เผยว่าที่พ่อตา "เจ้าแหลม" เป็นเจ้าของสวนทุเรียน100ไร่ แต่ใช้ชีวิตสมถะ

คนใกล้ชิดเผย ว่าที่พ่อตาของ "เจ้าแหลม" ศรีสะเกษ เป็นเจ้าของสวนทุเรียน-ปาล์มกว่า 100ไร่ แต่ใช้ชีวิตสมถะ กังวลถูกวิจารณ์เรื่องฐานะเพราะเห็นภาพแค่ร้านก๋วยเตี๋ยว

ความคืบหน้าหลังจาก "เจ้าแหลม" ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น แชมป์โลก รุ่นซูเปอร์ฟลายเวท 115 ปอนด์ ของสภามวยโลก หรือ WBC ได้หมั้นกับ น.ส.พรพิมล สารแก้ว หรือ น้องจ๊ะจ๋า ที่ ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 24 ก.ค.61 จนกลายเป็นหนึ่งในประเด็นที่สังคมให้ความสนใจนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.ค. คนใกล้ชิดของ นายบุตดา สารแก้ว บิดาของน้องจ๊ะจ๋า ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ การหมั้นตกเป็นข่าว นายบุตดาได้เกิดความไม่สบายใจโดยเฉพาะภาพร้านก๋วยเตี๋ยวริมทางเล็กๆซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว ทำให้รู้สึกคล้ายเป็นคนที่ขัดสน ไม่มีฐานะ ซึ่งอาจจะทำให้สังคมมองลูกสาวว่า ยอมแต่งงานกับ แหลม เพื่อเหตุผลอื่นไม่ใช่ความรัก

"ความจริงครอบครัว ของน้องจ๊ะจ๋า เป็นครอบครัวที่มีฐานะระดับกลาง มีสวนทุเรียน และสวน ปาล์มน้ำมัน เกือบ 100 ไร่ ในปีที่ทุเรียนให้ผลเต็มที่ มีรายได้นับ 10 ล้านบาท แต่ครอบครัวของ น้องจ๊ะจ๋า เป็นครอบครัวสมถะ ไม่ อวดร่ำอวดรวย จึงดูคล้ายเป็นคนไม่มีฐานะ ครอบครัวมีพี่น้อง 4 คน และน้องจ๊ะจ๋า เป็นลูกคนสุดท้องที่ พ่อแม่รักมากที่สุด ถ้ามองแบบทั่วไป แหลม โชคดีด้วยซ้ำ ที่จะได้คู่ครอง มีฐานะระดับนี้"คนใกล้ชิดว่าที่พ่อตาของเจ้าแหลมกล่าว

ด้าน พ.ต.ท.ชาติชาย มูลลักษณ์ รอง สว.สส.สภ หลังสวน เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ให้ดูแล แหลม ในฐานะ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และ ในฐานะ และเป็นตำรวจด้วยกัน โดยวันนี้ แหลม และ น้องจ๊ะจ๋า แฟนสาวได้ เดินทางไปดูสวนทุเรียน ซึ่งแหลมบอกว่า หลังเลิกชกมวยแล้ว จะย้ายมาอยู่ที่หลังสวน จ.ชุมพร เพื่อทำสวนทุเรียน

ทั้งนี้สวนทุเรียนของครอวครัวคู่หมั้นของเจ้าแหลมอยู่ในพื้นที่ บ้านในหงาว ต.หาดยาย อ.หลังสวน ซึ่งเป็นสวนทุเรียนหมอนทอง 30 ไร่ และ ในพื้นที่ ต.วังตะกอ อ.หลังสวน เป็นสวนทุเรียนและสวนปาล์ม อีกกว่า 50 ไร่ รวม ทั้งหมดเกือบ 100ไร่

ขณะที่ แหลม มีคิว ขึ้นชกป้องกันตำแหน่งแชมป์โลก ในวันที่ 6 ต.ค.นี้ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี