posttoday

รู้ทุกข์จึงพบธรรม เห็นธรรมในความทุกข์ หากสู้ทุกข์จะได้ธรรม (จบ)

31 ธันวาคม 2552

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส [email protected]

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส [email protected]

ปุจฉา : กราบนมัสการพระอาจารย์อารยะวังโสที่เคารพยิ่ง

ผมได้ติดตามคอลัมน์ ธรรมส่องโลกมาตลอด เห็นว่ามีคุณประโยชน์อย่างวิเศษ เปรียบประดุจเทียนส่องสว่างให้แสงและทางออกแก่ชีวิตผู้คนที่กำลังเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ

สิ่งต่อไปนี้คือสิ่งที่ได้จากการอ่านมากๆ และฟังมาก และลองทำตามอย่างจริงจัง แม้เพียงเริ่มฝึกฝน แต่มันให้ความรู้สึกที่ดี และมุมมองชีวิตเริ่มเปลี่ยนแปลงไปดังนี้ครับพระอาจารย์

๑.ผมรู้ว่าความเชื่อศรัทธาทางพุทธศาสนา มีพระพุทธเจ้าอุบัติมาแล้วหลายพระองค์เป็นลำดับพุทธวงศ์ นอกจากพระพุทธเจ้าโคดมองค์ปัจจุบัน และในอนาคตจะมีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นอีกหลายพระองค์ ตามพุทธทำนาย

๒.ผมรู้ว่าการประสบทุกข์ ไม่ว่ากายหรือทางใจ ที่เราและเหล่าสรรพสัตว์ได้ทำไว้ในอดีตชาติและปัจจุบัน และเรากำลังเสวยผลอยู่

๓.ผมรู้ว่าผมจะพ้นทุกข์ใจได้ ต้องปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งจะเหมือนกันทุกๆ พระองค์ คือการปฏิบัติธรรมทางจิตใจ คือปฏิบัติสติปัฏฐาน ๔ ตลอดเวลา เพื่อควบคุมการประพฤติทางกายและใจเท่านั้น

๔.ผมเข้าใจอริยสัจ ๔ แล้ว ผมรู้ว่าผมต้อง ๑.ไม่งมงายเชื่อเรื่องพิธีกรรมคุณไสย ๒.ไม่ยึดมั่นในร่างกายว่าเป็นของเที่ยง ๓.ไม่มีข้อสงสัยใดๆ ในการปฏิบัติตามพระธรรมอีกต่อไป

๕.ผมเข้าใจแล้วว่าผู้ปฏิบัติตามพระธรรมของพระพุทธเจ้าอย่างเข้มข้น หมั่นเพียรและอดทนต่อความยากลำบากใจที่ต้องทวนกระแส เช่น จากความยั่วยวนของความโกรธ รูปร่างสวยงามของเพศตรงข้าม ความอยากได้เกินพอดี จนเริ่มเกิดผล
สุดท้ายผมขอกราบอาราธนาพระอาจารย์วิสัชนาชี้แนะ และข้อปฏิบัติเพิ่มเติมด้วยขอรับ

ขอกราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
นายสุรชัย ธีระสนธิกูล

วิสัชนา : จึงควรอย่างยิ่งที่สาธุชนต้องรู้จักการภาวนาอบรมจิต ให้มีสติปัญญาอยู่ตลอดเวลา เพื่อรู้เท่ารู้ทัน ไม่พลันข้องแวะเข้าไปเกี่ยวข้องกับอารมณ์ทั้ง ๒ ฝ่าย ได้แก่ ทั้งรักและชัง ทั้งนี้จะต้องหากรรมฐานให้กับจิตให้ถูกกับจริตของตน เพื่ออบรมจิตให้สงบจะได้เกิดปัญญา และพึงเจริญเมตตา อันเป็นกรรมฐานบริหารจิต เพื่อดับความพยาบาท ความเบียดเบียน เมื่อมีผู้ใดผู้หนึ่งเป็นศัตรูมุ่งร้ายต่อเรา จะได้ใช้น้ำเมตตาเข้าดับ โดยให้น้อมจิตเข้าไปที่บุคคลนั้น ด้วยความกรุณาอย่างนี้ว่า “จิตใจของเขากำลังเร่าร้อนกระวนกระวาย มีทุกข์อยู่ เขาเป็นสัตว์ที่น่าสงสาร” แล้วให้แผ่เมตตาจิตที่มีเจตนาให้เขามีความสุข (ทั้งนี้หากเจริญเมตตาภาวนาไม่เป็น ก็ให้ขอเทปบันทึกเสียงสอนวิชาเมตตาภาวนา ๗ คั่น ของอาตมาจากวัดป่าพุทธพจน์ฯ มาประกอบการปฏิบัติ ได้สอนไว้เป็นขั้นเป็นตอนดีแล้ว ปฏิบัติได้ด้วยตนเอง ประกอบกับเสียงธรรมจากเทป)

เมื่อเราน้อมจิตแผ่เมตตาไป โทสะหรือความโกรธ ก็จะสามารถเข้ามาสู่จิตของเราได้ โทสะจิตนี้ เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะมีคิดประทุษร้ายทำลายล้างอย่างเดียว จึงควรแผ่เมตตาให้มากๆ เพื่อลดเวทนา โดยเฉพาะความพยาบาท เมตตาจิตจะทำให้เราสามารถละวางความพยาบาท ความคับแค้นใจ ความทุกข์ใจออกไปได้ จะทำให้จิตใจของเรากลับมาเยือกเย็นและมีสติปัญญา รู้เท่าทันความปรุงแต่งทั้งหลายที่เกิดจากอำนาจทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งสามารถตัดกระแสกรรมภายในที่เกาะเกี่ยวจิตให้เป็นอกุศลด้วยความโกรธ (โกธะ) ความประทุษร้าย (โทสะ) ความอิจฉาริษยา (อรติ) ออกไปได้ ซึ่งก็ด้วยอาศัยเมตตาจิตดับไฟโกรธ ลดความเร่าร้อน และละให้สิ้นซึ่งความอิจฉาริษยา จึงไม่ควรให้อำนาจอกุศลธรรมดังกล่าวเกิดขึ้นในดวงจิต หรือซึมซาบอยู่เพื่อครอบงำจิตของเรา โดยมีปัญญา (รู้เท่า) สติ (รู้ทัน) เพียรเพ่งเผาละวาง อย่าได้ให้เข้ามาครอบจิต โดยมีคติว่า “ถ้าเราสามารถทำจิตใจของเราให้ปราศจากโทสะได้ ก็เท่ากับเราได้ชัยชนะหมู่ศัตรูแล้ว”

ในพระพุทธศาสนา จึงได้มีการสอนกรรมฐานไว้บริหารจิต ซึ่งได้แก่การเจริญเมตตาภาวนา หรือพรหมวิหาร ๔ ซึ่งอานุภาพของเมตตานั้น ย่อมสามารถเอาชนะศัตรูได้ทั้งภายในภายนอกจริงๆ และเป็นการชนะด้วยดี “บัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น” ออกมาจากการสร้างทุกข์ ทับถมทุกข์ สร้างบาป ทับถมบาป สามารถทำให้ผู้เจริญเมตตาสามารถเอาชนะจิตใจของตนเองได้ ทำให้จิตใจชุ่มชื่น เยือกเย็นเป็นสุขด้วยธรรม และสามารถชนะมารทั้งหลาย ได้ด้วยเมตตาบารมีอย่างแท้จริง

ขออนุโมทนากับโยมสุรชัย ที่ได้เกิดสัมมาทิฏฐิ มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา อันเป็นความชอบในเบื้องต้นที่ถูกต้องดีแล้ว ซึ่งควรศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนต่อไป โดยการมุ่งเจริญภาวนา หรือปฏิบัติธรรมอย่างถูกต้องตรงกับจริต ก็จะมีโอกาสถึงความสุขที่แท้จริง ก่อเกิดอำนาจคุณธรรมความดีขึ้นมาคุ้มครอง รักษาให้ตนเองและครอบครัวพบกับสิ่งที่ดีมีประโยชน์ในเบื้องหน้าอย่างแท้จริง ดังคำกล่าวที่ว่า ปัญญาเกิด ปัญหาจบ เครื่องกีดขวาง ชีวิตทั้งหมดขจัดให้สิ้นได้ด้วยปัญญา...

อย่าพึ่งเหนื่อย อย่าพึ่งหนี  อย่าพึ่งหน่าย
อย่าพึ่งพ่าย อย่าพึ่งแพ้  แย่สับสน
อย่าพึ่งทุกข์ โศกเศร้า  คับแค้นตน
อย่าพึ่งตาย ก่อนพบตน ว่าเป็นใคร

(หมายเหตุ  ได้ส่งหนังสือธรรมส่องโลกและแผ่นซีดีฝึกปฏิบัติ เจริญเมตตาเจโตวิมุตติมาให้ เพื่อประโยชน์แห่งการดำรงชีวิตบนวิถีความเป็นชาวพุทธ)

ขอเจริญพร

**ส่งคำถามหรือ แสดงความเห็นในเรื่องต่างๆได้ที่ คอลัมน์ธรรมส่องโลก หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ อาคารบางกอกโพสต์ 136 ถนน ณ ระนอง แยกสุนทรโกษา คลองเตย กทม. 10110 โทรสาร 02-671-3132