สาวอดีตผู้ป่วยมะเร็งสร้างสถิติว่ายน้ำทะเล10ชม.

เมื่อเวลา 05.30 น.วันที่ 15 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหาดริ้น ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี นางวิศรุตา ฟอร์ซ็อง (นิคกี้) หรือครูกี้ อายุ 45 ปี อดีตผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ได้ลงว่ายน้ำเดี่ยวมาราธอนพิชิต 25.7 กิโลเมตร(16ไมล์ทะเล) จากหาดริ้นไปยังหาดโฉลกหลำ ทำลายสถิติ " ว่ายสู้มะเร็ง "รณรงค์การใช้ชีวิตด้วยหลัก 3 อ. และส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะพะงัน เส้นทางผ่านหาดยวน, หาดเทียน, หาดธารเสด็จ, หาดท้องนายปาน, หาดขวด โดยมีอำเภอเกาะพะงัน ผู้นำท้องถิ่น โรงพยาบาลเกาะพะงัน นำเรือดูแลความปลอดภัยเนื่องจากเป็นการว่ายน้ำต่อเนื่องร่วม 10 ชั่วโมงไม่มีการพัก มีเพียงการให้น้ำให้อาหารระหว่างการว่าย

นางวิศรุตา หรือครูกี้ กล่าวว่า เคยป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แพทย์ได้วินิจฉัยว่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 8 เดือน จึงเกิดแรงบันดาลใจปรับเปลี่ยนชีวิตดูแลตัวเองด้วยสูตร 3 อ.คือ เลือกกินอาหาร ควบคุมอารมณ์และออกกำลังกาย เพื่อพยายามที่จะมีชีวิตอยู่และท้าทายร่างกายโดยการลงแข่งขันไตรกีฬาหลายครั้ง ซึ่งล่าสุดได้ร่วมกิจกรรมว่ายน้ำข้ามช่องแคบเกาะสมุย ระยะทาง 12 กิโลเมตร เป็นการว่ายน้ำข้ามเกาะระยะทางยาวที่สุดในประเทศไทยเพื่อนำรายได้ช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย

“ที่เลือกมาว่ายน้ำที่เกาะพะงันเพราะหลงรักเกาะพะงัน หลงรักวิถีชาวพะงันในความมีน้ำใจของผู้คนที่นี่คือเสน่ห์ของเกาะพะงันรวมทั้งธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ เป็นการผสมผสาน ความหลากหลายและอยากให้ทุกคนเห็นอีกด้านของเกาะพะงัน?โดยเฉพาะความงดงามของอีกซีกเกาะที่ยังมีธรรมชาติอยู่มาก”นางวิศรุตา กล่าว

ข่าวแจ้งว่า นางวิศรุตา หรือครูกี้ ใช้การว่ายน้ำแบบ"free immersion swimming" เพื่อบำบัดโรคทางกาย และโรคทางจิต มีผลโดยตรงต่อการลดอัตราการเต้นของหัวใจให้เต้นช้าลง และลดระดับค่าความดันเลือดให้ต่ำลงตามมาโดยไม่ใช้ยาเคมีใดๆ เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2563ได้ลงแข่งขันว่ายน้ำ"Cold Half Extream Ultra Swim Mathon Hong Kong 15 Km." ถูกบันทึกเป็นคนไทยคนแรกที่พิชิตงานว่ายน้ำที่ยากที่สุดในเอเซียได้สำเร็จ ซึ่งเป็นงานว่ายน้ำที่ยากที่สุดในเอเซียในน้ำเย็นจัด 17 องศาว่ายข้าม 12 อ่าว จาก stanley bay - replus bay โดยไม่ใส่ wet sutie และไม่ใช้อุปกรณ์ประครองชีพใดๆ ใช้เวลาว่ายทั้งสิ้น 6.35 ชั่วโมง ซึ่งที่เกาะพะงัน ได้จัดกิจกรรมสอนการว่ายน้ำแบบ “ Free immersion swimming “ ให้กับชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพ , บุคคลากรสาธารณสุข ,ผู้ประกอบการรีสอร์ทเกาะพงัน และบุคคลากรบริหารเกาะพงัน เพื่อนำไปเผยแพร่ให้ประชาชนบนเกาะพะงันต่อไป