posttoday

คุยหลังไมค์...เคนโด้ ดีเจเทวดาขวัญใจมหาชน

10 มกราคม 2554

ทุกวันนี้คนอีสานยังโดนดูถูกว่าบ้านนอก ไอ้เสี่ยว ไอ้ลาว มันเป็นทัศนคติที่ถูกฝังมานาน จะให้หายไปวันสองวันไม่ได้ เราต้องช่วยกันยกตำแหน่งของลูกอีสานขึ้นไป....

ทุกวันนี้คนอีสานยังโดนดูถูกว่าบ้านนอก ไอ้เสี่ยว ไอ้ลาว มันเป็นทัศนคติที่ถูกฝังมานาน จะให้หายไปวันสองวันไม่ได้ เราต้องช่วยกันยกตำแหน่งของลูกอีสานขึ้นไป....

โดย...อินทรชัย พาณิชกุล

สวัสดีครับ ต้อนรับเข้าสู่รายการลูกทุ่งที่มีคนฟังหลายที่สุด ...ดีเจเทวดา ...บักเคนโด้เด๊อออ !!!!

ทุกๆ เช้าจันทร์ถึงศุกร์ เวลาแปดโมงเศษ ถ้าคุณเปิดวิทยุแล้วหมุนไปที่คลื่นเอฟเอ็ม 94.5 ลูกทุ่งอินเตอร์ ก็จะได้ยินเสียงทักทายเป็นภาษาอีสานดังกังวานสดใส

ใช่แล้ว เขานั่นเอง ดีเจเคนโด้ ชายหนุ่มมาดเตะตากระทืบใจด้วยผมยาวฟูใต้ผ้าคาดสีแจ๋ว สวมผ้าไทย นุ่งโจงกระเบน และรองเท้าบู๊ต ปรากฏตัวพร้อมรอยยิ้มอารมณ์ดี พลางขยับเนื้อขยับตัวเต้นไปตามจังหวะเพลงลูกทุ่งคึกคัก

“ผมก็เป็นของผมแบบเนี้ย ไปไหนมาไหนใครก็มองหาว่ามันบ้าหรือเปล่า”

คุยหลังไมค์...เคนโด้ ดีเจเทวดาขวัญใจมหาชน

เช่นเดียวกับยามนั่งหลังไมค์ โลโก้อันเป็นเอกลักษณ์ของดีเจเคนโด้ ไม่ว่าจะบุคลิกแอ็กโอเวอร์ ปากหมาพูดจาแรง ไทยคำอีสานคำ ปลดปล่อยอารมณ์แบบเต็มเหนี่ยว แถมไม่แคร์คนฟัง ขอเพลงก็ไม่เปิด ให้อ่านเอสเอ็มเอสก็ไม่อ่าน พอโดนท้วงติงก็โดนด่า หนำซ้ำพูดไม่รู้เรื่องมีหวังโดนไล่ไปลงหลุม (ตัดสายทิ้ง)

“ผมพูดตลอดว่า บ่ฟังก็-ซ่างบ่แคร์ ไปไสก็ไป ไปโลด ข่อยเป็นจังซี่ เจ้ารับข่อยบ่ได้ก็บ่ต้องรับ”

กระแสความดังของรายการเพลงลูกทุ่งอินเตอร์ ทำเอาผู้ฟังทุกระดับชั้น ทุกอาชีพ ตั้งแต่คนกวาดขยะ คนขับแท็กซี่ แม่ค้าขายข้าวแกง พนักงานบริษัท นักธุรกิจใหญ่ ดารา นักร้อง นายพล จนถึงนักการเมืองดัง ต่างรอฟังด้วยใจระทึก

จากดีเจหน้าหล่อ-เสียงดีสู่ดีเจหลุดโลก

“สมัยก่อนผมจัดรายการที่คลื่นเวอร์จิ้นนาน 4 ปี ใช้ชื่อ ‘ดีเจทอม’ มาจากชื่อเล่นจริงๆ ของผมว่าต้อม (หัวเราะ) ชีวิตหมดไปกับการเก๊กหล่อ พูดไทยคำอังกฤษคำ เพราะยุคนั้นอาชีพดีเจขายความหล่อ ทำมานานจนเบื่อ ถึงจุดอิ่มตัว ก็เลยทนไม่ไหว เลยใส่ภาษาอีสานในรายการเพลงสตริงเลย แต่ก็ถูกผู้ใหญ่เตือนว่าไม่เหมาะ ทำให้รายการดูโลว์คลาส สุดท้ายก็บีบให้ผมลาออก”

หลังตัดสินใจแน่วแน่ ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำตามเสียงหัวใจเรียกร้อง ดีเจทอมรูปหล่อก็เบนเข็มครั้งใหญ่ โยกมาจัดรายการเพลงลูกทุ่ง นั่นทำให้เขายิ้มให้กับตัวเองเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

“ไม่ห่วงหล่อแล้ว (หัวเราะ) ปล่อยตัวเต็มที่ กินเท่าที่อยากกินไม่กลัวอ้วน ไว้ผมยาว ทิ้งกางเกงยีนส์เสื้อแจ็กเกตมาแต่งตัวแบบไทยประยุกต์ สบายๆ ตลกโปกฮา พูดจาเต็มที่ในแบบที่เป็นตัวเรา เปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามหมด วันหนึ่งชื่อดีเจเคนโด้ก็โผล่ขึ้นมา ทุกคนก็ถามว่ามันคือใคร ไม่มีใครจำเราได้”

จากนั้นก็อย่างที่รู้ๆ กันชื่อดีเจเคนโด้ดังเป็นพลุแตก กลายมาเป็นตัวแรงแห่งวงการดีเจที่ใครๆ ก็เงี่ยหูฟัง

“ไม่มีใครปฏิเสธหรอกว่าตัวเองอยากดัง คนในวงการนี้อยากดังทุกคน มันไม่มีดีเจดี อ่านไม่ดัง ดีเจดังอ่านไม่ดี แต่ผมจะเป็นดีเจที่ดีแล้วก็ดังด้วย” เขาให้สัมภาษณ์ตามสไตล์

เคนโด้ โชว์พาว

จากจุดเริ่มต้น ณ 95.5 เวอร์จิ้นฮิตซ์ เกิดใหม่ที่ 88.5 ลูงทุ่งไทยแลนด์ ก่อนย้ายไปอ่านข่าวที่ 99.5 ร่วมด้วยช่วยกัน 101 วัน เรดิโอ รีพอร์ต วัน จนล่าสุดกับการสร้างชื่อโด่งดังคับเมืองที่คลื่น 94.5 ลูกทุ่งอินเตอร์

คุยหลังไมค์...เคนโด้ ดีเจเทวดาขวัญใจมหาชน

ด้วยวัยเพียง 30 ปี เกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ ดีเจเคนโด้ รับตำแหน่งผู้บริหารคลื่นลูกทุ่งอินเตอร์ในตำแหน่งสเตชัน แมนเนเจอร์ (ผู้จัดการคลื่น)

ผลงานที่ถูกใจโป๊ะเชะจนเกิดกระแสปากต่อปากจนกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ ซึ่งถือเป็นการจัดรายการวิทยุรูปแบบใหม่ของประเทศไทย ซึ่งยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน นั่นคือภารกิจพิชิตความจริง

“เป็นช่วงที่ผมโทร.ไปสืบเอาความลับของชาวบ้าน จะมีผู้ฟังโทร.มาเล่าปัญหาชีวิตให้ฟัง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องความรัก เรื่องครอบครัว ตามหาพ่อแม่ ป่วยเป็นโรคร้ายใกล้ตาย ลูกติดยา อยากทำแท้ง โดนกลั่นแกล้ง มีทุกประเภท ทั้งหมดเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคม เราเปิดให้เขาโทร.มาเล่า แล้วก็ช่วยแนะนำแก้ปัญหาให้”

“หาทางออกไม่ได้ก็มาหาดีเจเทวดาเคนโด้ ก็ไม่รู้ว่าทำไมคนอายุคราวพ่อแม่มาฝากชีวิตไว้กับเรา ตรงนี้ต้องถามคนฟังกลับ ผมไม่กล้าประเมินตัวเอง ไม่คิดว่าสอนใครได้ด้วย แต่เราก็มีศักยภาพของเราแบบนี้ พูดในสิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราเห็น”

ภารกิจพิชิตความจริง เต็มไปด้วยเรื่องราวซาบซึ้งสะเทือนใจ บ้างหัวเราะ บ้างร้องไห้ (คนที่เป็นแฟนรายการคงจะรู้ว่าดีเจเคนโด้เต็มที่เสมอกับอารมณ์ตัวเอง เวลาเรื่องเศร้าก็ร้องไห้ไปกับเขา เวลาสนุกสนานก็หัวเราะเสียงดังจนผู้ฟังตกใจ) กว่า 300 เรื่อง ดีเจเคนโด้บอกว่าเขาพิชิตภารกิจสำเร็จได้ถึง 95% ส่วนน้อยนิดที่เหลือคือปัญหาทางเทคนิคล้วนๆ

“ทุกภารกิจไม่เคยเตี๊ยม ด้นสดๆ ผมไม่เคยตกม้าตายสักครั้ง ไม่ใช่เก่ง แต่ผมถูกฝึกเรื่องของการอิมโพรไวซ์ ไหลลื่น”

สุดยอดเคสประทับใจที่ยังตราตรึงในความรู้สึกของดีเจเทวดาคนนี้ เคนโด้เล่าว่า เคสแรกเป็นเรื่องบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อที่เกิดขึ้นในรายการ เรื่องของนักฟุตบอลรายหนึ่ง คุณพ่อถูกรถชนตาย ผู้ฟังเป็นลูกโทร.มาเล่าด้วยความคิดถึงพ่อ คนฟังต่างกำลังซึ้งสะเทือนใจ จู่ๆ ก็มีสายเข้ามาบอกว่าพี่ชายของเขาเองที่เป็นคนชน ที่ผ่านมายังไม่เคยส่งข้อความขอโทษใดๆ ไปยังครอบครัวนักฟุตบอล จึงถือโอกาสขอขมากลางรายการ สิ้นสุดความค้างคาใจทั้งสองฝ่าย เป็นภารกิจที่ผู้ฟังหลายคนจำได้ไม่มีวันลืม

ส่วนเรื่องอื่นๆ เด็กชายคนหนึ่งเป็นโรคร้ายใกล้ตาย แม้รักษาได้แต่ต้องใช้เงินจำนวนมาก โทร.มาเล่าเรื่องราวชีวิตอันน่าเศร้า เพียงไม่นานหลังออกอากาศ มีผู้ฟังไม่เปิดเผยนาม แสดงความจำนงขอออกค่ารักษาให้เด็กคนนี้ สุดท้ายแล้วเขารอดกลับมามีชีวิตใหม่ราวปาฏิหาริย์

อีกเรื่อง ครอบครัวยากจนครอบครัวหนึ่งโทร.มาเล่าถึงการถวายพระพรในหลวงอย่างน่าประทับใจ ว่าพ่อแม่ลูกขี่ซาเล้งเก่าๆ ไปถนนราชดำเนิน ฝ่าไปถึงเวทีใหญ่ที่กำลังแสดงแสง สี เสียงตระการตา ท่ามกลางรถติดขนัด พวกเขาบอกว่าถึงแม้จะจน ขี่รถเก่าๆ แต่ก็ภูมิใจที่ได้ไปดูไฟและถวายพระพรในหลวง ณ จุดที่ซึ่งคนรวยมหาศาลขับเก๋งคันโตราคาแพงก็ไปไม่ถึง ฯลฯ

“เชื่อมั้ยจัดรายการแรงๆ แบบนี้ ไม่เคยโดนเอสเอ็มเอสด่าเลยสักข้อความ อย่างคำที่ว่า ลากลงหลุม มันเป็นกิมมิกเล็กๆ น้อยๆ หมดเรื่องคุย หรือบางทีคุยไม่รู้เรื่อง พูดคำหยาบ เราก็บอก เอ้า ลากลงหลุมไปเล้ย แล้วตัดสายทิ้ง ...ไม่เห็นจะแรงเลย!”

เบื้องหลังมนุษย์บ้างาน

เบื้องหลังการจัดรายการอย่างดุเดือดเมามัน ชีวิตส่วนตั๊ว-ส่วนตัวของเขานั้นแสนจะเรียบง่าย มีแค่การพักผ่อนกับการออกกำลังกายเท่านั้น
“แฟนมีได้ที่ไหน ไม่มีเวลาให้” เขาบอกเสียงดัง

คุยหลังไมค์...เคนโด้ ดีเจเทวดาขวัญใจมหาชน

“ข่าวฉาวโฉ่เจอบ่อยจนชิน เจอด่าสารพัด เป็นเกย์มั่ง อยากดังมั่ง เหยียบหัวคนอื่นดัง ไม่เคารพผู้ใหญ่มั่ง ผมอ่านหมดเลย อยากรู้ว่าเขาด่าไรบ้าง แต่มันไม่ใช่เรื่องจริงก็เลยไม่แคร์ ผมมีงานต้องทำอีกเยอะ เอาสมองไปทำงานดีกว่าไปรบราฆ่าฟันกับใคร”

จุดเด่นที่หลายคนชื่นชมในตัวเขาอีกอย่างคือสำนึกรักบ้านเกิด ดีเจคนนี้ไม่เคยอายที่จะเรียกว่าตัวเองเป็นลูกอีสาน และยังรณรงค์ให้คนอีสานภูมิใจในความเป็นท้องถิ่นของตัวเอง

“ผมเป็นเคนโด้ทุกวันนี้ได้เพราะความเป็นอีสาน มีชื่อเสียงได้ก็เพราะคนอีสานที่ฟังผม ผมตอบแทนได้ผมต้องตอบแทนพวกเขา”

“ทุกวันนี้คนอีสานยังโดนดูถูกว่าบ้านนอก ไอ้เสี่ยว ไอ้ลาว มันเป็นทัศนคติที่ถูกฝังมานาน จะให้หายไปวันสองวันไม่ได้ เราต้องช่วยกันยกตำแหน่งของลูกอีสานขึ้นไป คนอย่างพวกผมรอดแล้ว (หมายถึงคนอีสานที่มีชื่อเสียงหรือสถานะทางสังคม) แต่ยังมีคนไม่รอดอีกเยอะ คนในชนบท คนที่เข้ากรุงเทพฯ มาขายแรงงานในกรุงเทพฯ เขาเป็นคนดีที่สู้ชีวิต แต่ก็ยังถูกตราหน้าว่าเป็นคนชั้นสองอยู่เสมอ”

ความฝันมหึมาอีกอย่างก็คือการสร้างสโมสรฟุตบอลลูกอีสาน เพื่อดึงดูดมวลชนคนอีสานให้มาสนใจในกีฬา เขาหวังจะใช้กีฬามาเป็นเครื่องมือพัฒนาสังคม

ในฐานะไอดอลคนหนึ่งของคนรุ่นหลัง สิ่งที่คนหลุดโลก ดีเจบ้าๆ คนเพี้ยนๆ ในสายตาสังคมจะฝากทิ้งท้ายว่า

“ตามหาตัวตนให้เจอ มนุษย์เกิดมาเพื่อเรียนรู้ เราต้องรู้ตัวเองให้แตกฉานก่อนว่าเราถนัดอะไร อะไรที่ทำแล้วสบายตัวที่สุด ผมชอบพูดผมก็มาในสายทางที่หาตัวเองจนเจอ นั่นก็คืออาชีพดีเจ ฉะนั้นหมั่นถามตัวเองว่าตัวเองชอบอะไร อยากเป็นอะไร แล้วไปทางนั้นให้สุดโต่ง อย่ากั๊ก ไปให้สุดตัว แล้วคุณจะเจอความสนุกสนานในชีวิตอีกมากมาย”

นี่แหละตัวตนแท้จริงของเขาล่ะ ดีเจเคนโด้ คนเดียวกับที่มิตรรักคนฟังพร้อมใจกันเรียกว่าดีเจเทวดา

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ วูล์ฟ พรีเมียร์ลีก วันนี้ 13 ธ.ค.68