บาร์เบอร์ & ซาลอน ไฮเอนด์ เพื่อสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีผู้มีรสนิยม

จุดเริ่มต้นของบริการสุดไฮเอนด์นี้ มาจากการที่  A Sense of Beauty by Sacha ร้านซาลอนสุดพรีเมียม กับ Gentlemen’S Tonic แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมสุภาพบุรุษชื่อดังของอังกฤษ ได้จับมือผสานธุรกิจแบบครบวงจรเรื่องการดูแลความงามทั้งสำหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีร่วมกันในสถานที่เดียว ณ โรงแรมโฟร์ซีซันส์ กรุงเทพฯ ถนนเจริญกรุง

 

 

เมื่อก้าวเข้ามาจะเห็นได้ถึงความสง่างามทั้งบาร์เบอร์และซาลอนของ Gentlemen’S Tonic และ A Sense of Beauty by Sacha ที่ภายในบ่งบอกถึงความหรูหรา และสัมผัสได้ถึงความรีแลกซ์อย่างมีสไตล์ในแบบฉบับเฉพาะตัวที่พร้อมจะมอบให้กับลูกค้าคนพิเศษ อาทิ การดูแลสุดเอ็กซ์คูลซีฟ ไม่ว่าจะเป็นการตัดผมอย่างพิถีพิถัน ทำทรีตเมนต์อย่างประณีต และการบริการความงามอื่นๆ อย่างครบครัน

 

 

ในส่วนของ Gentlemen’S Tonic นั้น ปัจจุบันได้ขยายสาขาไปทั่วโลก มีทั้งที่ลอนดอน ฮ่องกง ดูไบ กัวลาลัมเปอร์ อาบูดาบี เม็กซิโก นิวเดลี และวันนี้ได้มาเปิดความเอ็กซ์คูลซีฟขึ้นที่กรุงเทพฯ แล้ว นอกจากนี้ Gentlemen’S Tonic ยังได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด เพื่อดูแลผิวหน้า ผิวกาย เส้นผม ของคุณผู้ชายให้มีภาพลักษณ์ที่ดูดีอยู่เสมอ

 

 

โอลิเวียร์ บอนเนอร์ฟอย ผู้ก่อตั้ง Gentlemen’S Tonic บอกว่า… "กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในเมืองที่ผมชอบที่สุดในโลก ตื่นเต้นมากที่ Gentlemen’S Tonic ได้มาเปิดบริการที่เมืองไทย เนื่องจากผู้ชายไทยเป็นหนึ่งในลูกค้าที่มีความสนใจผลิตภัณฑ์ของเรา แน่นอนว่าผู้บริโภคมีทางเลือกมากมาย อย่างไรก็ดี ไม่มีใครสามารถมอบประสบการณ์สุดหรูในบรรยากาศ 5 ดาวของโฟร์ซีซั่นส์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รับรองได้ว่าด้วยความหลากหลายของบริการ ควบคู่กับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของช่างที่ผ่านการฝึกอบรมอย่างดีเยี่ยม จะทำให้คุณสุภาพบุรุษทั้งหลายประทับใจแน่นอน"

ด้าน ซาช่า-ศศิชา บำรุงกิจ แห่ง A Sense of Beauty by Sacha ผู้มีไอเดียในการรังสรรค์ซาลอนแห่งนี้ให้เป็นเอ็กซ์คูลซีฟพรีเมียมซาลอนที่ลูกค้าเข้ามาแล้ว จะบริการออกแบบทรงผมให้ตรงความต้องการและเข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า กล่าวว่า

 

 

“ความตั้งใจของเราคืออยากเป็นหนึ่งในซาลอนที่ผู้หญิงนึกถึง รู้สึกผ่อนคลายเมื่อเข้ามาใช้บริการ จุดเด่นที่ต่างจากซาลอนทั่วไปคือ เรามีบริการตรวจเช็คสภาพหนังศีรษะเพื่อให้ลูกค้าทราบถึงปัญหาหนังศีรษะอย่างแท้จริง เพื่อที่จะได้เลือกใช้แชมพูให้เข้ากับสภาพผมของลูกค้า โดยผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นแบรนด์ชั้นนำจากฝรั่งเศส, อังกฤษ ญี่ปุ่น และอิตาลี เน้นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการดูแลเรื่องการซ่อมแซมผมให้กลับมาสุขภาพดี โดยช่างที่ให้บริการมีประสบการณ์กว่า 15 ปี ที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี เมื่อกลับออกไปลูกค้าจะต้องไปพร้อมความมั่นใจและประทับใจ”

 

 

“นอกจากนี้ เรายังภูมิใจกับบาร์เบอร์ ที่ร่วมมือกับ Gentlemen’S Tonic มืออาชีพในเรื่องของผลิตภัณฑ์ผู้ชายที่มีชื่อเสียงจากประเทศอังกฤษ มากรูมมิ่งให้คุณผู้ชายโดยเฉพาะ มีบริการ Hair Cut, GT Royal. Wet Shave, GT Facial Treatment, Manicure, Pedicure และ Waxing ด้วยการตกแต่งสไตล์วินเทจเท่ๆ ให้ความเป็นไพรเวทคลับที่ผู้ชายสามารถมานั่งพูดคุยและสั่งเครื่องดื่มจากโรงแรมระหว่างที่มาใช้บริการได้อีกด้วย” 
 

ได้ทราบข้อมูลจากสองผู้บริหารไปแล้ว ลองไปฟังฟีดแบคจากบรรดาเซเลบริตี้แถวหน้าของเมืองไทยดูบ้าง

 

 

ณภัทร อัสสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเอสเตท จำกัด

“ตั้งแต่เรียนจบ ผมตัดผมร้านเดิมร้านเดียวมา 20 กว่าปีแล้ว (หัวเราะ) แต่ถ้าถามถึงประสบการณ์การตัดผมที่ Gentlemen’S Tonic แว้บแรกเลยชอบการตกแต่งสไตล์วินเทจที่ออกแนวหรูหราของร้าน สิ่งที่ชอบมากอีกอย่างก็คือการบริการที่เปี่ยมไปด้วยความสุนทรีย์และความละเมียดละไมที่ค่อยๆ ตัดผม ซึ่งไม่ต้องเร่งรีบมาก พูดง่ายๆ คือถูกใจการตกแต่ง ขั้นตอนในการบริการ และพนักงานที่มีเซอร์วิสมายด์ที่สูงมาก ทั้งช่วยถอดสูท เก็บสูทให้ รวมทั้งช่วยใส่สูท จัดปกเสื้อให้ลูกค้าเหมือนเป็นสภาพบุรุษอังกฤษเลยละ ผมไม่ค่อยเห็นร้านตัดผมสไตล์ Wet Shave ที่ดีๆ แบบนี้มานานแล้ว พอได้มาที่นี่ก็ติดใจ สงสัยต้องมาเป็นลูกค้าแล้วล่ะ แต่ต้องเผื่อเวลาสักครึ่งวันนะ จะได้ฟีลแบบสบายๆ ผมว่าการดูแลตัวเองของผู้ชายคือ การตัดผม โกนหนวด ให้สะอาดสะอ้าน ซึ่งการมาที่นี่ความพิเศษก็คือ เราสามารถใช้เวลากับการบริการได้ ซึ่งจะทำให้เราเพลิดเพลินด้วยครับ”

 

 

ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก ทายาทรุ่นที่ 3 แห่ง กันตนา กรุ๊ป

“สำหรับเต้แล้ว การดูแลตัวเองเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ยิ่งเรื่องของเส้นผมแล้วยิ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะทรงผมช่วยเสริมบุคลิกของเราได้ ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นเต้จะทั้งทำสีผมฟอกสีผมตามแฟชั่น จนสุขภาพผมเริ่มไม่ดี พอโตขึ้นเต้ก็เริ่มหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ เพราะวิวัฒนาการดูแลเส้นผมสมัยนี้ก้าวไปไกล ฉะนั้นเต้จะทั้งเข้าร้าน ดูแลและบำรุงเส้นผมอย่างถูกต้องเสมอ สิ่งสำคัญคือร้านที่ดีก็มักจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีมาใช้กับลูกค้าด้วย เต้จึงค่อนข้างโฟกัสกับการใช้ผลิตภัณฑ์ของร้านเป็นหลัก อย่าง A Sense of Beauty by Sacha และ Gentlemen’S Tonic ทั้งสองร้านเป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์พรีเมียมที่ใส่ใจในการดูแลลูกค้า ซึ่งเข้าถึงรายละเอียดของการบริการที่ดีมากๆ เต้ว่าสิ่งนี้มันคือหัวใจสำคัญที่สุดในการเป็นร้านซาลอนหรือบาร์เบอร์ในยุคนี้เลยละ แม้จะเป็นรายละเอียดที่เล็กน้อย แต่มันสามารถทำให้เจ้าของธุรกิจร้านเสริมสวยประสบความ สำเร็จได้ คือต้องใส่ใจทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้ และการบริการที่น่าประทับใจ ซึ่งตอนนี้เต้ก็เป็นลูกค้าทั้งสองร้านเรียบร้อยแล้ว” 

 

 

สตางค์ ดิษยนันทน์ กัลย์จาฤก ผู้จัดละคร และผู้บริหาร กันตนา กรุ๊ป

“จริงๆ แล้วตางค์ใส่ใจกับเส้นผมมากกว่าสกินแคร์อีก ตางค์จะทนไม่ได้เวลาที่เส้นผมแห้งกรอบ คือจะไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผมเสีย และจะไม่ค่อยแปรงผมแรงๆ จะใช้วิธีบำรุงซะมากกว่า พอมาที่ A Sense of Beauty by Sacha ก็รู้สึกชอบในภาพลักษณ์ของร้านและบริการ จึงเป็นลูกค้าตั้งแต่แรก นอกจากทำผม สระไดร์ และทรีตเมนต์แล้ว ที่นี่ยังมีบริการทำเล็บด้วย พูดง่ายคือเป็น One Stop Service แบบครบจบในที่เดียว ที่ผ่านมาคุณแม่จะมาทำผมที่นี่บ่อย ตางค์ก็ตามมาด้วย รู้สึกประทับใจหลายอย่าง โดยเฉพาะเตียงสระที่เป็นเก้าอี้นวดในตัว ที่สำคัญพนักงานมืออาชีพจริงๆ และมีเซอร์วิสมายด์มากๆ ราคาอาจจะไฮเอนด์สักหน่อย แต่เมื่อเทียบกับการบริการที่ได้ ถือว่าคุ้มมากค่ะ”

 

 

เอ๋ กัญญารัตน์ พลาดิศัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลาดิศัย พร็อบเพอร์ตี้ จำกัด

“ต้องบอกก่อนว่า เอ๋ไม่เคยสระผมเองเลย เพราะมีความรู้สึกว่า เวลาสระผมเองแล้วมักจะป่วย เอ๋ก็เลยต้องเข้าซาลอนเพื่อให้ช่างสระผมให้ตั้งแต่เด็กๆ เลยค่ะ เอ๋ว่าสิ่งสำคัญที่สุดในซาลอนก็คือโพรดักส์ที่ร้านใช้กับเรา ไม่ว่าจะเป็นแชมพูหรือครีมนวด ถ้าร้านที่ไม่ได้สนิทกัน เอ๋จะเอาแชมพูกับครีมนวดไปเองทุกครั้ง เอ๋ไปซาลอนสัปดาห์ละ 3 วัน จนรู้สึกว่าซาลอนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่เอ๋เลือกเป็นอย่างแรกก็คือโพรดักส์ เนื่องจากตัวเองเป็นคนแพ้ง่าย ผลิตภัณฑ์ที่ดีต้องไม่ทำให้ผมร่วง พอมาลองใช้บริการที่ A Sense of Beauty by Sacha แล้วรู้สึกดีมากค่ะ เหมือนสปาผมไปด้วยในตัว ชอบการนวดศีรษะมาก บริการทุกอย่างก็สุดพรีเมียม ตั้งแต่เตียงสระ เก้าอี้นวด และการตกแต่งร้าน ที่สำคัญพนักงานจะแนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่ดีให้ด้วย ตอนนี้เอ๋เป็นลูกค้าที่นี่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้เอ๋ยังชอบการทำเล็บของที่นี่ด้วย บริการดี สถานที่หรูหรา คนไม่พลุกพล่าน มีความเป็นส่วนตัวดี เข้ามาใช้บริการแล้วเหมือนเราเป็นเจ้าหญิงเลยค่ะ” (ยิ้ม)

สัมผัสความเอ็กซ์คลูซีฟของ A Sense of Beauty by Sacha และ Gentlemen’S Tonic ได้ที่ชั้น LL ติดกับสปา และสวนปาล์มคอร์ตยาร์ด โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ถนนเจริญกรุง เปิดให้บริการตั้งแต่ 10.00 - 20.00 น. สอบถามโทร. 082-652-2999, 096-742-2999 อัพเดตได้ที่ www.asenseofbeautybysacha.com และ www.gentlemenstonic.com