4 แนวคิด สร้างธุรกิจที่มั่นคง
หลายคนทำงานหาเงินลงทุนในกองทุนต่างๆ มากมายเพื่อหวังนำเงินออกมาใช้หลังเกษียณ
เรื่อง กั๊ตจัง ภาพ เอเอฟพี
หลายคนทำงานหาเงินลงทุนในกองทุนต่างๆ มากมายเพื่อหวังนำเงินออกมาใช้หลังเกษียณ แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าต้องออกจากงานกลางคัน แล้วนำเงินที่เก็บไว้มาลงทุนธุรกิจของตัวเองก่อนเวลาเกษียณไม่กี่ปี ซึ่งอย่างที่เราทราบกันดีก็คือการลงทุนธุรกิจส่วนตัวคือความเสี่ยง แล้วเราจะรับความเสี่ยงสูงเช่นนี้ก่อนวันเกษียณอย่างนั้นหรือ
1.เริ่มต้นลงทุนตั้งแต่อายุยังน้อย
อายุน้อยร้อยล้าน ในวัย 30 กว่าเกิดขึ้นมากมายเพราะพวกเขารู้จักลงทุนกิจการเล็กๆ ส่วนตัวตั้งแต่เรียนจบใหม่ จะทำเงินได้มากน้อยแค่ไหนก็ต้องรู้จักทำ เพราะพวกเขาอายุยังน้อยเมื่อล้มก็มีโอกาสเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
เพราะในโลกนี้หาน้อยบริษัทที่มีความมั่นคงเกิน 50 ปี ถึงจะมีแต่เมื่อถึงรุ่นของเราก็อาจไม่เป็นไปอย่างที่คิด เพราะโลกเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เทคโนโลยีใหม่การแข่งขันใหม่ที่จะทำให้ธุรกิจเก่าซึ่งปรับตัวยาก ไม่สามารถก้าวข้ามผ่านเส้นแห่งการเปลี่ยนแปลงไปได้
แต่ถ้าเป็นธุรกิจส่วนตัวของคุณเอง คุณเลือกได้ว่าสิ่งไหนคืออนาคต ยิ่งเป็นธุรกิจขนาดเล็กด้วยแล้วการปรับตัวยิ่งง่ายมีโอกาสรอดพ้นจากการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อีก
2.เริ่มจากจุดเล็กๆ เพื่อความมั่นคงในอนาคต
ชีวิตจะมั่งคั่งร่ำรวยไม่ได้เกิดจากการที่เราได้งานที่มีเงินเดือนสูง แต่เกิดจากแสวงหาช่องทางสร้างรายได้อื่นๆ มากกว่า 1 ช่องทาง หลายคนเชื่อว่าจะลงทุนทั้งทีต้องทำให้ดีไปเลย เป็นความคิดที่ถูกส่วนหนึ่งแต่มีความเสี่ยงมากเกินไป เพราะปัจจัยที่จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จนั้นมีมากมาย ตั้งแต่ทำเลที่ตั้ง สินค้า ไปจนถึงระบบการบริหารภายใน
นั่นคือสิ่งที่คุณควรเรียนรู้จากการทำธุรกิจขนาดเล็กก่อนที่จะไปทำกิจการขนาดใหญ่ให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้นการลงทุนธุรกิจขนาดเล็กที่คุณสามารถหาเวลาทำไปพร้อมๆ กับงานประจำที่ทำอยู่เป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ควรหาช่องทางทำให้มากที่สุด อาจจะไม่ได้อยู่ในรูปแบบของร้านค้า การรับงานฟรีแลนซ์ก็นับเป็นธุรกิจส่วนตัวของคุณได้เช่นกัน ซึ่งจะเห็นประโยชน์มากที่สุดตอนที่คุณถูกเลิกจ้าง
3.ลงทุนในธุรกิจที่ลูกหลานได้สานต่อ
การสร้างความมั่นคงที่ดีที่สุดของชีวิตคือการทำให้ครอบครัวมีความมั่นคงไม่สร้างปัญหาให้กับครอบครัวของตัวเอง แต่จะดีที่สุดหากเราลงทุนทำธุรกิจที่สามารถส่งต่อให้กับลูกหลานได้ เผื่อวันหนึ่งเราไม่อยู่แล้วคนข้างหลังก็ยังสามารถเดินต่อไปได้ด้วยตัวเอง
ดังนั้น ธุรกิจที่เราควรลงทุนควรเป็นธุรกิจที่เรียนรู้ง่าย ไม่ใช่มีแค่ตัวเราที่ทำได้ เช่น ธุรกิจค้าขาย ธุรกิจขายตรง สามารถฝึกฝนเรียนรู้ได้ง่าย แต่ถ้าเป็นธุรกิจงานที่ต้องใช้แรงและทักษะเฉพาะทาง ใช้ความชอบส่วนบุคคลก็มีความเสี่ยงที่ธุรกิจนั้นจะจบเพียงคนเพียงหนึ่งรุ่น
4.ขยายการลงทุนเสมอ
เมื่อวันหนึ่งคุณมีธุรกิจของตัวเองที่มีความมั่นคงแล้ว ก้าวต่อไปไม่ใช่การหยุดนิ่งแล้วรอรับเงิน แต่ควรลงทุนเพิ่มเติม อาจจะอยู่ใน
รูปแบบของสินค้าใหม่ ขยายสาขา หรือเริ่มธุรกิจใหม่ แต่ส่วนมากแล้วเราจะขยายธุรกิจด้วยการแตกไลน์สินค้าและสาขา มากกว่าการเริ่มธุรกิจใหม่ด้วยเหตุผลดังนี้
การทำธุรกิจใหม่จะทำให้เราเสียเวลาไปลงทุนเรียนรู้สิ่งใหม่ซึ่งอาจจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 ปีกว่าจะลงตัว ซึ่งไม่รู้ว่าจะประสบความสำเร็จด้วยหรือไม่ เว้นเสียแต่ว่าคุณจะเห็นว่าธุรกิจนั้นมีอนาคตที่ดีจริงๆ แล้วตรงกับความรู้
ความสามารถของคุณอีกด้วย
ถ้าหากคุณเริ่มคิดหาสินค้าใหม่ๆ เข้ามาอยู่ในธุรกิจของคุณจะช่วยเพิ่มรายได้ง่ายๆ อย่างชัดเจน สมมติว่าคุณเปิดร้านกาแฟ ลองคิดสูตรใหม่ให้เป็นเมนูซิกเนเจอร์ดิช แต่หากไม่มั่นใจว่าเมนูนั้นจะเป็นซิกเนเจอร์ดิช หรือซิกเนเจอร์ดาย ให้ทำเป็นเมนูลิมิเต็ด เอดิชั่น หรือเมนูประจำฤดูกาล ให้ลูกค้าลองรับประทาน
เหมือนกับการตลาดของเครื่องดื่มที่ออกรสชาติประจำฤดูกาลออกมาเป็นลิมิเต็ด เอดิชั่น ซึ่งบางรสชาติก็ผ่าน บางรสชาติก็ขอชิมแค่ครั้งเดียวในชีวิต หากมีเสียงตอบรับดีเราก็จะได้ชิมรสชาตินั้นทุกปี หรือไม่แล้วแบรนด์เครื่องดื่มก็แอบเอามาขายในชื่อเมนูใหม่ ซึ่งคุณเองก็ใช้วิธีการเดียวกับร้านกาแฟของคุณได้เช่นกัน
ในกรณีที่คุณขยายสาขา ต้องดูว่าเงินทุนของคุณนั้นมากพอจะทำให้ธุรกิจใหม่นั้นอยู่ได้เกินปี โดยไม่ใช้เงินจากร้านเดิมมาช่วยหรือไม่ ถ้าได้ค่อยลงทุน แม้จะลำบากในช่วงแรกแต่อย่างน้อยด้วยประสบการณ์ที่คุณมีจะช่วยแก้ปัญหาได้ไม่ยาก
สิ่งที่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติมก็คือพฤติกรรมผู้บริโภคของแต่ละท้องถิ่นนั้นไม่เหมือนกัน อย่าลืมสำรวจความต้องการลูกค้าก่อนเปิดจะช่วยลดความเสี่ยงในธุรกิจของคุณที่จะเก็บเกี่ยวไปถึงวันเกษียณได้


