ห้องเรียนธรรมชาติ ‘สวนพฤกษศาสตร์ระยอง’
ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มีผืนป่าเสม็ดขาวขนาดใหญ่และบึงน้ำขนาด 1,193 ไร่ เป็นที่อยู่อาศัยของพันธุ์ปลาและฝูงนก ตั้งอยู่ที่ “สวนพฤกษศาสตร์ระยอง”
เรื่อง/ภาพ : กาญจนา
ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มีผืนป่าเสม็ดขาวขนาดใหญ่และบึงน้ำขนาด 1,193 ไร่ เป็นที่อยู่อาศัยของพันธุ์ปลาและฝูงนก ตั้งอยู่ที่ “สวนพฤกษศาสตร์ระยอง” แหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าไปทำความรู้จักป่าและส่องสิ่งมีชีวิตตามวิถีธรรมชาติ
เรือท้องแบนประจำการอยู่ที่ท่า ก่อนลงเรือเจ้าหน้าที่ได้แจกหมวกปีกกว้างก่อนสตาร์ทเครื่องพานักท่องเที่ยวออกเดินทาง จุดแรกที่พาไปคือ กอหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่เลื้อยยุ่งเหยิงอยู่กลางน้ำ เจ้าหน้าที่อธิบายว่า พืชกินแมลงชนิดนี้จะกลายเป็นขวดน้ำเวลาอยู่ในป่า เพราะน้ำฝนที่ค้างอยู่ในหม้อนั้นสามารถใช้ดื่มได้
จากนั้นเรือได้แล่นแหวกกอบัวหลวง บัวเผื่อน บัวผัน และบัวบา ที่เตะตาเป็นพิเศษเห็นจะเป็นเจ้าบัวบา ไม้ลอยน้ำขนาดเล็กที่มีรากยึดติดกับดินใต้น้ำ มันชูช่อดอกสีขาวขนาดจิ๋วจำนวนมากจนกลายเป็นพรมสีขาว และเมื่อมองเข้าไปใกล้ๆ จะเห็นขนเล็กๆ บนกลีบดอก ดูแล้วไม่เหมือนบัวที่เคยรู้จัก แต่เป็นตระกูลบัวเหมือนกัน แถมยังให้ดอกตลอดปี
เมื่อขยับเข้าไปลึกจะเริ่มเห็นนกมากขึ้น ทั้งนกงูหรือนกอ้ายงั่ว มันมีตัวสีดำ มีคอยาวเหมือนตัวงู เวลากินปลามันจะบินลงไปลอยคอในน้ำและมุดตัวลงไปกินปลาอย่างรวดเร็ว อีกชนิดที่พบมากคือ นกปากห่าง นกสีขาวตัวใหญ่ปากยาวที่ชอบอยู่เป็นฝูงบนกิ่งไม้ พวกมันชอบเกาะอยู่บนกิ่งต้นเสม็ดขาว ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้พระเอกของสวนแห่งนี้
เสม็ดขาวเป็นพืชที่หาได้ยาก แต่เห็นได้เกลื่อนกลาดในสวนพฤกษศาสตร์ระยอง โดยที่นี่นับเป็นแหล่งเสม็ดขาวโบราณขนาดใหญ่ที่สุดและเป็นแห่งเดียวของภาคตะวันออก ก่อนจะอธิบายเรื่องต้นไม้ เจ้าหน้าที่ได้จอดเรือไว้ใต้สะพาน จุดที่จะให้นักท่องเที่ยวเดินเท้าศึกษาธรรมชาติแบบระยะสั้น ซึ่งแน่นอนว่า พืชส่วนใหญ่ที่พบคือ เสม็ดขาว นั่นเอง
เจ้าหน้าที่เล่าว่า ส่วนประกอบของต้นเสม็ดขาวมีประโยชน์ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไม้ ที่นำไปใช้เป็นเครื่องมือในการก่อสร้าง ไปทำรั้วบ้าน นั่งร้าน เสาเข็ม ทำฟืน และเผาถ่าน ส่วนเปลือกไม้ใช้ทำฝาบ้าน มุงหลังคา หรือนำไปชุบน้ำมันยางทำไต้จุดไฟ ส่วนใบก็นำไปสกัดทำน้ำมันหอมระเหยได้
หลังจากนั้น ลงเรือลำเดิมอีกครั้ง ล่องลัดเลาะป่าเสม็ดขาวไปอย่างเชื่องช้า โดยลำต้นของพวกมันแช่อยู่ในน้ำทำให้เห็นภาพสะท้อนสุดสวยงาม ก่อนจะพ้นขอบชายป่าออกไปยังบึงน้ำกลางแดดจ้าอีกครั้ง
ส่วนเส้นทางขากลับเรือได้แล่นผ่านกอหญ้าสูง เจ้าหน้าที่ชี้ให้ดูแล้วบอกว่า นี่คือ แพหญ้าหนังหมา เป็นแผ่นดินลอยน้ำที่สามารถเดินได้ รับประกันไม่จม แต่รองเท้าจะเปียกแฉะนิดหน่อย ได้ประสบการณ์เลอะดี
จากนั้นเจ้าหน้าที่เร่งเครื่องยนต์ผ่านกอสาหร่ายข้าวเหนียว ทำนกอีโก้งที่ซุ่มตัวในดงกระจูดกระพือปีกบิน ตัวเรือนั้นกำลังมุ่งหน้ากลับถิ่นไปยังท่าเรือหน้าตึกอำนวยการ
สวนพฤกษศาสตร์ระยอง จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมพรรณไม้ภาคตะวันออก ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ และให้บริการเผยแพร่ความรู้แก่ประชาชน เพื่อสร้างความเข้าใจในแนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรพื้นที่ชุ่มน้ำและพรรณไม้ท้องถิ่นมากขึ้น
สวนเปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.00 น. หากมาล่องเรือช่วงเช้าจะเห็นดอกบัวบานสะพรั่ง แต่ถ้ามาช่วงบ่ายแก่จะได้บรรยากาศแสงเย็นเหมือนเข้าไปอยู่ในภาพวาดสีน้ำมัน โดยการล่องเรือแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 


