ธานินทร์ พานิชชีวะ ‘ถึงเวลา (ทุ่มเท) ทำงานเพื่อสังคม’
“วิสัยทัศน์” คือคีย์เวิร์ดประจำตำแหน่งผู้บริหารองค์กร ธานินทร์ พานิชชีวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง บอกว่า ถ้าถามหามุมมองความคิดของเขา วันนี้คนเป็นนายใหญ่ในทุกๆ องค์กรไม่ว่าจะบริษัทระดับเล็กๆ หรือระดับมหาชน ถือว่าจำเป็นจะต้องนำพาลูกทัพออกไปทำงานสร้างประโยชน์ หรือรับผิดชอบต่อสังคมกันอีกทางหนึ่งด้วย ไม่ใช่มุ่งแต่จะสร้างตัวเลขทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว
“วิสัยทัศน์” คือคีย์เวิร์ดประจำตำแหน่งผู้บริหารองค์กร ธานินทร์ พานิชชีวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง บอกว่า ถ้าถามหามุมมองความคิดของเขา วันนี้คนเป็นนายใหญ่ในทุกๆ องค์กรไม่ว่าจะบริษัทระดับเล็กๆ หรือระดับมหาชน ถือว่าจำเป็นจะต้องนำพาลูกทัพออกไปทำงานสร้างประโยชน์ หรือรับผิดชอบต่อสังคมกันอีกทางหนึ่งด้วย ไม่ใช่มุ่งแต่จะสร้างตัวเลขทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว
โดย....ปอย
“วิสัยทัศน์” คือคีย์เวิร์ดประจำตำแหน่งผู้บริหารองค์กร ธานินทร์ พานิชชีวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง บอกว่า ถ้าถามหามุมมองความคิดของเขา วันนี้คนเป็นนายใหญ่ในทุกๆ องค์กรไม่ว่าจะบริษัทระดับเล็กๆ หรือระดับมหาชน ถือว่าจำเป็นจะต้องนำพาลูกทัพออกไปทำงานสร้างประโยชน์ หรือรับผิดชอบต่อสังคมกันอีกทางหนึ่งด้วย ไม่ใช่มุ่งแต่จะสร้างตัวเลขทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว
เจตนารมณ์สร้างทางยกระดับโทลล์เวย์เพื่อบรรเทาจราจรติดขัดถนนวิภาวดี ซึ่งเมื่อทศวรรษก่อนถนนการเดินทางออกสู่โลกกว้าง ถนนทุกๆ สายต้องมุ่งสู่สนามบินดอนเมือง และในยุคสนามบินย้ายไปเมื่อปี 2006 รถยนต์ที่เคยวิ่งบนถนนเส้นนี้หายไปกว่า 30,000 คัน ดอนเมือง โทลล์เวย์ ภายใต้การบริหารของธานินทร์ ซึ่งกล่าวพร้อมรอยยิ้มบ่งบอกทัศนคติด้านบวกว่ารายได้บริษัทมาจากการเก็บค่าผ่านทางลดลงไปแน่นอน แต่วันนี้ตัวเลขกลับมาถือว่าปกติแล้ว
“หลังจากสนามบินย้ายไป ในแถบดอนเมืองยังมีการพัฒนาไม่หยุดยั้ง กลายเป็นเมืองใหม่ที่มีหมู่บ้านจัดสรรผุดขึ้นมากมาย แล้วเมื่อบวกกับการที่ผมเน้นกลยุทธ์การบริหารปรับโครงสร้างหนี้ การเจรจาสัมปทานภาครัฐ สถานการณ์วันนี้ผมจึงบอกได้เต็มปากเต็มคำว่าอยู่ในภาวะปกติแล้วนะครับ” ธานินทร์ เริ่มต้นสนทนาน้ำเสียงเนิบๆ นุ่มๆ แต่หนักแน่นสไตล์ผู้บริหารรุ่นใหญ่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
ถึงวันบริษัทมั่นคง ธานินทร์ ซึ่งถือเป็นผู้บริหารรุ่นสองตระกูลพานิชชีวะ จึงขอนำพาพนักงานลุยกระแส CSR (Corporate Social Responsibility) มุ่งเน้นเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างเข้มข้นตั้งแต่ต้นปี 2554 เป็นต้นไป โดยตอบสนองความต้องการของสังคมรอบด้านกับโครงการหลักชื่อว่า “ทางน้ำใจ...ไหลสู่สังคม” สนับสนุน 5 กิจกรรมหลัก ได้แก่ Smart Way โครงการที่เกี่ยวกับการศึกษา Happy Way ทำเรื่องยาเสพติด นำผู้ที่ติดยามาบำบัด Safty Way การรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย Better Way โครงการที่ช่วยทำให้สังคมดีขึ้น และ Green Way การขับเคลื่อนเพื่อสิ่งแวดล้อม
“ซีเอสอาร์ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนองค์กรธุรกิจยุคใหม่ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผมคิดว่ามีความจำเป็นกับทุกบริษัทนะครับ แล้วสังคมไทยเราก็ยังมีความแตกต่างกันกว้างมาก คนยากจนคนด้อยโอกาสเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ คนมีอันจะกินมีน้อย การทำงานในส่วนนี้ก็คือการทำบุญในหลักพุทธศาสนา ผมมองว่าการทอดกฐินนี่คือซีเอสอาร์อย่างหนึ่งเลยนะ และเมื่อลงมือทำงานในภาคส่วนนี้แรกๆ ก็กระจัดกระจายไม่มีการตั้งชื่อโครงการ สโลแกนอะไรก็ไม่มี ทำกันสะเปะสะปะไปเรื่อย ผมคิดว่าเราต้องทำอย่างมีระบบจึงระดมสมองพนักงานทุกคนให้เขาเสนอโครงการต่างๆ ขึ้นมา
... แล้วการที่บริษัทเกิดจากเส้นการเดินทาง คำว่า Way จึงเข้ามาเป็นกิมมิกในทุกๆ โครงการ ล่าสุดเหตุการณ์น้ำท่วม ในส่วน Better Way โครงการที่ช่วยทำให้สังคมดีขึ้น เราก็เปิดรับบริจาคตามด่านเก็บสตางค์ ระดมเงินและนำสิ่งของไปช่วยเหลือพี่น้องโดยเริ่มต้นที่ปริมณฑล จ.ปทุมธานี ในภาคกลาง จ.ลพบุรี พนักงานบางกลุ่มเดินทางไป จ.โคราช ภาคใต้หาดใหญ่ แล้วเมื่อพนักงานเขากลับมาปรากฏว่าป่วยระนาวไปตามๆ กัน เพราะลุยน้ำกันทั้งวัน (หัวเราะ) แต่ใบหน้ากลับมีความสุขกันทุกคนเลยนะครับ” ธานินทร์ บอกเล่าพร้อมรอยยิ้มเช่นเดียวกัน
โครงการน้ำท่วม พนักงานรวมตัวกันลงไปช่วยกันแข็งขัน แต่บางโครงการแค่เป็นเพียงผู้สนับสนุน เช่น โครงการนำผู้ที่ติดยามาบำบัด Safty Way “ผมนำชุดตรวจสารเสพติดให้กับหน่วยงานรัฐ เช่น ปปส. ตำรวจ ก็ทำมาต่อเนื่องนะครับ วันนี้โครงการนี้ก็ 9 ปีแล้ว ซึ่งเมื่อติดตามผลก็ปรากฏว่าตรวจพบทั้งในโรงเรียน ในกองทัพกลุ่มทหารเกณฑ์ เมื่อพบแล้วก็แก้ปัญหาให้สังคมได้ ล่าสุด คือ โครงการสมุดสีเขียว Green Way การขับเคลื่อนเพื่อสิ่งแวดล้อม” ธานินทร์ บอกเล่า ทุกๆ เรื่องผ่านการระดมสมอง และถ้าบอกว่า “ต้นทาง” มาจากผู้บริหารคนนี้ ที่กำลังสนุกสนาน มุ่งมั่นทำงานเพื่อสังคมอย่างเต็มสูบ
“ผมคิดว่าการพูดกันด้วยวาจา บางครั้งก็กระจัดกระจายหายไปในอากาศ บางครั้งอาจไม่ ‘อิน’ ว่าวันนี้เขาทำอะไรนะครับ ผมจึงชอบคิดกิมมิกลูกเล่น ให้พนักงาน 400 คนได้เข้าใจว่าเขาทำอะไร เกี่ยวข้องกับโครงการไหนได้ลึกซึ้งขึ้น ผมคิดนามบัตรออกมา 5 สีตามโครงการที่ทำ เช่น ผมดูแล Happy Way ด้านยาเสพติด เพราะฉะนั้นนามบัตรผมสีขาว ส่วนพนักงานชื่อ วีรวัฒน์ ทำงาน Safty Way การรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ใช้นามบัตรสีส้ม สีเขียวคือกลุ่มทำสิ่งแวดล้อมอะไรแบบนี้ แล้วก็มีเสื้อเชิ้ตสีเดียวกันใส่มาทำงานด้วย มนุษย์เราจดจำด้วยภาพนะครับ” ธานินทร์ บอก
เมื่อถามสไตล์การบริหาร ธานินทร์ บอกว่า การบริหารคือการมองภาพกว้าง แต่ลูกน้องก็ล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เจ้านายทำงานเร็ว และลงรายละเอียด “บางเรื่องผมก็ไม่รู้ตัวนะครับว่าจะลงไปดูรายละเอียดเองทำไม (หัวเราะร่วน) ทุกเรื่องจริงๆ นะครับ ไม่มีอีเมลฉบับไหนที่ไม่ผ่านสายตา ผมอ่านเมลด้วยตัวเองทุกฉบับ (ย้ำ) ซึ่งให้เลขาฯ ช่วยทำก็ได้บางวัน 100 กว่าเมลเลยนะ...อ่านเสร็จไม่รู้มานั่งอ่านเองทำไม ลูกน้องชินแล้วครับ พวกเขาเองก็อุ่นใจที่มีผมคอยประกบดูอยู่ข้างหลัง อาจเป็นเพราะบริษัทอยู่ในช่วงการปรับพัฒนาหลายๆ เรื่อง เช่น ซีเอสอาร์ก็มีโครงการใหม่ๆ มาตลอด แล้วการที่ผมเป็นคนสร้างระบบนี้ขึ้นมาจึงต้องลงไปดูเอง
... ช่วงนี้ก็เหนื่อยสักหน่อยครับ เพื่อความละเอียดและแม่นยำ ปิดทางปัญหาที่อาจตามติดมาได้ เพราะฉะนั้นจะเซ็นอะไรแต่ละทีก็ต้องอ่านก่อน ฟังดูเหมือนเต็มไปด้วยกฎระเบียบ แต่ยืดหยุ่นได้ (บอกพร้อมรอยยิ้ม) เพื่อประสิทธิภาพงานที่ดีขึ้น แล้วถ้าพนักงานมีมุมมองว่าผมเข้ามาช่วยทุกเรื่อง เขาก็จะทำด้วยกันเป็นทีมแน่นปึ้กกันยิ่งขึ้น ซึ่งผมก็ให้ความสำคัญกับทีมเวิร์กคือสิ่งสำคัญที่สุดในการทำงาน” ธานินทร์ กล่าว
สไตล์บริหารสอดคลองกับเป้าหมายในชีวิต ซึ่ง ธานินทร์ บอกว่า “ขอเป็นคนที่น่าเคารพนับถือแต่ไม่สร้างภาพ” เพราะฉะนั้นการลุกขึ้นมาเดินเครื่อง CSR อย่างจริงจังของโทลล์เวย์ครั้งนี้ เป็นเรื่องวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่มองว่า เพียงใช้เวลา บวกความจริงใจ ทุกกิจกรรมที่แจกแจงมาข้างต้น ต้องผลักดันให้เป็นรูปธรรม เห็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริง


