที่นอกเหนือจากชุดแต่งงาน ก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้เห็นแบรนด์เสื้อผ้า วนัช กูตูร์ ตั้งโชว์อยู่ในห้างสรรพสินค้า แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องของอนาคต เพราะด้วยเนื้องานที่ค่อนข้างล้นมือมากๆ อยู่แล้วในตอนนี้ จึงไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าจะทำให้โปรเจ็กต์นี้เกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ แต่ถ้าสามารถทำได้ขึ้นมา ก็คงจะเป็นโปรเจ็กต์ที่ใหญ่มากๆ และผมค่อนข้างมั่นใจว่าเราจะสามารถร่วมสร้างสีสันให้กับวงการแฟชั่นบ้านเราได้อย่างแน่นอนครับ”

 

ธุรกิจชุดวิวาห์สุดลักชัวรี่ ยังไปได้สวยในยุคนี้

 

สรรค์ สุดเกตุ ทิ้งท้ายว่า สำหรับชุดแต่งงานคอลเลคชั่นที่ผ่านไปแล้วซึ่งส่วนใหญ่มักมีสีขาว ในแง่ของการรักษ์โลกหรือการนำกลับมาใช้ใหม่ ทางแบรนด์จะนำชุดที่ไม่ตกเทรนด์มากนักไปใช้ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งให้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่เป็นลูกค้าของร้าน โดยชุดพรีเวดดิ้งเหล่านี้สามารถใช้อย่างสมบุกสมบันได้ จะลุยน้ำ ลุยป่า หรือขึ้นเขาก็ได้หมด แม้เกิดการชำรุดขึ้นมา ลูกค้าก็ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนปรับ เพราะเป็นบริการที่ทางห้องเสื้อมีไว้ให้กับลูกค้าอยู่แล้ว

 

ธุรกิจชุดวิวาห์สุดลักชัวรี่ ยังไปได้สวยในยุคนี้

 

นอกจากชุดวิวาห์สุดลักชัวรี่แบรนด์ วนัช กูตูร์ แล้ว ในเมืองไทยยังมีชุดวิวาห์แบรนด์อื่นๆ ที่คอนเซ็ปต์และสไตล์ของชุดแต่งงานไม่ซ้ำกัน ขึ้นอยู่กับความชอบ ความต้องการ และรสนิยมของลูกค้าเป็นหลัก อาทิ แบรนด์ Patarasiri ซึ่งเอกลักษณ์โดดเด่นของแบรนด์นี้ก็คือ ชุดแต่งงานดีไซน์คลาสสิค ที่มาพร้อมความสวยไร้กาลเวลา หรืออย่างแบรนด์ Meshmuseum จุดเด่นของแบรนด์นี้ก็คือการผสมผสานงานคราฟต์และการออกแบบลายผ้าที่แปลกใหม่ รวมถึงการทำแพทเทิร์นที่ซับซ้อน และออกแบบชุดแต่งงานให้เหมาะกับสรีระของเจ้าสาว เป็นต้น

 

ธุรกิจชุดวิวาห์สุดลักชัวรี่ ยังไปได้สวยในยุคนี้

 

สามารถชมผลงานของห้องเสื้อ วนัช กูตูร์ ผ่านช่องทาง Instagram หรือ www.facebook.com/vanuscouture สอบถามโทร.02-0024895, 02-0024896, 086-491-5445 และ Line: @ vanuscouture