posttoday

5 สเต็ปรับมือเมื่อสุ่มเสี่ยงถูกโจรกรรมข้อมูล

21 ตุลาคม 2562

ส่องฟังก์ชันความปลอดภัยโมบายล์ แบงก์กิ้ง ในยุคสังคมไร้เงินสด พร้อม 5 สเต็ปรับมือเมื่อสุ่มเสี่ยงถูกโจรกรรมข้อมูล

ส่องฟังก์ชันความปลอดภัยโมบายล์ แบงก์กิ้ง ในยุคสังคมไร้เงินสด พร้อม 5 สเต็ปรับมือเมื่อสุ่มเสี่ยงถูกโจรกรรมข้อมูล

คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปกับการทำธุรกรรมธนาคารในยุคดิจิทัล ซึ่งทุกคนสามารถทำรายการและตรวจสอบธุรกรรมต่างๆ ได้ด้วยตนเอง สะดวกรวดเร็วผ่านโมบายล์ แบงก์กิ้งของผู้ให้บริการ หมดปัญหาตามหาสาขาธนาคาร และช่วยลดเวลาที่ต้องสูญเสียไปเพื่อเดินทางไปทำธุรกรรม การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคสู่สังคมไร้เงินสดดังกล่าว เป็นแนวโน้มที่น่าจับตามอง เนื่องจากจะทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป

5 สเต็ปรับมือเมื่อสุ่มเสี่ยงถูกโจรกรรมข้อมูล

ข้อมูลจาก Hootsuite ผู้ให้บริการระบบจัดการ Social Media และ Marketing Solutions ได้รวบรวมสถิติผู้ใช้งานโมบายล์ แบงก์กิ้งในประเทศ พบว่ามีจำนวนผู้ใช้งานสูงถึง 74% หรือราว 51 ล้านคน และยังคงมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในทางกลับกัน มันก็อาจเป็นช่องทางให้เกิดการโจรกรรมผ่านไซเบอร์ หรือ Cyber Crime เพิ่มขึ้นได้เช่นเดียวกัน โดยกว่า 91% ของการหลอกลวงหรือการโจรกรรมข้อมูลมาจากอีเมล (Email) และ 35% ของผู้ใช้งานโมบายล์ แบงก์กิ้ง ได้รับข้อความ (SMS) จากผู้ไม่ประสงค์ดีที่ต้องการนำข้อมูลไปใช้ในการทุจริต และทำให้เกิดความเสียหายตามมากับทั้งผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ

ด้านธนาคารผู้ให้บริการ นอกจากจะต้องออกแบบโมบายล์แอปพลิเคชันเพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วแล้ว ยังจำเป็นต้องพัฒนาระบบความปลอดภัยเพื่อป้องกันการถูกโจรกรรมข้อมูล รวมถึงมีบริการต่างๆ ที่ช่วยแจ้งเตือนลูกค้าอย่างทันท่วงที ซึ่งปัจจุบันนี้มีฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยให้ลูกค้าลดความกังวลในการทำธุรกรรมผ่านโมบายล์ แบงก์กิ้งได้ ไม่ว่าจะเป็น

5 สเต็ปรับมือเมื่อสุ่มเสี่ยงถูกโจรกรรมข้อมูล

· แสดงรายการเรียลไทม์ บนโมบายล์แอปฯ

ฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้ สามารถตรวจสอบการทำธุรกรรมต่างๆ บนแอปฯ ของธนาคารได้ทันที รวมถึงมีระบบแจ้งเตือน เมื่อเกิดการทำ โอน – รับ – ใช้จ่าย ผ่านโมบายล์แอปฯ ทำให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบรายการที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

· โอทีพี (One-Time Pin) และโมบายล์ โทเค็น (Mobile Token)

หนึ่งในสเต็ปหลักประกันก่อนทำธุรกรรมทุกครั้ง ที่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องใส่รหัสการใช้งานครั้งเดียว หรือ โอทีพี (One-Time Pin) ที่ส่งตรงจากธนาคารเข้าสู่โทรศัพท์ส่วนตัวของผู้ใช้ เพื่อใช้ยืนยันการทำในแต่ละธุรกรรม นอกจากนี้ ในบางธนาคารผู้ใช้งานยังให้บริการยืนยันการทำธุรกรรมด้วย “โมบายล์ โทเค็น” หรือรหัสส่วนตัวที่กำหนดโดยตัวผู้ใช้งานเอง ช่วยเพิ่มขีดความปลอดภัย กรณีการถูกดักโจรกรรมข้อมูลผ่านทาง SMS และสามารถทำรายการต่อได้แม้ว่าจะเดินทางอยู่ในต่างประเทศและไม่ได้เปิดบริการโรมมิ่ง

5 สเต็ปรับมือเมื่อสุ่มเสี่ยงถูกโจรกรรมข้อมูล

· เชื่อมทัชพ้อยน์ รับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค

แม้จะมีระบบการแจ้งเตือนผ่านแอปฯ ธนาคาร แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ ยังไม่ได้ติดตามข้อมูลดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ธนาคารจึงจำเป็นต้องพัฒนา และเชื่อมต่อการแจ้งเตือนธุรกรรม เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคได้ในทุกกลุ่ม ตั้งแต่ทางอีเมล สำหรับกลุ่มคนทำงาน ข้อความ SMS ที่เหมาะกับกลุ่มที่ไม่เชี่ยวชาญการใช้เทคโนโลยีมากนัก หรือแม้กระทั่งไลน์ (LINE) แอปพลิเคชัน ที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก

· ป้องกันรายการที่น่าสงสัยผ่าน 2-way SMS

2-way SMS เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์เสริมความปลอดภัย ที่นำมาใช้เพื่อความปลอดภัยของการใช้บัตร เมื่อธนาคารพบว่ามีรายการที่น่าสงสัยผ่านบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต ธนาคารจะส่งข้อความไปยังลูกค้าเพื่อตรวจสอบว่าลูกค้าได้ทำรายการดังกล่าวจริงหรือไม่ ในกรณีที่ลูกค้าตอบกลับว่าลูกค้าไม่ได้ทำรายการนั้นๆ ด้วยตนเอง ธนาคารฯ จะทำการอายัติบัตรและติดต่อลูกค้าเพื่อให้คำแนะนำในลำดับต่อไป ซึ่งเป็นการป้องกันรายการทุจริตอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกหลังจากนั้น

5 สเต็ปรับมือเมื่อสุ่มเสี่ยงถูกโจรกรรมข้อมูล

· ไบโอเมตริกซ์อัจฉริยะ

เทคโนโลยีล่าสุดที่พัฒนาขึ้นสอดรับกับความสามารถของสมาร์ทโฟน ซึ่งบางธนาคารได้นำเอาการพิสูจน์ตัวตนทางชีวภาพ หรือ ไบโอเมตริกซ์ (Biometric Authentication) เช่น การตรวจสอบลายนิ้วมือ และการจดจำใบหน้า เพื่อใช้ในการเข้าล็อกอินสู่แอปฯ และใช้ยืนยันตัวตนก่อนทำธุรกรรม ซึ่งให้ความปลอดภัยที่สูง ยากที่จะถูกลอกเลียน เมื่อเปรียบเทียบกับการใส่รหัสผ่านหรือโอทีพี และยังอำนวยความสะดวกและรวดเร็วกับลูกค้ามากขึ้นด้วย

5 สเต็ปรับมือเมื่อสุ่มเสี่ยงถูกโจรกรรมข้อมูล

ทั้งนี้ ธนาคารซิตี้แบงก์ มีข้อแนะนำ 5 ขั้นตอนในกรณีผู้ใช้งานคาดว่ามีแนวโน้มถูกโจรกรรมข้อมูล ได้แก่

  1. ปิดการเชื่อมต่อไวไฟ (Wi-Fi) แล้วใช้สัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์แทน ในการเข้าสู่โมบายล์แอปฯ
  2. ตรวจสอบรายการใช้จ่ายหรือการทำธุรกรรมล่าสุดทันทีผ่านแอป
  3. ระงับการใช้งานบัตรชั่วคราวผ่านแอปฯ ทันทีที่พบรายการที่น่าสงสัย
  4. เปลี่ยนรหัสผ่าน และรหัสแอปฯ ใหม่
  5. ติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพื่อแจ้งรายการที่น่าสงสัยทันที