posttoday

โมซัมบิกเมืองท่าแห่งแอฟริกาตอนใต้

01 มกราคม 2554

โลก 360 องศา กลับมาที่ทวีปแอฟริกาอีกครั้งหนึ่ง แผ่นดินกาฬทวีปแห่งนี้ยังมีประเทศชื่อไม่คุ้นหูอยู่อีกมาก และประเทศโมซัมบิก (Mozambique)

โลก 360 องศา กลับมาที่ทวีปแอฟริกาอีกครั้งหนึ่ง แผ่นดินกาฬทวีปแห่งนี้ยังมีประเทศชื่อไม่คุ้นหูอยู่อีกมาก และประเทศโมซัมบิก (Mozambique)

โดย...ปวีณา สิงห์บูรณา

 

โมซัมบิกเมืองท่าแห่งแอฟริกาตอนใต้

โลก 360 องศา กลับมาที่ทวีปแอฟริกาอีกครั้งหนึ่ง แผ่นดินกาฬทวีปแห่งนี้ยังมีประเทศชื่อไม่คุ้นหูอยู่อีกมาก และประเทศโมซัมบิก (Mozambique) ก็คงจะเป็นหนึ่งในนั้น สำหรับใครหลายๆ คน

สาธารณรัฐโมซัมบิก ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา บนชายฝั่งด้านตะวันออก มีขนาดพื้นที่ใกล้เคียงกับประเทศตุรกี หรือใหญ่กว่าไทยประมาณ 1.5 เท่า โดยมีพรมแดนด้านทิศต่างๆ อยู่ติดกับประเทศอย่าง สวาซิแลนด์ แอฟริกาใต้ ซิมบับเว แซมเบีย มาลาวี และแทนซาเนีย ส่วนทิศตะวันออกทั้งหมดหันหน้าออกสู่มหาสมุทรอินเดีย โดยเป็นแนวชายฝั่งที่ยาวถึง 2,700 กิโลเมตร ซึ่งหากดูในแผนที่โลกจะเห็นว่าอยู่ตรงข้ามกับเกาะมาดากัสการ์ และเรียกพื้นที่ทะเลระหว่างสองประเทศนี้ว่า ช่องแคบโมซัมบิก

ประชากรราว 21 ล้านคนของโมซัมบิก ประกอบด้วยชนพื้นเมืองหลายเผ่าพันธุ์ นอกจากนี้ ก็ยังมีชาวยุโรปที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยอาณานิคม รวมทั้งคนจากเอเชียใต้ โดยเฉพาะชาวอินเดีย ประชากรส่วนใหญ่นั้นนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก รองลงมาก็ได้แก่ศาสนาอิสลาม และใช้ภาษาโปรตุกีสเป็นภาษาราชการ เนื่องจากว่าโมซัมบิกเคยอยู่ภายใต้การปกครองของโปรตุเกสนั่นเอง

เราเดินทางมายังเมืองหลวงของโมซัมบิกที่มีชื่อว่า กรุงมาปูโต (Maputo) และใช้เวลาถ่ายทำรายการกันอยู่ที่นั่น

โมซัมบิกเมืองท่าแห่งแอฟริกาตอนใต้

จากกรุงเทพฯ ทีมงานโลก 360 องศา ใช้บริการของการบินไทย บินไปลงที่เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งการบินไทยจะมีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไปโจฮันเนสเบิร์กสัปดาห์ละ 4 ไฟลต์ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง จากนั้นก็ค่อยต่อเครื่องบินจากโจฮันเนสเบิร์กไปยังกรุงมาปูโตโดยใช้เวลาอีกราวชั่วโมงครึ่ง นับว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายทีเดียว

กรุงมาปูโตตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ เป็นเมืองท่าที่สำคัญบนชายฝั่งมหาสมุทรอินเดีย และเป็น Melting Pot ที่หลอมรวมวัฒนธรรมอันหลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมรากฐานอย่างบันตูและโปรตุกีส ไปจนถึงอิทธิพลจากวัฒนธรรมอาหรับ อินเดีย และจีน และแน่นอนว่า ด้วยความที่อยู่ใกล้ชิดติดกับประเทศพี่ใหญ่ในภูมิภาคอย่างแอฟริกาใต้เช่นนี้ ก็ย่อมจะได้รับอิทธิพลในด้านต่างๆ จากที่นั่นมาไม่น้อยเช่นกัน

 

ย้อนกลับไปในอดีต ชายฝั่งโมซัมบิกเป็นชุมชนทางทะเลของพ่อค้าชาวอินเดีย อาหรับ และเปอร์เซีย มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 โดยเป็นชุมทางการค้าทาส งาช้าง ทองคำ และเครื่องเทศ มีการสร้างครอบครัวลงหลักปักฐานของพ่อค้ามุสลิม ซึ่งแต่งงานกับหญิงแอฟริกันท้องถิ่น และชาวยุโรปกลุ่มแรกที่เดินทางมาถึงโมซัมบิกก็ได้แก่ชาวโปรตุเกส ซึ่งผู้ที่ได้ชื่อว่าค้นพบดินแดนแห่งนี้ในปี ค.ศ. 1498 ก็คือ วาสโก ดา กามา นั่นเอง ต่อมาไม่นาน คือในปี ค.ศ.1505 โมซัมบิกก็ตกเป็นอาณานิคมของโปรตุเกส ก่อนที่จะได้รับเอกราชอีกครั้งในปี 1975 รวมระยะเวลาที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของโปรตุเกสทั้งสิ้น 470 ปีด้วยกัน

ผู้นำคนสำคัญของชาวโมซัมบิกในการต่อสู้ปลดแอกจนได้รับอิสรภาพนั้นก็คือ ซาโมรา มาเชล (Samora Machel) แห่งกลุ่มแนวร่วมเพื่อการปลดปล่อยโมซัมบิก หรือ Frelimo (The Front for the Liberation of Mozambique) ซึ่งใช้ความรุนแรงในการต่อต้านรัฐบาลโปรตุเกส โดยหลังจากที่ประสบชัยชนะและประกาศเอกราชแล้ว Frelimo ก็ได้กลายเป็นพรรครัฐบาล และซาโมรา มาเชล ก็ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนแรกของประเทศโมซัมบิก

รัฐบาลใหม่ของซาโมรา มาเชล ใช้นโยบายการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างรุนแรง (Radical Social Change) ปกครองประเทศแบบสังคมนิยม เขาทำหน้าที่นำพาประเทศจวบจนกระทั่งเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำในอุบัติเหตุเครื่องบินตกเมื่อปี 1986 (ต่อมาอีก 12 ปี ภริยาม่ายของประธานาธิบดี ซาโมรา มาเชล คือ นางกราซา มาเชล (Graca Machel) ก็ได้สมรสกับประธานาธิบดี เนลสัน แมนเดลา แห่งแอฟริกาใต้ เป็นการแต่งงานครั้งที่ 3 ของเนลสัน แมนเดลา ในวัย 80 ปี ณ ตอนนั้น ซึ่งทำให้นางกราซา มาเชล กลายเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในโลกที่ได้เป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศถึงสองประเทศด้วยกัน)

ทว่าผลพวงที่ตามมาหลังโมซัมบิกปกครองตนเองได้เพียงแค่ 2 ปี ก็คือ สงครามกลางเมือง ซึ่งปะทุขึ้นในปี 1977 อันเกิดจากการถูกแทรกแซงการเมืองภายในประเทศโดยค่ายเสรีตะวันตกในช่วงสงครามเย็น และเกิดการสู้รบกันเองภายในประเทศยาวนานถึง 15 ปี ก่อนที่จะสงบลงในปี 1992 หรือเมื่อ 18 ปีมานี้เอง

โมซัมบิกเมืองท่าแห่งแอฟริกาตอนใต้

ภายหลังการเสียชีวิตของซาโมรา มาเชล ผู้ที่ได้ขึ้นเป็นผู้นำประเทศแทนก็คือ โจอาควิม ชิสซาโน (Joaquim Chissano) ซึ่งได้เปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจจากมาร์กซิสม์เป็นเศรษฐกิจการตลาด และได้นำพาประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยเต็มตัว ด้วยการจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปและการเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นครั้งแรกของโมซัมบิกในปี 1994 ซึ่งก็ปรากฏว่า โจอาควิม ชิสซาโน ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสองสมัยติดต่อกัน นอกจากนี้ ในปี 1995 โมซัมบิกยังได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกประเทศในเครือจักรภพ (Commonwealth of Nations) โดยนับเป็นสมาชิกที่ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษมาก่อนรายแรก

 

หลังเสร็จสิ้นสงครามกลางเมือง ในขณะนั้นโมซัมบิกจัดว่าเป็นประเทศที่มีรายได้ต่ำ ยากจน แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูประเทศ มีเสถียรภาพทางการเมืองมากขึ้น เกิดภาวะความปรองดองในชาติ และมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงประเทศหนึ่งในภูมิภาค

ด้านความสัมพันธ์กับไทยเรานั้น ไทยและโมซัมบิกได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2532 (1989) ส่วนปริมาณการค้าระหว่างกันยังมีไม่มากนัก แต่คาดการณ์ว่ามีโอกาสจะขยายตัวต่อไปในอนาคต โดยสาขาความร่วมมือที่ไทยประสงค์จะผลักดัน ได้แก่ อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ อุตสาหกรรมการประมง อุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง สินค้าและวัตถุดิบสำหรับการก่อสร้าง ธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูป และความร่วมมือด้านสาธารณสุข (การจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์ การถ่ายทอดองค์ความรู้)

ขณะที่โมซัมบิกเองนั้นก็ต้องการที่จะดึงดูดนักลงทุนไทยให้เข้าไปลงทุนหรือร่วมทุน รวมทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์และถ่ายทอดเทคโนโลยีเช่นกัน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเลและการสำรวจก๊าซธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังประสงค์ที่จะได้รับความร่วมมือทางวิชาการจากไทย โดยเฉพาะด้านการเกษตรและด้านสาธารณสุข (ป้องกันรักษาโรคมาลาเรีย โรคเอดส์)

ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจและทำความรู้จักกับประเทศโมซัมบิกให้มากขึ้นได้ทางรายการโลก 360 องศา เสาร์นี้ 3 ทุ่มครึ่ง ททบ.5

 

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บีจี ปทุม พบ เมืองทอง ฟุตบอลไทยลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68