posttoday

ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น จุดบรรจบของวิทยาศาสตร์ธรรมะ

01 พฤศจิกายน 2553

ทพ.สม สุจีรา ได้กลายเป็นนักเขียนมือทองไปแล้ว เพราะไม่ว่าจะหยิบจับเรื่องราวแนวใดมานำเสนอ

ทพ.สม สุจีรา ได้กลายเป็นนักเขียนมือทองไปแล้ว เพราะไม่ว่าจะหยิบจับเรื่องราวแนวใดมานำเสนอ

โดย... มัลลิกา

ทพ.สม สุจีรา ได้กลายเป็นนักเขียนมือทองไปแล้ว เพราะไม่ว่าจะหยิบจับเรื่องราวแนวใดมานำเสนอ เป็นต้องถูกใจนักอ่านและจุดประกายความอยากรู้ พิสูจน์ได้ด้วยผลงานที่ผ่านๆ มา ซึ่งเข้าวินหลายเล่ม อาทิ เดอะท็อปซีเคร็ต หนังสือแนวฮาวทูจิตวิทยา ที่ออกตัวแรงด้วยยอดขาย 2 แสนเล่ม ตามมาด้วยเดอะท็อปซีเคร็ต 2 ความลับสู่ความสำเร็จ ทำยอดขาย 7 หมื่นเล่ม นอกจากนั้นยังมีหนังสือในแนวอื่นๆ ที่ได้รับความสนใจไม่น้อย เจาะตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอบปัญหาวิชาโลก ทวาร 6 ศาสตร์แห่งการรู้ทันตนเอง เป็นอาทิ

ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น จุดบรรจบของวิทยาศาสตร์ธรรมะ

ทว่าหนังสือที่สร้างชื่อของ ทพ.สม สุจีรา ก็คือ “ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น” เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งช่วงนั้นหนังสือในแนวธรรมมะ กายใจ กำลังมาแรง และหนังสือเล่มนี้ก็ได้มากับกระแส แต่มาในแนวแปลกใหม่ ซึ่งไม่ใช่พุทธศาสนานำ หรือเป็นพุทธศาสนาไสยศาสตร์ แต่เป็นแนววิทยาศาสตร์ธรรมะ ซึ่งช่วงนั้นหนังสือแนวนี้ยังไม่มีบนแผง

“หนังสือผมส่วนใหญ่คนมาอ่านเพราะสนใจในชื่อไอน์สไตน์ แต่พออ่านเสร็จก็ไปปฏิบัติธรรม เพราะเราเขียนโดยการเชื่อมโยงจากวิทยาศาสตร์สู่ศาสนา คนที่เรียนเยอะๆ เขาพร้อมที่จะเชื่อวิทยาศาสตร์ แต่พอเราอธิบายในสิ่งที่พระพุทธเจ้าเห็นแล้วเชื่อมโยงกับวิทยาศาสตร์ได้ เขาก็เชื่อ ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องงมงาย เพราะหนังสือธรรมะประยุกต์ที่มีกันมาจะมีจุดอ่อนคือการนำไปเชื่อมโยงกับเรื่องเหนือธรรมชาติ คือคนที่มีเหตุมีผลเขาจะไม่เชื่อ ผมก็เขียนอีกแนวให้คนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ มาอ่าน แต่คนที่ศึกษาธรรมะจะรู้สึกว่าเรื่องที่เขาสนใจนั้นจริงและสามารถอธิบายได้ เราช่วยเสริมด้วยว่าไม่ได้งมงายนะแต่วิทยาศาสตร์เข้าไปไม่ถึง อย่างเรื่องของภพภูมิ แต่มันก็เกี่ยวข้องกับเรื่องของมิติในทางวิทยาศาสตร์ หรือเรื่องของปาฏิหาริย์ในทางพุทธ อย่างการหายตัว ทุกวันนี้นักฟิสิกส์ควอนตัมก็อธิบายว่า อิเล็กตรอนหายตัวได้ ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าเรารู้ความลับของมัน” ทพ.สม กล่าว

ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น เล่มแรกเจอมรสุมมาเยอะมาก เพราะโดนนักวิทยาศาสตร์บางคนออกมาคัดค้านว่ามีข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เป็นเรื่องทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ อยู่นานพอดู มีการโต้ตอบคำถามกันจนเคลียร์ใจกันไปแล้วในบางส่วน พอมาถึงเล่มที่สองนี้ ผู้เขียนจึงเพิ่มความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ

“ผมเขียนจากสิ่งที่ผมถนัด มีความรู้ ผมปฏิบัติธรรมเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ส่วนวิทยาศาสตร์ก็สนใจตั้งแต่เริ่มเรียน เวลาผมเจอข้อมูลอะไรที่น่าสนใจในอินเทอร์เน็ตก็เซฟไว้ หนังสือก็เก็บไว้ พอจะมาเขียนก็รื้อออกมาศึกษาอีกรอบ ซึ่งข้อมูลเยอะมากและผมศึกษามานาน และในเล่มนี้ผมระวัง ผมรู้ว่าจะโดนวิจารณ์จากนักวิทยาศาสตร์ ผมพยายามไม่ให้พลาด เล่มนี้ไม่มีวิทยาศาสตร์แล้วไม่ถูกต้อง ซึ่งคราวนี้สามารถเชื่อมโยงกับพุทธศาสนาได้จริงๆ การเขียนเรื่องอย่างนี้มันเซนซิทีฟมาก ถ้าไม่รู้จริงอันตราย คือคนฝ่ายวิทย์ก็บอกว่า บังอาจเอาไอน์สไตน์มาเทียบกับพระพุทธเจ้า เพราะเขาบอกไอน์สไตน์เหนือกว่ามีรูปธรรมที่เห็นชัดกว่า อย่างระเบิดปรมาณู แต่คนศาสนาไม่ควรบังอาจเอาไอน์สไตน์มาเชิดชูเทียบกับพระพุทธเจ้า ซึ่งถ้าเรามีจุดอ่อนเสร็จแน่ เราต้องระวังมากเลย”

ท้ายสุด ทพ.สม บอกกับผู้อ่านไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น เล่ม 2 ว่า หนังสือจะให้ประโยชน์กับผู้อ่าน “ในโลกเราปัจจุบันมีอะไรอีกเยอะ เรื่องของธรรมะจะทำให้เรารู้สึกพอ เพราะเราหลงไปกับวิทยาศาสตร์มาก อยากได้รถรุ่นใหม่ มือถือรุ่นใหม่ กิเลสทั้งนั้นเลย หนังสือพยายามเชื่อมโยงว่าของจริงคือธรรมะ แต่เราพยายามอธิบายในเชิงเหตุผล และเล่มนี้คนอ่านจะได้ความรู้ทางวิทยาศาตร์ ทฤษฎีควอนตัมและสัมพันธภาพ สองทฤษฎีนี้มันยาก เฉพาะสัมพันธภาพไอน์สไตน์ก็ใช้เวลาอธิบาย 30 ปี ทำไมแสงยืดหดเวลาได้ เล่มนี้อ่านปุ๊บเข้าใจได้ง่าย หรือแม้แต่ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่ลึกล้ำมากๆ จะเข้าใจ เพราะผมใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย และอธิบายไว้อย่างละเอียด”

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ คาราบาวคัพ วันนี้