"อย่าทำอีก"

สองแกนนำสัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีส้ม กำลังมีความพยายามกระทำการบางอย่างเพื่อต้องการสร้างเงื่อนไขท้าทายบางสิ่งบางอย่าง ท้าทายต่อหลักปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรมของไทย ท้าทายผู้มีอำนาจบริหารประเทศในการดูแลความสงบเรียบร้อย

*******

โดย ขำ เคืองใจ

...ช่วงเทศกาลสงกรานต์ประชาชนได้หยุดพักยาวมีกิจกรรมเป็นมงคลต่อชีวิตต่างร่วมสรงน้ำพระ  รดน้ำผู้หลักผู้ใหญ่รับศีลรับพร  ส่วนวัยรุ่นหนุ่มสาวร่วมกิจกรรมสาดน้ำคลายร้อนกันไป แต่สมควรอยู่ในกรอบประเพณีอันดีงาม

.. ระยะนี้นักการเมืองลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมสาดน้ำตามประเพณีกับเขาด้วย แต่หลังผ่านพ้นงานรื่นเริง ราววันที่ 17 เม.ย.โน่น การเมืองไทยเปิดมหกรรมสาดโคลนกันต่อ  นี่ทราบมาว่า คุณปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ประกาศความพร้อมเดินทางไปรับทราบข้อหา กรณีตำรวจปอท.แจ้งข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 จากการแถลงข่าวพาดพิงศาลรัฐธรรมนูญเมื่อครั้งมีคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.)

... เมื่อกล่าวถึง คุณปิยบุตร แห่งอนาคตใหม่ อดไม่ได้จะนึกถึง คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคสีส้มอีกคน ก่อนเทศกาลสงกรานต์เดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เช่นกัน  ครานั้นคุณธนาธรจัดหนักด้วยการเชิญเจ้าหน้าที่สถานทูตในอเมริกา-ยุโรป ไปนั่งฟังการรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมเชิญคณะมายืนให้สื่อมวลชนบันทึกภาพหมู่ นอกจากถูกนำเสนอข่าวภายในประเทศ ยังกระพือข่าววีกรรมอันงดงามออกสู่สายตาต่างประเทศให้วิพากษ์วิจารณ์

...เมื่อหัวหน้าพรรคอนค.สร้างผลงานส่งภาพออกไปสู่สายตาชาวโลก พร้อมกับประกาศอยากให้ต่างชาติได้รับรู้กระบวนการยุติธรรมไทย ตามแนวความคิดของคุณธนาธรที่ว่าไม่น่าเชื่อถือ เมื่อมาถึงคิวเลขาธิพรรคจะไปรับทราบข้อหาในวันที่ 17 เม.ย.บ้าง จะจัดหนักจัดเต็มอีกหรือเปล่า จะเอาตัวแทนทูตไปนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อเหมือนอย่างคุณธนาธรและคณะกระทำหรือไม่

...แต่อย่าลืมนะครับ เมื่อครั้ง คุณธนาธรโชว์ภาพดึงต่างชาติมาร่วมสังเกตการณ์การสอบสวน สร้างความเดือดร้อนไปทั่วพารา ทำเอา คุณดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ต้องออกหนังสือเชิญตัวแทน เจ้าหน้าที่ทูตเหล่านั้น มาเทศนาหลักปฏิบัติ มารยาททางการทูต ฉะนั้น หากเกิดเหตุการณ์พาทูตมากดภาพหมู่แบบคุณธนาธรอีก... ขำ เคืองใจ ...ว่าคนเหล่านี้กำลังต้องการเรียกร้องความสนใจ สร้างความท้าทายบางสิ่งบางอย่าง 

... สองแกนนำสัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีส้ม ซึ่งกำลังจะได้เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยไปทำหน้าที่ในสภา กำลังสร้างเงื่อนไขท้าทายกระบวนการยุติธรรมของไทย ท้าทายผู้มีอำนาจบริหารประเทศในการดูแลความสงบเรียบร้อย

....ทั้งๆที่  รมว.ต่างประเทศ บอกไว้ “อย่าทำอีก” ฉะนั้นถ้ายังขืนทำ จะเกิดผลอย่างไรบ้าง

.... ขำ เคืองใจ... ขอหยิบยกถ้อยความการให้สัมภาษณ์ของรมว.ต่างประเทศ บอกไว้ดังนี้นะครับ   “ สิ่งที่เกิดขึ้นเขาไม่ปฏิบัติกัน แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของเรา เราไม่เคยทำกับใคร ประเทศอื่นๆ ก็ไม่ทำเช่นนี้กับประเทศไหน ไม่เคยมีหลักปฏิบัติในการเข้าไปเก็บข้อมูลในห้องไต่สวน และที่ถูกที่ควร หากอยากรู้บรรยากาศเป็นอย่างไรให้อยู่นอกสถานีตำรวจ การเข้าไปเก็บข้อมูลไม่ใช่เข้าไปนั่งฟัง ไม่มีทางที่ประเทศไหนๆ จะทำได้โดยเด็ดขาด ไม่เคยเกิดขึ้นและไม่มีทางที่เขาจะให้เกิดขึ้น”

...  มองการณ์ล่วงหน้าในวันที่ 17 เม.ย.นี้ ตามสไตล์ของนักท้าทาย อาจไม่เอาตัวแทนต่างชาติไปนั่งฟังภายในห้องสอบสวนก็ได้  เพราะเจ้าหน้าที่ไทยคงไม่อนุญาติแล้ว แต่อาจเอามายืนนอกสถานีตำรวจและถ่ายรูปหมู่อย่างเดียว เพราะในคำให้สัมภาษณ์ของรมว.ต่างประเทศบอกไว้เป็นสิทธิที่ทำได้โดยให้อยู่นอกสถานีตำรวจ

... หรือ เปลี่ยนแผนด้วยการหาฝรั่งสมัครใจแถวตรอกข้าวสารมาแก้เกี้ยวกดภาพตามกิจกรรมสร้างผลงานเหมือนพรรคการเมืองบางพรรค ที่นิยมว่าจ้างพวกฝรั่งหัวสีทองมากดดันไทยรอบด้าน 

... ตรงนี้ ก็ลองดูว่า เขาจะคิดการณ์กันอย่างไร

....แต่ทางที่ดีเพื่อไม่ให้เกิดเงื่อนไขสร้างความวุ่นวายเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย คำนึงถึงภาพลักษณ์ประเทศ ก็มิควรกระทำนสิ่งที่เตรียมการไว้เลยดีกว่าครับ 

...เพราะจะทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ อยากให้นึกถึงประโยคนี้ไว้ให้ดีครับ  "ได้โอกาสมาเป็นนักการเมืองบนแผ่นดินใต้ร่มธงไทยแท้ๆแต่ชอบชักศึกเข้าบ้าน" ... เพื่ออะไร!?!