เคาะแล้ว 10 ฉายาดาราประจำปี 2564 แซ่บซี้ดทุกชื่อ!

แน่นอนว่าเป็นประจำของทุกช่วงสิ้นปีที่ทาง “สมาคมนักข่าวบันเทิง” จะร่วมด้วยช่วยกันโหวตตั้งฉายาให้กับดาราไทย โดยเลือกจากข่าวของดาราที่ได้รับความสนใจมากในช่วงปีที่ผ่านมา ส่วนจะมีดาราคนไหนบ้างที่ได้เกียรติรับฉายาประจำปี 2564 มาดูกันเลยดีกว่า

1. “ลิซ่า BLACKPINK” ฉายา “เทพธิดาลูกชิ้นยืนกิน 300 ล้านวิว”

- สาว “ลิซ่า BLACKPINK” หรือ “ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล” ที่ได้ออกมาพูดผ่านในรายการ วู้ดดี้โชว์ ถึงเมนูอาหารจานโปรด ลูกชิ้นยืนกิน ซึ่งมีหน้าร้านตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟบุรีรัมย์ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ และจากนั้นเพียงแค่ชั่วข้ามคืน ร้านลูกชิ้นยืนกินที่ ลิซ่า พูดถึงก็ขายดิบขายดีเป็นที่พูดถึงของคนทั้งประเทศ แถมยังปลุกกระแสเศรษฐกิจในจังหวัดบุรีรัมย์ให้กับมาคึกครื้นได้อีกครั้ง นั่นจึงเป็นที่มาของฉายา ลิซ่าเทพธิดาลูกชิ้นยืนกิน 300 ล้านวิว

2. “เวียร์ -เบลล่า” ฉายา “ปิดตำนานคู่รักข้ามช่อง”

- ทำเอาแฟนคลับช็อกเมื่อคู่รักข้ามช่องที่คบกันมาเกิน 9 ปี “เวียร์ ศุกลวัฒน์” กับ “เบลล่า ราณี” ที่อีกไม่กี่วันก็จะครบ 10 ปี ได้ออกมาประกาศว่าได้ปรับสถานะกันเหลือแค่พี่น้อง โดยไม่มีมือที่สาม และตอนนี้ทางหนุ่ม “เวียร์” ก็มูฟออนมีคนคุยใหม่แล้ว

3. “หนุ่ม กรรชัย” ฉายา “หนุ่มโหน กัด เสียว”

- “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” อดีตนักแสดงชื่อดังผันตัวเองมาเป็นพิธีกร ที่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะรายการ โหนกระแส หนุ่มเป็นคนที่พูดตรงไปตรงมา ผิดก็ว่าไปตามผิด อาจจะมีจิกกัดบ้าง แต่ยังช่วยทั้งสองฝ่ายประนีประนอมกัน แขกรับเชิญตามกระแส มาออกรายการ เป็นเหตุให้เสียว เพราะเป็นรายการสดๆ แขกบางคนใช้คำที่ไม่สุภาพออกมากลางรายการ จึงเกิดวลีฮิตว่า “ป้าพูดได้มั้ย” ช่วงหลังๆทำให้คุณหนุ่มและคนดูลุ้นแบบเสียวๆว่าจะมีคำที่ไม่สุภาพออกมามั้ย? จากแขกรับเชิญ

4. “ใหม่ ดาวิกา” ฉายา “วันทองครองใจ”

- หลังจากที่ละครเรื่อง วันทอง ได้ออกอากาศไปเมื่อต้นปี 2564 ทำให้กระแสวันทองครองใจคนดูทั่วประเทศ เพราะบทในเรื่องโดนใจคนดู ทำให้มองว่าวันทองไม่ใช่หญิงสองใจ ที่สำคัญวันทองเวอร์ชั่นนี้ยังสวยทะลุจออีกด้วย ทำให้สาว “ใหม่” ครองใจคนทั้งประเทศ ยอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมพุ่งถล่มทลาย

5. “แต้ว ณฐพร” ฉายา “เจ้าแม่กักตัว แต่ไม่กักหัวใจ”

-  ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา หลายคนต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบาก หากใครมีความเสี่ยงสูงใกล้ชิดคนใกล้ตัวก็จะต้องกักตัว ซึ่งสาวแต้วมักจะมีชื่ออยู่ในกลุ่มเสี่ยงตลอด แต่ก็รอดตัวไม่ติดเชื้อทุกครั้ง แถมยังเผยรักครั้งใหม่ในช่วงโควิด-19 อีกด้วย จึงเป็นที่มาของฉายานี้

6. “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ” ฉายา “เจ้าสาวมือปราบ”

- ตามที่สาว “จั๊กจั่น” เป็นข่าวใหญ่กับอดีตผู้จัดการส่วนตัวที่เคยร่วมงานกันมา 15 ปี ทำให้เธอและครอบครัวของแฟนเสียหาย จึงเกิดการฟ้องร้องมีคดีความขึ้น ลามไปถึงเพื่อนรักในวงการอย่างสาว น. ที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลตามไปด้วย ในขณะที่สาวจั๊กจั่นก็กำลังจะแต่งงาน จึงเป็นที่มาของฉายาดังกล่าว

7. “โบว์-อาเล็ก” ฉายา “มนต์รักบางกระเจ้า”

- เมื่อทั้งคู่ควงกันไปถ่ายรายการยูทูบของฝ่ายชายที่บางกระเจ้า แถมยังมีโมเมนต์น่ารัก ๆ มาฝากแฟนก็ทำเอาหลายคนจิ้นฟินกระจาย จากคู่จิ้นกำลังจะกลายเป็นคู่จริงขึ้นมาแล้ว เพราะจากการสัมภาษณ์ความรู้สึกของทั้งคู่ ก็มีเขินๆ กันอยู่

8. “แพท ณปภา” ฉายา “แม่นางสับขาหลอก”

-  ทำเอาแฟนๆ งงกันไปทั้งบาง หลังจากที่นักแสดงสาว “แพท ณปภา” ประกาศเลิกรากับแฟนหนุ่มรุ่นน้อง และครองตัวเป็นโสดมาได้สักพัก จนกระทั่งมาเป็นข่าวกุ๊กกิ๊กกับนักร้องหนุ่ม “ปอ อรรณพ” ที่ทำงานพิธีกรร่วมกัน ซึ่งก็มีแฟนๆ หลายคนเชียร์ให้ทั้งคู่คบกันจริงๆ เพราะดูเคมีเข้ากันมาก แต่เรื่องราวกลับตาลปัตร เพราะในคืนวันลอยกระทง “แพท” ก็ได้ออกมาเปิดตัวหนุ่มรู้ใจคนใหม่อย่าง “นาย ณภัทร” ตำรวจหนุ่มรูปหล่อ ที่แม้ตอนแรกจะมีการงอนกันนิดหน่อย แต่ตำรวจหนุ่มก็หอบดอกไม้ช่อใหญ่ตามง้อสำเร็จ จนทุกวันนี้เป็นแฟนกันเรียบร้อยแล้ว

9. “ดิว อริสรา” ฉายา “คู่รักพลุแตกผิดเวลาหมากระเจิง”

- จากประเด็นดราม่าที่นักแสดงสาว “ดิว อริสรา” ถูกแฟนหนุ่มทำเซอร์ไพรส์วันเกิดด้วยการจุดพลุฉลองริมน้ำโรงแรมในพื้นที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ทำชาวบ้านละแวกนั้นตกใจเสียงพลุที่ดังสนั่นหวั่นไหวในช่วงกลางดึก จนน้องหมาน้องแมววิ่งกระเจิง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้สาว “ดิว” ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จึงเป็นที่มาของฉายา คู่รักพลุแตกผิดเวลาหมากระเจิง

10. “ครูไพบูลย์ แสงเดือน” กับ “เอ๋ มิรา” ฉายา “ศึกจ้วดจ้าดฟาดไม่ยั้ง”

- ต้องบอกว่าประเด็นมหากาพย์ดราม่าที่ชาวเน็ตให้ความสนใจอย่างมาก จากกรณีที่นักร้องสาว “กระต่าย พรรณนิภา” ออกมายอมรับว่ากำลังตั้งท้องกับ “ครูไพบูลย์” เจ้าของค่ายเพลง จ้วดจ้าด สตูดิโอ ลามไปถึงที่มีชาวเน็ตขุดเรื่องราวของอดีตภรรยาสาว “เอ๋ มิรา” จนได้ไปออกรายการ โหนกระแส และมีการพูดพาดพิงถึงอดีตสามี ทำให้ “ครูไพบูลย์” ฟ้องหมิ่นประมาทเรียกเงิน 1 ล้านบาท แต่ฝั่งสาว “เอ๋” ก็ฟ้องกลับข้อหาพรากผู้เยาว์ และแบ่งสมบัติอีก 20 ล้าน ซึ่งตอนนี้คดีก็ยังคาราคาซังอยู่ในชั้นศาล