สาวประเภท 2 ครองโลก (บันเทิง)
นอกจากพระเอกรูปหล่อ นางเอกแสนสวยที่เป็นตัวละครหลักทำให้ละครสนุกสนาน น่าติดตามดู และเป็นตัวเรียกเรตติ้งแล้ว ตัวละครที่รายล้อมอยู่รอบๆ ตัวพระนางก็เป็นอีกหนึ่งสีสันที่ช่วยชูโรงให้ละครมีสีสันจี๊ดจ๊าด เพิ่มความสนุกสนาน เรียกรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้มากขึ้นไปอีก
นอกจากพระเอกรูปหล่อ นางเอกแสนสวยที่เป็นตัวละครหลักทำให้ละครสนุกสนาน น่าติดตามดู และเป็นตัวเรียกเรตติ้งแล้ว ตัวละครที่รายล้อมอยู่รอบๆ ตัวพระนางก็เป็นอีกหนึ่งสีสันที่ช่วยชูโรงให้ละครมีสีสันจี๊ดจ๊าด เพิ่มความสนุกสนาน เรียกรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้มากขึ้นไปอีก
โดย... พริตตี้ พี
นอกจากพระเอกรูปหล่อ นางเอกแสนสวยที่เป็นตัวละครหลักทำให้ละครสนุกสนาน น่าติดตามดู และเป็นตัวเรียกเรตติ้งแล้ว ตัวละครที่รายล้อมอยู่รอบๆ ตัวพระนางก็เป็นอีกหนึ่งสีสันที่ช่วยชูโรงให้ละครมีสีสันจี๊ดจ๊าด เพิ่มความสนุกสนาน เรียกรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้มากขึ้นไปอีก
และตอนนี้ตัวชูโรงของละครเกือบทุกเรื่องที่เรียกว่าจะขาดไปเสียไม่ได้ก็เห็นจะเป็น บทกะเทย หรือสาวประเภทสอง ที่เข้ามาครองจอ และช่วยสร้างความสนุกสนานเพิ่มมากไปอีกขั้น ละครหลายต่อหลายเรื่องก็ดังเปรี้ยง และมีแฟนละครติดตามไม่ห่าง ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งก็เพราะตัวละครที่โลดแล่นบนหน้าจอเหล่านี้นี่แหละ
จากเจ๊มดแดง สู่ พี่หนูต่อ กะเทยไทยขวัญใจคอละคร
ช่วงนี้ตัวละครที่มาแรงก็เห็นจะหนีไม่พ้น “เจ๊มดแดง” ผู้จัดการซุปตาร์จากละครเรื่อง ระบำดวงดาว ที่รับบทโดยนักแสดงมืออาชีพ เกริก ชิลเลอร์ แต่แม้ว่าละครจะลาจอไปแล้ว ผู้ชมที่ติดตามติดใจในลีลาของเจ๊มดแดงก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะงานนี้เจ๊มดแดงขอกลับมาเกิดอีกครั้งในบทบาทของ “เจ๊หนูต่อ” ดีไซเนอร์คนสวยในละครเรื่อง “ดวงใจอัคนี” ทางช่อง 3
แม้ว่าเกริกจะรับบทในละครเป็นกะเทยมา 3 เรื่อง และในภาพยนตร์อีก 1 เรื่อง แต่เขาบอกว่าเรื่องระบำดวงดาวเข้าไปก็เปรี้ยงสุดๆ อาจจะเป็นเพราะเรื่องนี้เขามารับบทถูกที่ ถูกเวลา ประกอบกับนักแสดงคนอื่นๆ ผู้กำกับ และองค์ประกอบหลายๆ อย่างทำให้ละครดัง พอต่อเนื่องมาถึงดวงใจอัคนี ฟีดแบ็กที่กลับมายิ่งดีไปกันใหญ่
ส่วนการที่ผู้ชายแท้ๆ จะต้องมาแสดงท่าทางกระตุ้งกระติ้ง มีจริตจะก้านนั้น เกริก บอกว่า ต้องอาศัยถามและเล่นไปตามที่ผู้กำกับสั่ง ไม่ว่าจะเป็นท่าทาง หรือประโยคสุดฮิตในระบำดวงดาวอย่างคำว่า “ขีดเส้นใต้”
เกริกไม่ปฏิเสธว่าบทกะเทยนั้นเป็นตัวละครหนึ่งที่ช่วยสร้างสีสันและชูรสให้กับละครมากขึ้น “จริงๆ แล้วละครเรื่องไหนไม่มีสาวประเภทสอง ในความรู้สึกผมว่าแปลกนะ เพราะสังคมไทยเราในทุกส่วนก็มีเพศที่สามอยู่ร่วมกับเราเต็มไปหมด เพราะฉะนั้นผมไม่คิดว่าเป็นเรื่องแปลกที่จะมีกะเทยในละคร เพราะละครก็เอามาจากความเป็นจริงของชีวิตนั่นแหละ”
จากบุ๊คโกะ กะเทยน่ารัก สู่ เจ๊จูน กะเทยตัวแสบ (สุดๆ)
บุ๊คโกะธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล ดีเจจากคลื่น 94 EFM (อีเอฟเอ็ม) ก็ขอแจ้งเกิดกับเขาบ้าง ในบทบาทของ บุ๊คโกะ (ใช้ชื่อตัวเอง) ในละครเรื่อง “ระบำดวงดาว” เป็นเรื่องแรก ซึ่งเรื่องนี้บุ๊คโกะรับบทเป็นช่างทำผมในกองถ่าย ที่แม้จะขี้เมาท์ แต่ก็น่ารัก และเป็นผู้พิทักษ์นางเอก จนหลายคนเริ่มรู้จักและรักในตัวละคร เรียกได้ว่าไปไหนมาไหนก็มีแต่คนเรียกชื่อบุ๊คโกะกันเป็นแถว
แต่พอมาลงละครเรื่องที่สอง “แฝดนะยะ” บุ๊คโกะพลิกกลับมารับบทร้ายสุดๆ แบบเคืองใจพ่อค้าแม่ค้า จนแทบจะโดนเปลือกทุเรียนขว้างใส่ ในบทของ เจ๊จูน โมเดลลิงชื่อดังจอมฉก ที่ชอบดูดดาราดังๆ มาจากโมตุ่ม โมเดลลิงใหญ่ขาลงในวงการมายา ที่รับบทโดย ดีเจเอกเอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์
“ตอนแรกที่ถ่ายไปก็ไม่รู้ว่าจะร้ายขนาดนี้ พอตัดต่อออกมาแล้วบุ๊คโกะยังตกใจว่าทำไมร้ายมากขนาดนี้ คนที่ได้ดูก็คงจะตกใจว่าทำไมร้ายได้ขนาดนี้ มีคนหมั่นไส้เยอะมาก ไปไหนมาไหนมีแต่คนบอกว่าบุ๊คโกะชั้นหมั่นไส้เธอนะ อยากจะตบ แต่เราก็รู้ว่าเขามาแซวนั่นแหละ แต่เราก็ตกใจ เราก็เลยไปถามรุ่นพี่ว่าอย่างงี้คืออะไร แต่พี่ๆ บอกว่าไม่ต้องกลัว แบบนี้คือประสบความสำเร็จแล้วล่ะ เพราะคนดูเขาอินกับบทจริงๆ แล้วเรื่องนี้ก็จะร้ายขึ้นเรื่อยๆ แต่โชคดีที่เป็นร้ายแบบคอมมิดี ก็เลยเบรกให้ไม่ดูร้ายเกินไป”
เวลาเล่นบทร้าย บุ๊คโกะ บอกว่า ที่บทออกมาแรงขนาดนี้ เพราะไปปรึกษาผู้กำกับที่บอกว่าให้ร้ายกาจแบบคอมมิดีแบบการ์ตูน พอไปเล่นให้ผู้กำกับดู เขาก็ชอบใจ เธอเลยจัดไปชุดใหญ่ ทั้งหน้าตา (เพราะเธอเล่นละครเวทีมาตั้งแต่เด็ก) ทำรูปปากให้ดูชัดเจนขึ้น ใหญ่ขึ้น โอเวอร์ขึ้น จีบปาก จีบคอ จนทำให้คนดูหมั่นไส้มากขึ้นไปอีก
ส่วนบทกะเทยในละครที่บางครั้งหลายคนมองว่ากรี๊ดกร๊าดจนเกินงาม หรือเกินหน้ากะเทยในชีวิตจริงไปเยอะ บุ๊คโกะ มองว่า
“บางคนคิดว่าเอากะเทยมาเล่นจะทำให้กะเทยดูตลก ไม่น่ารัก แต่บุ๊คโกะคิดว่าถ้าเรามีบทบาทกะเทยเข้ามาในละคร นี่คือชีวิตจริง เพราะชีวิตจริงกับละครเหมือนกัน ชีวิตจริงก็มีกะเทย แต่ก็ยอมรับว่าถ้าเอากะเทยหรือสาวประเภทสองมาบวกเข้ากับโอเวอร์แอ็กติงมากๆ ก็จะเป็นละครที่เบาสมอง ผ่อนคลาย แล้วกะเทยก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ไปไหนเราก็เจอกะเทย ในวงการบันเทิงยิ่งเจอ เราแค่นำชีวิตจริงมานำเสนอในรูปแบบของละครที่เบาสมองเท่านั้นเอง”
ผลงานต่อไปของบุ๊คโกะก็จะได้ดูภาพยนตร์กันบ้าง แต่ก็ยังคงบทบาทของกะเทยอยู่ แต่บุ๊คโกะบอกว่าต้องติดตาม เพราะจะเป็นบทกะเทยที่รับรองว่าไม่เหมือนสองเรื่องที่ผ่านมาอย่างแน่นอน
กะเทยไทย บทท้าทายความสามารถ
บทกะเทยฮอตฮิตขนาดไหนคงไม่ต้องบอก เพราะขนาดผู้ชายอกสามศอกยังขอสลับบทมาเป็นกะเทยกันเป็นแถว ตัวอย่างก็ เกริก นั่นไง ที่เป็นชายแท้ๆ ลูก 3 ก็ยังมารับบทกะเทยจนหลายคนอินไปตามๆ กัน หรือแม้แต่หนุ่มมาดร็อก อ๊อฟพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ก็ยังขอมารับบท “อารักษ์” พ่อที่เป็นกะเทยในละครเรื่อง “พระจันทร์สีรุ้ง” ที่ทำเอาคนดูอินและเสียน้ำตาไปตามๆ กัน
นอกจากนั้น ก็ยังมี ต๊ะ วริษฐ์ ที่ขอโดดมารับบทเกย์สาวในเรื่อง “น้ำตาลไหม้” วินัย ไกรบุตร กับบท “เสือ” ในภาพยนตร์ปล้นนะยะ เต้ทัตพงศ์ พงศทัต ในบทของ “พัฒน์” ในละครซิตคอมบางรักซอยเก้า ฯลฯ
เพราะงานนี้ถ้าไม่มีบทกะเทยละครไทยจะกลมกล่อม ครบรส และแซ่บได้ยังไงล่ะ


