นริศรา ศรีสันต์ กับความฝันบนเส้นทางมายา

ชื่อและหน้าตาของสาวสวย นริศ-นริศรา ศรีสันต์ คงเริ่มเป็นที่คุ้นหูและคุ้นตาของใครหลายคนบ้างแล้ว เพราะเธอเพิ่งมีผลงานบนจอเงินอย่างน้ำตาลแดง2

เรื่อง : กาญจนา เตชาวัฒนากูล / ภาพ : ณัฏฐ์ฐิติ อำไพวรรณ

ชื่อและหน้าตาของสาวสวย นริศ-นริศรา ศรีสันต์ คงเริ่มเป็นที่คุ้นหูและคุ้นตาของใครหลายคนบ้างแล้ว เพราะเธอเพิ่งมีผลงานบนจอเงินที่เป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ของสังคมไทย อย่าง “น้ำตาลแดง 2” (นริศร่วมแสดงในตอนทฤษฎีบนโต๊ะอาหาร) ที่ลาโรงไปไม่นาน บางคนเรียกเธอว่าเป็นนักแสดงหน้าใหม่ใจถึง เพราะเพิ่งเข้ามาวงการนี้ไม่นาน แต่เธอก็กล้ารับบทอีโรติกที่ออกจะแรงในความรู้สึกของนักดูหนังชาวไทย อีกหลายคนมองว่าเธอเป็นสาวสวยเซ็กซี่ แต่สำหรับตัวเธอเองแล้ว นริศบอกว่าเธอห่างไกลจากความเป็นผู้หญิงเซ็กซี่ ออกจะติดแนวสาวห้าวเสียด้วยซ้ำ

“บุคลิกจริงของนริศจะเป็นคนออกแนวห้าวๆ ลุยๆ ค่ะ ไม่เคยคิดว่าตัวเองเซ็กซี่เลย เพื่อนที่รู้จักกันดีเวลาเห็นเราถ่ายแบบหนังสือออกแนวเซ็กซี่หน่อย เขาก็ยังพูดเลยว่านี่ไม่ใช่เรา” เธอบอกว่า “เราไม่ได้กลัวหรอกค่ะว่าคนจะติดภาพในหนังอีโรติก

นริศมองว่าส่วนหนึ่งมันก็คือการแสดง ไม่ใช่ตัวตนเราจริงๆ แน่นอนว่าหลังจากเล่นหนัง ก็จะมีงานแนวๆ นี้เสนอเข้ามาเยอะขึ้น แต่เราก็จะสกรีนก่อน ถ้ามากเกินไป เราก็คงไม่ทำ อย่างเวลาแสดงหนังเราก็ต้องคุยกับผู้กำกับให้ขาดเลยว่าเราเล่นได้ในระดับไหน แบบไหนที่ไม่ได้ จะได้ไม่มีปัญหากันทีหลังค่ะ”

นริศเล่าให้ฟังว่า เธอสนใจวงการแสดงมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ถึงแม้ตอนที่สอบเข้าจะเลือกเรียนวิชาเอกเคมี แต่หลังจากเข้าร่วมชมรมและทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้นแล้ว เธอรู้สึกว่าการแสดงและภาพยนตร์คือสิ่งที่เธอสนใจมากที่สุด

“ตอนที่เลือกเรียน เราก็ทำตามความต้องการของทางบ้านมากกว่า แต่พอได้เข้ามาทำกิจกรรมชมรมแล้ว รู้สึกว่านี่คือสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ ตอนนั้นได้ทำหลายอย่าง ทั้งเขียนบท กำกับ และเป็นนักแสดงด้วยค่ะ เลยมุ่งเป้ามาทางนี้โดยตลอด”

การเข้ามาเป็นนักแสดงของนริศนั้น ไม่รู้เรียกได้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า เพราะหลังจากที่รู้ตัวแล้วว่าอยากจะเป็นนักแสดง เจ้าตัวก็เลยไปร่วมประกวดในหลายๆ เวที เพื่อกรุยทางเข้าสู่วงการ แต่ก็ไม่เรียกว่าประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก โอกาสที่ทำให้เธอได้เข้ามาทำงานจริงๆ กลับเป็นช่วงที่เธอไปทำงานพิเศษระหว่างปิดภาคเรียนที่โรงหนังแห่งหนึ่ง

“ตอนนั้นเรากำลังทำงานอยู่ที่โรงหนัง ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาถามว่า ทำไมมาทำงานอยู่ตรงที่เก็บตั๋ว ทำไมไม่ไปเล่นหนัง ตอนนั้นเราก็งงๆ เลยตอบไปว่า ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงค่ะ แล้วผู้ชายคนนั้นก็เดินหายไปสักพัก แล้วกลับมาพร้อมกับเศษกระดาษในมือที่เขียนเบอร์โทรศัพท์และชื่อของพี่ปื๊ด-ธนิตย์ จิตนุกูล แล้วบอกให้โทร.ไปหา ตอนแรกเราก็ไม่กล้า เพราะไม่รู้ว่าจะโดนหลอกหรือเปล่า ก็นอนคิดอยู่หลายวัน จนสุดท้ายก็โทร.ไป คุยกันทีแรกพี่ปื๊ดก็งงๆ ว่าเราเป็นใคร ก็เลยเล่าให้เขาฟังว่าได้เบอร์มายังไง แล้วเราสนใจเรื่องการแสดง แล้วพี่เขาก็เลยนัดไปเจอและคุยกัน...จริงๆ จนป่านนี้นริศก็ยังไม่รู้เหมือนกันเลยค่ะว่าคนที่เอาเบอร์พี่ปื๊ดมาให้เป็นใคร แต่ก็รู้สึกขอบคุณจริงๆ

หลังจากพบพี่ปื๊ดและคุยกันจริงจัง เขาก็สนใจ เลยให้เราไปลองแคสติงงานหนังที่เขากำกับอยู่ ก็ลองหลายเรื่องค่ะ จนสุดท้ายมาได้บทในหนังเรื่อง “วังผีเสื้อ” ซึ่งเป็นหนังอีโรติกสยองขวัญ และเรารับบทเป็นทอม” นริศ เล่า

“ที่จริงเรื่องวังผีเสื้อถือเป็นหนังเรื่องแรกที่เล่น แล้วถึงได้มารับบทเอิร์นในน้ำตาลแดง 2 แต่วังผีเสื้อยังไม่ได้มีโอกาสออกฉาย คนก็เลยจะคิดว่าน้ำตาลแดง 2 เป็นผลงานชิ้นแรกของเรา

ถึงจะเป็นหนังอีโรติกเหมือนกัน แต่ความยากมันก็ไม่เหมือนกัน เรื่องแรกเรารับบทเป็นทอม เราก็ต้องสร้างความรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชาย แต่การเข้าบทกับนักแสดงผู้หญิงด้วยกันมันก็ไม่ยากมาก ช่วยกันเซฟได้ แต่เรื่องหลังเราก็ต้องเล่นในฐานะที่เป็นผู้หญิง และเหตุผลอะไรที่ทำให้เราทำแบบนั้น เวลาเข้าบทเราก็ต้องใช้สมาธิในการแสดงสูง เพราะอยากให้มันผ่านโดยเทกน้อยที่สุด”

ถามว่านอกเหนือจากบทอีโรติกที่ผ่านมาถึง 2 เรื่องแล้ว บทแบบไหนที่เธออยากแสดง นริศบอกว่า อยากแสดงบทบู๊ เพราะดูจะได้ใช้ความสามารถในหลายๆ ด้าน แล้วเธอเชื่อว่าช่างเข้ากั๊นเข้ากันกับบุคลิกของเธอ

ใครที่ติดใจการแสดงของนริศจากทฤษฎีบนโต๊ะอาหาร ก็คงจะดีใจที่มีข่าวแว่วมาว่า หนังเรื่องวังผีเสื้อ (อาจจะ) ได้ฤกษ์ลงโรงในช่วงต้นปีหน้า และเธอกำลังอยู่ในระหว่างถ่ายหนังผีเรื่อง “ห้องเย็น” และกำลังจะมีผลงานกำกับหนังสั้นในช่วงปีหน้าด้วย แต่รายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้

นริศพูดถึงความใฝ่ฝันในวงการบันเทิงของเธอว่า “ตอนนี้อยากจะเป็นนักแสดงที่ดีมีคุณภาพค่ะ แล้วสเต็ปต่อไปเราอยากก้าวไปเป็นผู้กำกับหนัง แต่ที่อยากทำมากที่สุด ก็คือการเป็นโปรดิวเซอร์ค่ะ เพราะเท่าที่มีประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมาจากการทำหนังสั้น เรารู้สึกว่าเราชอบงานด้านโปรดิวซ์ แต่ในวงการนี้ก็คงต้องสะสมประสบการณ์ไปอีกสักพักใหญ่ค่ะ ก็คงจะค่อยๆ ไต่ขึ้นไปจากการเป็นนักแสดงก่อน”

5 ชิ้นสไตล์นริศ

ถึงจะมีภาพลักษณ์ของผู้หญิงเซ็กซี่ แต่นริศบอกว่าปกติแล้วเธอเป็นคนแต่งตัวเรียบร้อยและค่อนข้างมิดชิด สไตล์การแต่งตัวของเธอนั้น ออกจะติดแนวห้าวๆ ตามนิสัยมากกว่าจะเป็นสาวหวานหรือเปรี้ยว ชอบอะไรที่เรียบง่าย ใส่แบบชิ้นเดียวจบได้ก็ยิ่งชอบ

แว่นกันแดด – เป็นคนติดการใส่แว่นกันแดดค่ะ เพราะตาจะสู้แสงจ้าไม่ค่อยได้ ไปไหนต้องมีพกติดตลอด ไม่เกี่ยงแบรนด์ ขอแค่ใส่แล้วดูดีเข้ากับเสื้อผ้าก็พอ

นาฬิกาข้อมือ – เรือนนี้เพื่อนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อหลายปีมาแล้ว ชอบเพราะมันจะเล็กๆ บางๆ และใส่กับเสื้อผ้าได้หลายแบบ เมื่อก่อนจะเป็นคนชอบใส่นาฬิกาข้อมือใหญ่ๆ แบบผู้ชาย แต่พอได้เรือนนี้มาแล้วรู้สึกว่าเล็กๆ ก็เบาดีและดูดีด้วยค่ะ

โทรศัพท์ไอโฟน – เอาไว้ติดต่องานและเช็กเมลได้สะดวกทุกที่ค่ะ

กระเป๋าถือ มาร์ค บาย มาร์ค เจค็อบส์ – ปกติเป็นคนไม่ซื้อกระเป๋าถือหลายใบ จะชอบเลือกอะไรที่สามารถประยุกต์ใช้ได้เยอะ เพราะเป็นคนไม่ค่อยชอบความยุ่งยากในการแต่งตัวค่ะ ชอบกระเป๋าใบนี้ เพราะทั้งสีและทรงเข้าได้กับเสื้อผ้าเกือบทุกชุด และไปได้เกือบทุกงาน

กำไลข้อมือ – กำไลชิ้นนี้มีคนซื้อมาฝากจากอังกฤษ ชอบเพราะดีไซน์เก๋และแปลกดี ทำเป็นรูปวงแหวนโมบิอุส ที่บิดคนละด้านให้มาชนกัน แล้วจะไม่มีด้านหน้าและด้านหลัง บนตัวกำไลยังมีข้อความเป็นเหมือนบทกลอนหรือมนต์โบราณเขียนไว้ด้วยค่ะ เลยกลายเป็นเครื่องประดับสุดโปรด