posttoday

แซยิด “น.นพรัตน์” 6 ทศวรรษมังกรแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา

25 พฤศจิกายน 2553

เรื่อง   :  ปอย    ภาพ  :  วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

เรื่อง   :  ปอย    ภาพ  :  วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

คอหนังสือกำลังภายในไม่มีใครไม่รู้จัก น. นพรัตน์ และเมื่อเร็วๆ นี้เอง หมู่มิตรสหายในแวดวงบรรณภิภพก็ถือเป็นโอกาสได้มาพบปะฉลองกันพร้อมหน้าอีกครั้ง ในงาน แซยิด 60 ปี “น.นพรัตน์”ทศวรรษมังกรแห่งเจ้าพระยา ฉลองอายุครบ 5 รอบ  ณ ห้องบอลรูม 1 ชั้น 3 โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ รัชดาฯ โดยหมู่มิตรสหายร่วมแสดงความยินดีกันพร้อมหน้าพร้อมตา อาทิ สมิต มานัสฤดี บรรณาธิการอาวุโส หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มากับคอลัมนิสต์ชื่อดังของไทยรัฐ  “ซูม” สมชาย กรุสวนสมบัติ  “กิเลนประลองเชิง” ประกิต หลิมสกุล  แสงเพชร เสนีย์บดินทร์ นักเขียนรุ่นใหญ่เจ้าของผลงานเรื่อง 7 พระกาฬ และตัวแทนจากกลุ่มสยามสปอร์ต ซินดิเคท ตั้งแต่นายใหญ่ ระวิ โหลทอง ประธานกรรมการที่ปรึกษา  สมลักษณ์ โหลทอง  วิฑูร นิรันตราย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย วิลักษณ์ โหลทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์  เอกระพีร์ สุขกุลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสายงานกองบรรณาธิการพ็อกเกตบุ๊ค สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย ชไมพร แสงกระจ่าง นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย 

นอกจากนี้ยังมีผู้บริหารธุรกิจที่เป็นนักอ่าน ประสิทธิ์ ฉกาจธรรม  แห่ง ซีพี ออลล์ มาร่วมงานและขึ้นเวทีพูดคุยกันในงานนี้ท่ากลางแฟนคลับนวนิยายกำลังภายในที่มาร่วมงานกันคับคั่ง เจ้าของงานเลยได้แจกลายเซ็นแฟนๆ รุ่นใหญ่ยันรุ่นเล็กมือระวิง 60 ปี จ้าวยุทธจักร น.นพรัตน์ เริ่มครึกครืนกับการแสดงงิ้วคณะ “เม้ง ป.ปลา”  และในงานมีนิทรรศการบอกเล่าความเป็นมาของ น.นพรัตน์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

นักแปลนวนิยายจีนกระบี่มือหนึ่งของไทย เกิดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2493 หลายคนรู้กันดีว่า “น.นพรัตน์” เป็นนามปากการ่วมกันของนักแปลสองพี่น้องตระกูล ภิรมย์อนุกูล คือ อานนท์ และ อำนวย ภิรมย์อนุกูล บิดา มารดา เป็นชาวจีนอพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อทั้งคู่พอ่านหนังสือจีนได้ก็เริ่มอ่านหนังสือพิมพ์จีนที่บ้านรับอยู่ประจำ แต่บิดาต้องการให้ลูกเอาดีทางธุรกิจกิจการร้านกระจกของที่บ้าน จึงไม่ชอบให้ลูกมัวแต่อ่านหนังสือโดยเฉพาะนิยายจีนกำลังภายใน มีเรื่องเล่าว่า หนุ่มน้อยวัยรุ่น อายุ 15 และ 16 ปีสองพี่น้อง ต้องผลัดกันเฝ้ายามดูต้นทางระวังบิดาเพื่อแอบอ่านนิยายสนุกๆ เร้าใจ ที่ทั้งสองคนต่างต้องมนต์เสน่ห์ของสวนอักษรจนไถ่ถอนตัวเองไม่ขึ้นเสียแล้ว

และเมื่อสองหนุ่มพี่น้องได้รู้จักกับนักเขียนเรื่องสั้น และบทภาพยนตร์ แสงเพชร เสนีย์บดินทร์ ที่อยู่ข้างบ้าน จึงได้ความบันดาลใจให้เริ่มเขียนเรื่องสั้นไทยส่งตามนิตยสารต่างๆ ถูกตีกลับไปทุกครั้งแต่ทั้งคู่มิย่อท้อ เฝ้าเพียรเขียนโดยนักเขียน แสงเพชร ช่วยตรวจทางขัดเกลา ที่สุดได้ทดลองแปลนวนิยายจีนกำลังภายในได้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์บันบือสาส์น คือเรื่อง เทพบุตรเพชฌฆาต
จากนั้นทั้งคู่โดดเข้าสู่ยุทธจักรแห่งการแปลอย่างเต็มตัวเมื่ออายุ 16 และ 17 ปีเท่านั้น ในปี 2509 มีผลงานตามมา คือ กระบี่อำมหิต ก่อนจะโด่งดังเฟื่องฟู ในปี 2519 เมื่อ คอลัมนิสต์ชื่อดังของไทยรัฐ  “ซูม” สมชาย กรุสวนสมบัติ ชักชวนแปลนวนิยายจีนเป็นตอนๆ ลงหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถือเป็นจุดเปลี่ยนของ น.นพรัตน์ ชื่อเสียงขยายวงกว้าง ผลงานแปลเริ่มจากเรื่อง อินทรีผงาดฟ้า หลั่งเลือดสะท้านภพ เหยี่ยวนรกทะเลทราย หงส์ผงาด อุ้ยเสี่ยป้อ มฤตยูแห้วผลึก และ จอมดาบฟ้าผ่า จนกระทั่งได้มาแปลผลงานของ กิมย้ง และโกวเล้ง ชื่อเสียงของ น.นพรัตร์ ก็อยู่ในยุครุ่งเรืองถึงขีดสุด
จากนั้นวงการนวนิยายจีนกำลังภายในก็เริ่มซบเซาไปหลายปี จนกระทั่งการมาถึงของ ''หวงอี้'' กับผลงานนวนิยายกำลังภายในเรื่อง ''เจาะเวลาหาจิ๋นซี'' วงการนวนิยายกำลังภายในและชื่อเสียงของ น.นพรัตน์ ก็กลับมาอีกครั้ง

และในปี 2543 น.นพรัตน์ผู้พี่ ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง ขณะมีอายุเพียง 52 ปี แต่นามปากกา น.นพรัตน์ ก็ยังคงอยู่ และด้วยวันเวลาในวัย 60 ปี นามปากกา น.นพรัตน์ ยังคงสร้างสรรค์แปลผลงานเรื่องอื่นๆ ของหวงอี้ อย่างมีพลังกำลังวังชา เช่นเรื่อง มังกรคู่สู้สิบทิศ เทพมารสะท้านภพ จอมคนแผ่นดินเดือด และแปลผลงานของนักเขียนคลื่นลูกใหม่ของนักเขียนฉายา “ กิมย้งหญิง” กับผลงานเรื่อง "พยัคฆ์คู่ผงาดฟ้า" ชาวยุทธภพนักอ่านไทยรอคอยได้อ่านปลายเดือนพฤศจิกายนนี้แน่นอน
 

ข่าวล่าสุด

ไทยเบฟคว้า 2 รางวัลอาหารจากเวที RED TABLE AWARDS 2025