ผจญภัยในห้วงแฟนตาซี แคซา คิงสลีย์

จินตนาการไม่เคยหยุดนิ่งในโลกวรรณกรรม มหัศจรรย์ไม่เคยเหือดหายไปจากปลายปากกาของเธอ

เรื่อง วิชช์ญะ ยุติ / ภาพ ไม่มีเครดิต

จินตนาการไม่เคยหยุดนิ่งในโลกวรรณกรรม มหัศจรรย์ไม่เคยเหือดหายไปจากปลายปากกาของเธอ

ใช่ เรากำลังหมายถึง “แคซา คิงสลีย์” นักเขียนหญิงเลือดมะกันที่กำลังถูกจับตามองอย่างมาก ณ เวลานี้

ด้วยผลงานวรรณกรรมเยาวชนชุด “เอเร็ค เร็กซ์” (Erec Rex/ถูกแปลเป็นภาษาไทย 4 เล่ม ดวงตาแห่งมังกร อสุรกายแห่งดินแดนนิรเทศ ค้นหาความจริงอันยิ่งใหญ่ และเผชิญเจ้าแห่งการลงทัณฑ์ โดยหิมาลายา สำนักพิมพ์อิ่มอ่าน) ที่มีรางวัลระดับท็อปการันตี เช่นว่า Best Children’s Fiction 2006 จาก USA BookNews.Com ชนะเลิศ Indie Excellence Award 2007 จาก Publinsider.Com ชนะเลิศ Best First Book เวที Benjamin Franklin Award 2007 จึงไม่แปลกที่เธอจะกลายเป็นนักเขียนไฟแรง และผลงานของเธอก็ขึ้นแท่นเบสต์เซลเลอร์ไปเรียบร้อย

เอเร็ค เร็กซ์ เล่าเรื่องเด็กชายวัย 12 ที่มีพลังประหลาดน่าอัศจรรย์ ซึ่งสั่งให้เขาออกตามหาแม่ที่สาบสูญไป ณ ดินแดนแห่งเวทมนตร์อะลีเพียม วางพล็อตได้ตื่นตาตื่นใจผสมความเป็นแฟนตาซี สอดแทรกแง่คิด จินตนาการล้ำๆ ไว้เพียบ ขาดไม่ได้คืออารมณ์แอ็กชัน ที่จะพาผู้อ่านหลุดเข้าไปอยู่ในวงโคจรของความสนุกสนานเหนือจริง โดยผู้เขียนพยายามสร้างความต่างจากวรรณกรรมแนวเดียวกัน ด้วยลีลาภาษาและบทสนทนาที่กระชับแต่หนักแน่น

“ฉันคิดว่าคงเลี่ยงไม่ได้หรอกที่นำมันไปเปรียบเทียบกับ แฮร์รี่ พอตเตอร์ หรือหนังสือแฟนตาซีเรื่องอื่น แต่เอเร็คก็มีความเป็นเฉพาะตัวสูงทีเดียวนะ เพราะโครงเรื่องจากเล่มแรกจนถึงเล่มล่าสุดไม่ซ้ำกันเลยล่ะ อย่างเล่ม 4 ฉันก็ใส่ตัวละครกินรี และเวตาลที่พบในวรรณกรรมไทยลงไปด้วย” แคซา บอกกับเราผ่านทางอีเมล

จุดเริ่มต้นของการเขียนวรรณกรรมเยาวชนของแคซา จะว่าไปก็มาจากนิสัยรักการอ่านที่ครอบครัวปลูกฝังตั้งแต่วัยเยาว์ โดยมีพ่อ (ทันตแพทย์) แม่ (ผู้ช่วยทันตแพทย์) ลุง (นักเปียโน) เป็นกองหนุนคอยส่งเสริมเสมอมา นอกจากนั้น หนังสือที่เธอชื่นชอบเอามากๆ ได้แก่ ชาร์ลีกับโรงงานช็อกโกแลต หนังสือชุดพ่อมดออซ และอลิซในดินแดนมหัศจรรย์ ก็ช่วยสร้างพลังใจให้เธออยากเขียนได้ดี

“จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังชอบหนังสือเหล่านั้นอยู่นะ” สาวโอไฮโอยอมรับ “ฉันว่ามันเป็นความรู้สึกลึกๆ ที่ฉันไม่อยากโตเป็นผู้ใหญ่ เป็นจินตนาการแปลกและสนุก แล้วฉันยังมีความเชื่อในเรื่องต่างๆ อย่างตอนเด็กๆ เชื่อว่าตัวเองจะบินได้ถ้าฝึกฝนจริงจัง แล้วฉันยังชอบเรื่องบ๊องๆ ทำนองนี้อีกเพียบ เพราะมันเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ ฉันยังติดเคาะอะไรที่เป็นไม้เวลาที่ได้ยินเรื่องราวดีๆ และจะพูดว่า ‘พระเจ้าไม่อนุญาต’ เมื่อได้ยินใครพูดเรื่องไม่ดี ฉันว่าฉันมีชีวิตเหมือนอยู่ในโลกแฟนตาซีมาก นี่เป็นเหตุผลให้ฉันเลือกเขียนเรื่องแฟนตาซี”

ความที่แคซาชื่นชอบเรื่องราวแนวตำนานโบราณมาแต่ไหนแต่ไร สิ่งเหล่านี้จึงหลอมรวมเป็นแรงบันดาลใจสำคัญ จนทำให้เธอสามารถต่อยอดถ่ายทอดสู่ตัวอักษรในผลงานชุดผจญภัยแห่งจินตนาการที่หลายๆ คนตั้งหน้าตั้งตาอ่านอย่างใจจดจ่อ

“ก่อนจะเริ่มวางแผนการเขียนเอเร็ค ฉันใช้เวลาอ่านตำนานโบราณทั้งของกรีก โรมัน นอร์ซ (นอร์เวย์) และเซลติก รวมทั้งตำนานจากวัฒนธรรมอื่นๆ ด้วย ในบรรดาเรื่องราวมหัศจรรย์ทั้งหลายที่ได้อ่านมา ฉันติดใจตำนานของเฮอร์คิวลิสมากที่สุด ซึ่งเรื่องราวนั้นมันก็กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้หนังสือชุดนี้ด้วย เฮอร์คิวลิสต้องทำภารกิจ 12 อย่าง ส่วนเอเร็คก็พบว่าเขาต้องทำพันธกิจ 12 อย่างเช่นกัน ซึ่งจะมีความคล้ายคลึงกับงานของเฮอร์คิวลิสอยู่ประมาณหนึ่ง”

สำหรับแคซานั้นไม่ใช่จะมีพรสวรรค์แค่เรื่องการเขียนเพียงอย่างเดียว แต่เธอยังโดดเด่นด้านเพลงชนิดที่ใครๆ ก็คาดไม่ถึง ยิ่งเฉพาะการแต่งเพลงเนื้อหาเชิงเสียดสียั่วล้อสังคม ถือว่าเข้าขั้นจิกกัดได้แสบสันเหลือร้าย ช่างสวนทางกับชีวิตมุมกลับที่มีจินตนาการและแฟนตาซีจริงแท้ช่วยชี้นำ

“การเขียนเป็นการปลดปล่อยพลังในการสร้างสรรค์ของฉัน เวลาที่กำลังติดพันอยู่กับเรื่องที่เขียน ฉันจะนั่งเขียนได้วันละ 810 ชั่วโมง ขณะที่เขียนฉันจะรู้สึกเหมือนว่ากำลังนั่งดูหนัง ซึ่งมันค่อยๆ เปิดเผยเรื่องราวออกมาให้เห็น สำหรับฉันการเขียนจึงเป็นกระบวนการที่ให้อารมณ์หลากหลายและเต็มอิ่มมากๆ”

หมายเหตุ ห้ามพลาดเด็ดขาดกับการกระทบไหล่ตัวเป็นๆ ผู้ให้กำเนิด เอเร็ค เร็กซ์ “แคซา คิงสลีย์” พรุ่งนี้ (26 ต.ค.) ช่วงบ่ายเธอจะบินลัดฟ้าจากสหรัฐอเมริกามาปรากฏกายเพื่อร่วมเปิดตัวผลงานเล่มใหม่ พร้อมแจกลายเซ็นให้แก่สาวกแบบชิดใกล้ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์