คริสติน่า อากีล่าร์ นักร้องสาวฉายา Timeless Queen
ถ้าพูดถึงนักร้องสาวดีว่าตัวแม่ที่สวยเสมอ เสียงเพราะจับใจ ฉายา ‘Dancing Queen’ เมืองไทย จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก คริสติน่า อากีล่าร์ หรือ พี่ติ๊นา ของแฟนคลับทุกเพศทุกวัย มีโอกาสได้พูดคุยกับเธอทั้งที ขออัพเดตงานคอนเสิร์ต รวมทั้งธุรกิจน้ำหอมที่ทำอยู่ให้แฟนๆ รู้สักหน่อย
Celebration Concert ปลายปี 66 คอนเสิร์ตใหญ่ที่แฟนๆ รอคอย
“ถ้าให้พูดถึงคอนเสิร์ตใหญ่ของติ๊นา จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2566 ค่ะ ดูเหมือนนานนะ แต่เวลาผ่านไปเร็วมาก มันจะเป็นคอนเสิร์ตที่ต้องเต้นต้องแดนซ์ ติ๊นาจึงเริ่มเตรียมตัวด้วยการออกกำลังกาย พอเรามีเป้าหมายว่าต้องทำอะไร เมื่อไหร่ ก็ต้องดูแลตัวเองนิดนึง แม้เป็นช่วงที่ยุ่งๆ แต่ก็ต้องหาเวลาเพื่อออกกำลังกาย ติ๊นาต้องไปเทรนกับ Personal Trainer ที่ฟิตเนส ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เทรนกับ ‘มิคกี้’ แต่ตอนนี้ก็เทรนกับ ‘ทิฟฟานี’ น้องสาวเขา ซึ่งก็โหดไม่แพ้กันค่ะ (หัวเราะ)
ด้วยแนวเพลงของติ๊นามันต้องเต้นไง คนก็อยากมาดูเราเอ็นเตอร์เทน นักร้องกับแดนเซอร์มันต้องบาลานซ์กัน อย่างตอนทำงานเราก็ไม่ได้เต้นทั้งเพลงหรือเต้นทุกเพลง จะมีช่วงที่เราต้องโฟกัสกับคนดูด้วย ถ้าเต้นอย่างเดียวเหมือนเราอยู่กับกลุ่มแดนเซอร์โดยที่เราไม่ได้สื่อสารกับคนดูเลย ติ๊นาจึงต้องโฟกัสทั้งเรื่องการเต้นและโฟกัสคนดูไปพร้อมกัน แล้วก็พักเหนื่อยไปในตัวด้วย (ยิ้ม) สำหรับชื่อคอนเสิร์ตเรายังไม่ได้เคาะกันเลย แต่พูดได้ว่าคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งนี้เป็น Celebration Concert คือคอนเสิร์ตที่เราจะได้เจอกัน หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานเพราะโควิด 19 ส่วนสถานที่จัดคอนเสิร์ต เดี๋ยวขออัพเดตให้ทราบอีกทีค่ะ”
จะผ่านไปกี่ปี แฟนคลับ Dancing Queen คนนี้ยังคงเหนียวแน่น
“สิ่งที่ทำให้แฟนคลับยังคงติดตามผลงานของเราอย่างเหนียวแน่น ติ๊นาคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องซื่อสัตย์กับอาชีพของเรา เราต้องให้เกียรติทุกคนที่เป็นแฟนเพลง เราจะไม่เห็นค่าของพวกเขาเฉพาะเวลาที่มีงานเท่านั้น ติ๊นามีไลน์กรุ๊ปหรือ Open Chat ที่ตอนเช้าเราก็จะ Good Morning กัน คือมันมากกว่าคำว่าแฟนคลับ เหมือนญาติเหมือนพี่น้อง น้องๆ หลายคนติดตามติ๊นามาตั้งแต่อัลบั้มชุดแรก เขาอยู่กับเรามาตั้งแต่อัลบั้มแรก จึงเหมือนกับครอบครัวอีกครอบครัวหนึ่ง เวลาเราออกไปข้างนอก เวลาเจอแฟนคลับ เขาจะเห็นเราเป็นเหมือนพี่สาว ในกลุ่มเรามีแฟนคลับติ๊นาทุกรุ่น แต่ที่น่าแปลกใจคือช่วงหลังๆ จะมีรุ่นเด็กมาก เพราะแฟนคลับบางทีมักจะมากับลูกกับหลานตัวเล็กๆ ซึ่งเด็กๆ ร้องเพลง ‘พลิกล็อก’ เพลง ‘พูดอีกที’ ได้ คือเป็นอะไรที่น่ารักมาก”
Born to be Diva
“ความฝันของติ๊นาตั้งแต่เด็กคือการเป็นนักร้อง ตั้งแต่เรียนอยู่ไฮสคูล ติ๊นารู้ตัวว่าวันหนึ่งฉันต้องเป็นนักร้อง มันเหมือนเป็นเซนส์ที่ตัวเองรู้สึก แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเพื่อให้ได้เป็นนักร้องนะ ไม่เคยประกวดร้องเพลง แต่ติ๊นาคิดว่าตัวเองโชคดีที่ได้มาเจอกลุ่มคนที่ใช่ ในเวลาที่ใช่ ซึ่งเป็นทีมงานที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุดในตอนนั้น ตอนนั้นเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก และทำงานเป็นเลขาได้ปีกว่าๆ อยู่ดีๆ พี่เต๋อ-เรวัต พุทธินันท์ ก็นัดให้เข้าไปคุย ก็ไม่คิดว่าเค้าจะสนใจ คือพี่เต๋อรู้จักกับคุณพ่อ (โทนี่ อากีล่าร์) เพราะช่วงนั้นคุณพ่อเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียงในกลุ่มคนรุ่นนั้น และเมื่อโอกาสนั้นมาถึง ติ๊นาก็ทำเต็มที่เลย ถ้าตัดสินใจทำอะไรแล้ว ต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ อาจไม่ดีที่สุดสำหรับคนอื่น แต่มันดีที่สุดสำหรับเรา”
ดูแลเอาใจใส่แฟนคลับประดุจญาติพี่น้อง
“ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่าติ๊นาดูแลแฟนคลับเหมือนพี่เหมือนน้องจริงๆ ไม่ว่าจะเรื่องของการให้กำลังใจ ให้คำปรึกษา ไม่ว่าจะเรื่องการเรียน การงาน หรือบางครั้งก็เรื่องส่วนตัวในช่วงเวลาที่เขารู้สึกแย่ที่สุด…ติ๊นาจะให้ความสำคัญกับเรื่องการเรียน เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญ อยากให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิต มีหน้าที่การงานที่ดี มีชีวิตที่ดี นั่นคือความรู้สึกที่เรามีต่อเขา ติ๊นาว่าบางครั้งเรามีโอกาสมอบสิ่งดีๆ ให้พวกเขา เราก็ควรทำ แม้จะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่มันก็อาจจะมีความหมายมากกับบางคน และถ้าจะเปรียบเทียบกับความรักและกำลังใจที่พวกเขามอบให้ติ๊นาตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักกันมันน้อยมาก (ยิ้ม) สิ่งที่เขามอบให้ติ๊นามันมีค่า มันคือที่สุดจริงๆ ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องของความจริงใจและความใส่ใจค่ะ”
ธุรกิจน้ำหอม ‘CHRISTINA Eau de Parfum’ คือสิ่งที่รัก
“สำหรับเรื่องธุรกิจ ติ๊นาตั้งใจจะทำมาหลายปีแล้ว อยากทำธุรกิจเกี่ยวกับความสวยความงามเพราะเป็นสิ่งที่เราอินมากกว่าอย่างอื่น จนกระทั่งได้นั่งคุยกับน้องสาว (เอ๋-เทเรซ่า อากีล่าร์) ในช่วงก่อนโควิด 19 ระบาดนี่แหละค่ะ เพราะเวลาที่ติ๊นาอยู่ว่างๆ ไม่ได้ทำงาน มันน่าเบื่อมากเลย เราเคยทำโน่นทำนี่ พอต้องอยู่เฉยๆ รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า (หัวเราะ) มันต้องทำอะไรสิ ก็เลยมาลงเอยที่การทำน้ำหอม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ Christina Beauty ของเรา ติ๊นาว่าน้ำหอมเป็นโพรดักส์ที่ลักซ์ชูรี่ อีกอย่างติ๊นาเป็นคนชอบน้ำหอม จะใช้น้ำหอมมาเยอะมาก เพราะน้ำหอมมันบ่งบอกถึงบุคลิกภาพและรสนิยมของคนใช้ได้อย่างดี”
น้ำหอม 3 กลิ่นสุดตราตรึงจาก ‘CHRISTINA Eau de Parfum’
“ติ๊นาชอบน้ำหอมกลิ่นที่สดชื่น สะอาดๆ ซึ่งน้ำหอมทั้ง 3 กลิ่นที่อยากนำเสนอนี้ ทุกกลิ่นได้แรงบันดาลใจมาจากแต่ละโมเมนต์ในชีวิตของติ๊นา กลิ่นแรก ‘First Love’ อยากให้ลองนึกถึงตอนที่มีรักครั้งแรก กลิ่นนี้จะทำให้นึกถึงปั๊ปปี้เลิฟของเรา ช่วงนั้นเป็นช่วงวัยที่พลังงานเหลือเฟือ ทุกอย่างดีหมด มันเป็นโลกแห่งความฝัน โลกแห่งความหวัง โลกนี้สวยงาม ฟิลลิ่งประมาณนี้ กลิ่นของเฟิร์สเลิฟจะสดชื่น มีความหอมหวานละมุนของกลิ่นดอกไม้ ความเซ็กซี่ของกลิ่นมัสก์ ซึ่งกลิ่นจะมีหลายเลเยอร์มาก เฟิร์สเลิฟของติ๊นาคือรักครั้งแรกที่พร้อมเดินไปข้างหน้า
กลิ่นที่สอง ‘Ma Vie En Rose’ ชื่อเป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า ‘โลกสีชมพูของฉัน’ ตัวนี้จะเป็นกลิ่นกุหลาบ แต่จะเปิดด้วยกลิ่นพีชและแบล็กเคอร์เรนท์ที่ให้ความสดชื่นในแบบฟรุ้ตตี้หน่อย และจะมีกลิ่นของ English Rose ที่มีความละมุน บ่งบอกถึงความเป็นผู้หญิง ที่เปรียบเหมือนดอกกุหลาบ ที่มีทั้งความอ่อนโยนนุ่มนวล แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเข้มแข็ง
กลิ่นที่สาม ‘Seductive’ จะเป็นกลิ่นที่เซ็กซี่ เย้ายวน เปิดด้วยกลิ่นที่มีความหวานของลิ้นจี่ ตัดกับกลิ่นสดเขียวของรูบาร์บและเบอร์กามอท ตามด้วยกลิ่นเครื่องเทศอย่างพริกไทย กานพลู ช่วยเพิ่มความน่าค้นหา ตามด้วยกลิ่นดอกพีโอนี่ ปิดท้ายด้วยกลิ่นอุ่นๆ ของน้ำตาลไหม้ และไวท์มัสก์ ตบท้ายด้วยกลิ่นหญ้าแฝก”
ธุรกิจน้ำหอมนี้ เกิดจากความตั้งใจเกินร้อย
“ติ๊นากับน้องสาวตั้งใจกับน้ำหอมทั้ง 3 กลิ่นนี้มาก เราถึงกับไปหาคนที่ผสมน้ำหอม (เพอร์ฟูมเมอร์) ให้เราเลยละ ทุกอย่างทุกขั้นตอนติ๊นาจะเลือกเองหมด เราชอบกลิ่นแบบนี้ๆ นะ เค้าก็จะผสมให้เรา แต่กว่าจะได้ทั้ง 3 กลิ่นนี้มา ต้องทดลองกันหลายรอบ มากๆ บางครั้งรู้สึกว่ากลิ่นนี้แรงไป ขอลดลงมาหน่อยได้ไหม หรือขอเพิ่มกลิ่นนี้ได้ไหม เรียกว่าเทสต์กันเป็นร้อยรอบ ทดลองกลิ่นกันเกือบปี กว่าจะได้น้ำหอมทั้ง 3 กลิ่นอย่าง First Love , Ma Vie En Rose และ Seductive นี้มา
เราตั้งใจทำน้ำหอมให้มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง อยากให้กลิ่นมีความละมุน มีเลเยอร์ ไม่ใช่น้ำหอมกลิ่นกุหลาบก็กลิ่นกุหลาบไปเลย ติ๊นาใช้น้ำหอมมาเยอะพอสมควร เลยรู้ว่าน้ำหอมต้องประมาณไหน ฉะนั้นความตั้งใจแรกเลยก็คือ อยากทำน้ำหอมที่มีความยูนีค ข้อสองคือ น้ำหอมที่ทำมาต้องมีความละมุน และมีเลเยอร์ของกลิ่นที่ค่อนข้างซับซ้อนอันเป็นเอกลักษณ์ อย่างที่บอกว่า CHRISTINA Eau de Parfum มันเป็น Mood ในแต่ละช่วงเวลาของติ๊นาจริงๆ ที่สำคัญต้องเป็นราคาที่ผู้คนจับต้องได้ในราคา ขวดละ 1,390 บาท เท่ากันทุกกลิ่น ตอนนี้เปิดรับพรีออเดอร์ที่ Line : @tina_beauty , FB : Christina Beauty , IG : Christinabeautyofficial_th และเร็วๆ นี้กำลังจะมีโพรดักส์ใหม่เป็นลิปสติกที่สีค่อนข้างเป็นธรรมชาติ โทนส้ม น้ำตาล และนู้ด ทั้งหมด 10 เฉดสี ออกมาด้วยค่ะ”
‘ความรัก’ ในมุมมองของ คริสติน่า อากีล่าร์
“ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม เป็นแรงผลักดันให้เรามีพลังในการใช้ชีวิต ความรักเป็นสิ่งที่ดี อยู่ที่ว่าเราจะใช้มันในรูปแบบไหน ความรักของติ๊นามีให้ครอบครัว น้องสาว และหลานชายทั้งสองคน ส่วนความรักกับผู้ชายนั้นยังไม่มี แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นนะ ติ๊นาคิดว่าตอนนี้ตัวเองมีความสุขแล้ว เพราะรู้สึกว่าเราต้องการแค่เพื่อนคนเดียวที่เราไว้ใจ ซึ่งติ๊นากับน้องสาวก็เป็นเหมือนเพื่อนที่เราไว้ใจในกันและกันได้
สำหรับหลานชายของติ๊นา (ลูกชายทั้งสองของ เอ๋ เทเรซ่า) ออร์ก้า (คนโตวัย 14 ปี) กับ ฟีนิกซ์ (คนเล็กวัย 11 ปี) สองคนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของคำว่าไม่มีอยากมีลูก (หัวเราะ) ตอนแรกติ๊นาอยากมีลูกมาก แต่หลังจากนั้นพอมีหลาน เราก็รักหลาน เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีลูกแล้ว เราก็ช่วยน้องสาวเลี้ยงหลานสองคนไปเลยดีกว่า คือช่วยเลี้ยงให้เขาเป็นคนดีของสังคม เป็นเด็กที่มีคุณภาพดีกว่า รักมากๆๆ แต่พอออร์ก้าเริ่มโตเป็นหนุ่มก็เริ่มมีโลกส่วนตัว ห้ามกอด ห้ามหอมแก้ม ต่อหน้าเพื่อนๆ เขานะ (หัวเราะ) ติ๊นาว่าเขาคงเริ่มอาย เวลาที่ติ๊นาเห็นหลานๆ ดื้อ ก็แอบนึกในใจว่า ฉันโชคดีมากที่ไม่มีลูก ถ้าฉันมีลูกเอง ฉันต้องทุกข์แน่เลย” (ยิ้ม)
ก่อนจากกัน Dancing Queen ของเรา ฝากถึงแฟนเพลงว่า…“ต้องขอบคุณมากๆ สำหรับความรักที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว รวมถึงการซัพพอร์ตกันมาตลอด 32 ปีที่ทำงานมา ติ๊นารู้สึกว่ามันพิเศษมาก หาที่ไหนไม่ได้อีกเแล้ว ถึงบอกว่าติ๊นาโชคดีมากๆ ที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็มี FC คอยซัพพอร์ต เช่นกันอะไรที่ติ๊นาทำให้ผู้อื่นมีความสุขได้ ติ๊นาก็เต็มใจทำ และจะคอยเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนเช่นกันค่ะ”
** ขอบคุณ สถานที่ : Davin Cafe เกษตร-นวมินทร์